WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)

 

Technical highlights
SET Index : แนวต้าน 1400 แนวรับ 1385-1390
  ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1396.16 จุด ลดลง 0.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,178 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1385 จุดก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาปิดที่บริเวณแนวต้าน 1395-1400 จุด และมีแนวต้านถัดไปที่ 1410 จุด
  Daily : ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1395-1400 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1400 จุดขึ้นไปมีโอกาสถูกขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1410 จุด ในขณะที่แนวโน้มหลักของ SET Index มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1440-1450 จุด แต่เราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะขายทำกำไร เพื่อรอการทะลุผ่าน 1470 จุดขึ้นไป
  กลยุทธ์ : SET Index มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะสั้นกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1400 จุด และมีแนวต้านที่ 1410 จุดเป็นจังหวะขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับที่ 1385-1390 จุด จะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นเพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบ 1440-1450 จุด

 

Asia Fund Flow : 10 กันยายน 2558
  ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ขายสุทธิ 41 ล้านเหรียญ (11 ก.ย.)
  ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 64 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ขายสุทธิ 9 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ขายสุทธิ 13 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นไทย ซื้อสุทธิ 23 ล้านเหรียญ

 

Most Active Value : แนวรับ แนวต้าน
JAS แนวโน้มขึ้นทดสอบ 6.00 และ 6.10 แนวรับ 5.80 5.80 / 5.70 6.00 / 6.10
KBANK สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 190 184 / 182 186 / 188
CPR ขายที่แนวต้าน 10.50 แนวรับสำคัญ 9.70 10.20 / 10.00 10.50 / 10.80
ADVANC เคลื่อนไหวในกรอบ 236-240 238 / 236 240 / 242
CPF ระยะสั้นขายที่แนวต้าน 20.50 แนวรับ 19.80 20.00 / 19.80 20.30 / 20.50
ITD ขายที่แนวต้าน 8.20 แนวรับ 7.90 8.00 / 7.90 8.20 / 8.30
KTB สัญญาณซื้อต่อเนื่อง แนวต้าน 19.80-20.00 18.40 / 18.20 19.80 / 20.00
PTT แนวต้าน 260 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 270 255 / 254 260 / 264
TPIPL ทดสอบแนวต้านที่ 2.60 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 2.78 และ 2.88 2.58 / 2.54 2.60 / 2.68
IFEC สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 12.00 10.70 / 10.50 11.00 / 11.20

PTT Global Chemical (PTTGC TB; THB 56.75) - ซื้อ


  แนวต้าน : 60.00 และ 62.00
  แนวรับ : 56.50 และ 56.00
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่โครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากฟื้นตัวเหนือจุดต่ำสุดเดิม
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50


  แนะนำซื้อ PTTGC โดยมีแนวรับที่ 56.50 และ 56.00 และมีแนวต้านที่ 60.00 และ 60.00 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 55.00 ลงไป

Compass East Industry (CEI TB; THB 1.20) - ซื้อ


  แนวต้าน : 1.28 และ 1.32
  แนวรับ : 1.20 และ 1.18
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ CEI โดยมีแนวรับที่ 1.20 และ 1.18 และมีแนวต้านที่ 1.28 และ 1.32 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.12 ลงไป

 

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

ตลาดหุ้นสหรัฐ...1998 หรือ 2011
  ความผันผวนที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีน ทำให้เกิดความผันผวนในตลาดหุ้นทั่วโลก แม้จะคลายตัวลงบ้าง แต่ถือว่ายังห่างใกล้กับการสิ้นสุด และยังทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในภาวะผันผวน เราจึงพยายามหารูปแบบของการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงที่ผ่านมาเทียบกับรูปแบบในปัจจุบัน ซึ่งดูแล้วมีอยู่ช่วง 2 เวลาคือในปี 1998 (ช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเอเชีย) และปี 2011 ช่วงที่สหรัฐถูก S&p ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยการเปรียบเทียบดูจาก 1. ราคาน้ำมัน 2. การลงของดัชนีตลาดหุ้น 3. ค่าเงินดอลลาร์และ 4. กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลงและที่นำขึ้น
  ในปี 1998 หลังเกิดวิกฤติกับเศรษฐกิจของเอเชียที่เกิดในไทย ที่เริ่มในปี 1997 หลังจากนั้นผลของวิกฤติก็เริ่มกระจายไปทั่วโลก โดยในปี 1997-1998 ราคาน้ำมันปรับตัวลงประมาณ 61% เทียบปัจจุบัน (2014-2015) ลงไปมากกว่า 50% ค่าเงินดอลลาร์หรือ Dollar index แข็งตัว 26 % เทียบปัจจุบันที่ 18 % ดัชนีดาวโจนส์ในปี 1998 ลงไปจากจุดสูงสุดถึงต่ำสุดที่ 20% เทียบปัจจุบันที่ 15% และอุตสาหกรรมที่นำลงในปี 1998 คือ หุ้นพลังงาน ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยืนได้ คือ กลุ่มที่โยงกับการบริโภคและโรงพยาบาล เหมือนปัจจุบัน จากรูปด้านซ้าย หากดูเฉพาะดัชนีอย่างเดียว จุดต่ำสุดของดัชนีดาวโจนส์อยู่ที่เดือน ส.ค. แล้วแกว่งในเดือน ก.ย. สุดท้ายดีดกลับในต้น ต.ค.
  ปี 2011 ความผันผวนของดัชนีดาวโจนส์เกิดจากทาง S&p ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นออกแรง โดยประเด็นในปี 2011 ที่ไม่เหมือนปัจจุบันคือ ราคาน้ำมันในปีนั้นปรับตัวขึ้น ประเด็นที่คล้ายๆ คือ การปรับตัวขึ้นของดัชนี VIX ที่ขึ้นไปสูงสุดประมาณ 50 สัญญาญทางเทคนิค และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ในปี 2011 ปรับตัวลงจากจุดสูงสุดถึงต่ำสุด 17% เทียบปัจจุบันที่ลงไปแล้ว 15% โดยจุดต่ำสุดอยู่ในปลายเดือน ก.ย. แล้วดีดตัวกลับในเดือน ต.ค.
  ใน 2 ช่วงเวลายังตอบไม่ได้ว่าดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ จะย้อนแบบในปีไหน แต่ที่เหมือนกัน คือ 4 ประเด็นที่เราใช้เปรียบเทียบ ปรากฏว่าปี 1998 คล้ายกับปัจจุบัน มากกว่าปี 2011 สิ่งที่พอสรุปได้หากรูปแบบการเคลื่อนไหวของดัชนีดาวโจนส์ในปีนี้คล้ายๆปี 1998-2011 คือ 1. ดัชนีตลาดหุ้นจะยังอยู่ในความผันผวนในช่วงเดือน ก.ย. แต่จะเริ่มฟื้นตัวในเดือน ต.ค. และ 2. สัดส่วนการลงของดัชนีใกล้เคียงกัน
  เรามองว่าวิกฤติในปัจจุบันน่าจะยังคลายตัวลงชั่วคราว หลังจากจีนเริ่มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพียงแต่รอดูความชัดเจนการการปรับขึ้นดอกเบี้ยในสหรัฐ หาก FED ยังไม่ชัดเจนในการประชุม FOMC ในวันที่ 16-17 นี้ โอกาสที่จะเกิดความผันผวนขึ้นมาอีกมีสูงมาก อย่างไรก็ตามหากส่งสัญญาณชัดเจนทั้งขึ้นหรือไม่ขึ้น ตลาดจะลดความผันผวนลง ดังนั้นในช่วงนี้ยังต้องจับตามองการส่งสัญญาณจากรัฐบาลจีน หากเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ความผันผวนของตลาดโดยรวมน่าจะคลายตัวลง อันจะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นดีดตัวกลับในช่วงสั้น
  วันนี้คาดดัชนี SET จะขึ้นทะลุ 1400 จุด จากแรงหนุนของราคาน้ำมัน โดยทิศทางดัชนี SET ในสัปดาห์หน้ายังต้องติดตามดูความชัดเจนการประชุม FOMC และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ที่โยงท่องเที่ยวและสื่อสารถือว่าน่าสนใจ ราคาหุ้น underperform กว่ากลุ่มอื่น แนวต้านวันนี้อยู่ที่ 1405-1410 จุด ส่วนแนวรับที่ 1390-1385 จุด และซื้อเก็งกำไร CENTEL


บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)

 

Investment Strategy
  กลยุทธ์ : เรามองว่าวิกฤติในปัจจุบันน่าจะยังคลายตัวลงชั่วคราว หลังจากจีนเริ่มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพียงแต่รอดูความชัดเจนการการปรับขึ้นดอกเบี้ยในสหรัฐ หาก FED ยังไม่ชัดเจนในการประชุม FOMC ในวันที่ 16-17 นี้ (Bloomberg consensus คาดมีโอกาสที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.50% อยู่ 70% และอีก 30% คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25%) โอกาสที่จะเกิดความผันผวนขึ้นมาอีกมีสูงมาก อย่างไรก็ตามหากส่งสัญญาณชัดเจนทั้งขึ้นหรือไม่ขึ้น ตลาดจะลดความผันผวนลง ดังนั้นในช่วงนี้ยังต้องจับตามองการส่งสัญญาณจากรัฐบาลจีน หากเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ความผันผวนของตลาดโดยรวมน่าจะคลายตัวลง อันจะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นดีดตัวกลับในช่วงสั้น วันนี้คาดดัชนี SET จะขึ้นทะลุ 1400 จุด จากแรงหนุนของราคาน้ำมัน โดยทิศทางดัชนี SET ในสัปดาห์หน้ายังต้องติดตามดูความชัดเจนการประชุม FOMC และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ที่โยงท่องเที่ยวและสื่อสารถือว่าน่าสนใจ ราคาหุ้น underperform กว่ากลุ่มอื่น แนวต้านวันนี้อยู่ที่ 1405-1410 จุด ส่วนแนวรับที่ 1390-1385 จุด และซื้อเก็งกำไร CENTEL

 

Themes play :
  PTTGC : เราแนะนำซื้อ PTTGC โดยมีราคาเป้าหมาย 84 บาท โดยเราเชื่อว่าราคาหุ้นมี downside จำกัดจากการที่บริษัทมีการประกาศซื้อหุ้นคืนจำนวนไม่เกิน 90 ล้านหุ้นที่วงเงินไม่เกิน 4,500 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน (เริ่มตั้งแต่ 8 ก.ย. 58 - 7 มี.ค 59) นอกจากนั้น เราเชื่อว่า PTTGC เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจจากแนวโน้มการเติบโตของกำไรในปี 2015-17 เนื่องจากมาร์จินโอเลฟินส์คาดจะอยู่ในขาขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะอุปทานเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวในขณะที่อุปสงค์คาดจะเติบโต 3-4% ต่อปี แม้ผลประกอบการรายไตรมาสของ PTTGC จะผันผวน แต่เราเชื่อว่ากำไรเป็นรายปีจะยังคงเติบโตตามทิศทางมาร์จินโอเลฟินส์และอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นจากวัตถุดิบก๊าซที่เพิ่มขึ้นจากโรงแยกก๊าซของ PTT เราคาดว่ากำไรใน 4Q15 จะฟื้นตัวจากมาร์จินและปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์หลังมีการปิดซ่อมโรงงานอะโรเมติกส์ 2 เป็นเวลา 75 วันใน 3Q15

 

ประเด็นในสัปดาห์
  12 ก.ย. : จีนประกาศตัวเลข Industrial Production เดือนส.ค. โดยตลาดคาด +6.3% จากเดือนก่อนหน้าที่ +6.0%
  14 ก.ย. : ยุโรปประกาศตัวเลข Industrial Production SA YoY เดือนก.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.4%
  15 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ +0.6%
  15 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Industrial Production MoM เดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ +0.6%

 

Opportunity day
  11 ก.ย. : EPG PLANB SENA XO TKT
  14 ก.ย. : SIS TASCO ANAN PT SYNEX
  15 ก.ย. : FVC KBS TPCH ATP30 CI LST UPOIC
  16 ก.ย. : WHA GUNKUL BJC EASTW CCN
  17 ก.ย. : SCN HTECH LDC GCAP

 

Fundamental Stock :
  ADVANC : FLASH NOTE - แนวโน้มยิ่งสดใส (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย278 บาท)

 

Technical Pick :
  กลยุทธ์ : SET Index มีแนวต้าน 1400-1408 จุด แนวรับ 1385-1390 จุด
  PTT Global Chemical (PTTGC TB; THB 56.75) - ซื้อ
  Compass East Industry (CEI TB; THB 1.20) - ซื้อ

SET Index : แนวต้าน 1400-1408 แนวรับ 1385-1390
Retail Research Team

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!