- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 September 2015 16:30
- Hits: 2432
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เปิดย่อตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย สู่แนวรับ 1,380-1,385 จุด ก่อนเริ่มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป นำโดยกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขณะที่การขึ้นเครื่องหมาย XD ของ PTT มีผลกระทบราว 1.81 จุด ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,396.16 จุด ลบไปเพียง 0.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36,178 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วัน 825 ล้านบาท กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures มากถึง 10,617 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 16 เท่ากับ 1,105 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ญี่ปุ่นเผชิญกับอุทกภัย ครั้งใหญ่ โดยทำให้เขื่อนในเขต อิบารากิ แตก
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ติดตามการหารือระหว่าง รองนายกฯ พล.อ.ประจิณ - รมว. ICT กับ กสทช. วันที่ 14 ก.ย.
การประชุม BoJ วันที่ 15 ก.ย. Bloomberg consensus คาดคงเป้าหมายการเพิ่มปริมาณเงิน
การประชุม กนง. วันที่ 16 ก.ย. เราคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50%
การประชุม เฟด วันที่ 17 ก.ย. Bloomberg consensus คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ติดตามการประชุมครม. วันอังคาร และ ครม.เศรษฐกิจในวันพุธ
การปรับดัชนี FTSE มีผล ณ ราคาปิด วันที่ 18 ก.ย.
มุมมองต่อตลาด
เรายังคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น "กลางถึงบวก" วันที่ 9 แม้ว่า SET INDEX วันนี้จะแกว่งในกรอบแคบ เพราะเป็นการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ แต่ก็ยังไม่ตัดโอกาสที่ SET INDEX จะขึ้นไปทดสอบ 1,400 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายวันนี้ เพราะความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสถาบันภายในประเทศ ต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ และเรียกความเชื่อมั่นจากทีมเศรษฐกิจ นำโดย รองนายกฯ ดร.สมคิด ที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนือง
เราประเมินจากปัจจัยการลงทุนตลาดหุ้นไทยที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จากนโยบายเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้ SET INDEX จะไต่ระดับขึ้นทดสอบแนว 1,420 จุด ก่อนผลการประชุมเฟดในวันที่ 17 ก.ย. อีกทั้งบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกอาจเกิดแรงเก็งกำไร ต่อผลการประชุมเฟดที่อาจจะไม่ขยับขึ้น อัตราดอกเบี้ยในการประชุมนัดนี้ ส่งผลให้เงินทุนไหลกลับเข้าตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทยลักษณะ Covered short พร้อมกับทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะกลับมาอ่อนค่า เพื่อสะท้อนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ทรงตัวระดับต่ำต่อเนื่อง
สำหรับประเด็นสำคัญในสัปดาห์หน้า นอกเหนือจากการประชุมเฟดแล้ว ยังมีการประชุมธนาคารกลางที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น BoJ หรือ กนง. เราคาดว่า กนง.จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วันที่ 1.50% เพื่อประคองค่าเงินบาทไม่ให้อ่อนค่าลงไปเร็ว ภายใต้ภาพรวมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้
และแน่นอนว่า การประชุม ครม.ทุกวันอังคาร และ ครม.เศรษฐกิจ ทุกวันพุธ จะยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินถึงทิศทางนโยบายเศรษฐกิจระยะสั้น - กลาง - ยาว ที่จะออกมาต่อเนื่องจากนี้ไป เพื่อรักษาระดับความเชื่อมั่น และทำให้แผนงานต่างๆ ออกมาเป็นรูปธรรม สะท้อนกลับมาเป็นตัวเลขเศรษฐกิจใน 4Q58
รองนายกฯ ดร.สมคิด และทีมเศรษฐกิจจะเริ่มเดินสายโรดโชว์ นักลงทุน ญี่ปุ่น / เกาหลีใต้ / จีน ในเดือนต.ค. เท่ากับว่า ช่วงที่เหลือของเดือนก.ย. แนวทางการทำงานให้เป็นรูปธรรม และกรอบเวลาการทำงานในแต่ละด้านจะมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนำไปสู่การชี้แจงต่อนักลงทุนต่างชาติ ให้กลับมาลงทุนในประเทศไทย ทั้งในแง่ของภาคการผลิต และบริการ ที่รัฐบาลเตรียมผลักดันเขตเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ๆ
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายต่อเนื่อง หาก SET INDEX ซึมตัวลง และหุ้นเป้าหมายราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย โดยมุ่งเน้นหุ้นกลุ่ม Domestic Play ที่ยังขึ้นช้ากว่าภาพรวมของกลุ่ม"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Accumulative Buy: ITD / KTB
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 8.15 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET มีมุมมองเชิงบวกต่อ การเข้าหารือของรองนายกฯ ดร.สมคิด กับ รมว.คมนาคม และคณะทำงาน วันพุธที่ผ่านมา เพื่อมอบนโยบายในการเร่งรัดการทำงานโครงการลงทุนขนาดใหญ่ให้เป็นรูปธรรมเร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะกลางถึงยาว
b) และล่าสุด รองนายกฯ พล.อ ประวิตร รายงานความคืบหน้าในการหารือกับทางการจีน ถึงโครงการลงทุนรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไทย - จีน ทางไทยเสนอให้ทางการจีนลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงจาก 4% เป็น 2% และคาดว่าคณะทำงานทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการหารืออีกครั้งในช่วงกลางเดือนก.ย. นี้เพื่อหาข้อสรุป และเริ่มงานลงทุนได้ในเดือนต.ค. ตามเวลาที่นายกฯ กำหนดไว้
c) ITD มีความพร้อมสูงสุดในการประมูลงานก่อสร้างระบบรางรถไฟ เนื่องจากมีโรงงานทำไม้หมอนคอนกรีตรถไฟ, โรงงานปูนซีเมนต์, โรงเหล็กเส้น และสามารถทำระบบ Switching ของรถไฟได้เอง จึงมีข้อได้เปรียบมากด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันรายอื่น
d) คาดจะมีความคืบหน้าในการออกประทานบัตรโครงการเหมืองแร่โปรแตซที่ จ.อุดรธานีในช่วงปลาย 3Q58 หรือ ต้น 4Q58 และเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อหุ้น ITD
e) ราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ 8.50 บาท จึงเปรียบเสมือนกับได้มูลค่าของธุรกิจที่เหลือฟรี ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมทวายมูลค่า 1.50 บาท และเหมืองแร่โปรแตซแบบ Conservative ที่ไม่ต่ำกว่า 2.00 บาท
2. KTB : ราคาปิด 18.50 บาท ราคาเหมาะสม 21.03 บาท
a) รัฐบาลเปิดตัวกองทุนหมู่บ้าน วันที่ 14 ก.ย. นี้ วงเงิน 6.0 หมื่นล้านบาท อย่างเป็นทางการ และคาดว่าจะปล่อยกู้ได้ครบภายในสิ้นเดือนต.ค.หรือเร็วกว่าคาด
b) MBKET คาดว่าการเริ่มโครงการดังกล่าวจะเป็นบวกต่อยอดสินเชื่อของ KTB ในช่วง 4Q58 ขยายตัว แม้ว่าจะเป็นโครงการที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ แต่ยอดสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น น่าจะชดเชยกันได้ในระดับหนึ่ง และเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ชะงักงัน จากกำลังซื้อที่ลดลง
c) อีกทั้ง KTB มีสภาพคล่องคงเหลือเพียงพอ เนื่องจาก Loan to Deposit Ratio อยู่ที่ระดับเพียง 90% และจะเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของสินเชื่อให้ขยายตัวตั้งแต่เดือน ต.ค. และต่อเนื่องถึง 4Q58 ที่เป็น High Season ของความต้องการใช้ทุนหมุนเวียนของภาคธุรกิจ
d) Valuation ค่อนข้างถูก โดยซื้อขายระดับ PER2558 เพียง 8.20 เท่า และ PBV2558 ที่ 1.03 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 4.59%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียกลับมาขายสุทธิ US$163 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิUS$507 ล้าน
ยังคงเน้นลดน้ำหนักใน KOSPI ต่อเนื่อง
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วัน 825 ล้านบาท ทั้งนี้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงอยู่ในระดับสูงเกิน 9 หมื่นล้านบาทเป็นวันที่ 4 เท่ากับ 93,131 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Short สุทธิอีกครั้ง มากถึง 10,617 สัญญา เทียบกับวันก่อนหน้า Long สุทธิ 1,986 สัญญา และ 5 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิเท่ากับ 17,891 สัญญา น่าจะการกลับมาเปิดสถานะ Short อีกครั้ง แม้ว่า SET50 Index ยืนเหนือ 900 จุด ได้อย่างแข็งแกร่งก็ตาม ทั้งนี้ S50U15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือ 4.79 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 7.47 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิขยับขึ้นเป็น 51,458 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 16 อีก 1,105 ล้านบาท รวม 16 วันทำการ ขายสุทธิ 45,221 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยกลับมาปรับตัวลงแรงอีกครั้ง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นถึง 3.20bps จากวันก่อนหน้าลดลงเพียง 0.64bps ปิดที่ 3.046%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเหลือ 560 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 636 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 เลือกสะสมกลุ่มธนาคารหนาแน่นอีกครั้ง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 1,162 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 747 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 2,215 ล้านบาท เน้นกลุ่ม Domestic Play แต่กลับลดน้ำหนักกลุ่ม Defensive อย่าง ICT สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคารกลับถูกซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 499 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 143 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 297 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 231 ล้านบาท กลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 217 ล้านบาท และกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 137 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่ม ICT กลับถูกขายสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 220 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 154 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 51 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
การทดสอบโหวตกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ยังไม่ผ่าน: การประชุมสภาคองเกรส เพื่อพิจารณาแนวทางการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ยังไม่ผ่านด้วยเสียง 58 - 42 ทั้งนี้ประธานาธิบดีโอบามา ต้องการเสียงสนับสนุน 60 เสียงเป็นอย่างน้อย โดยพรรค Democrats ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว แต่การโหวตอีกครั้งจะมีขึ้นในวันที่ 17 ก.ย.
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลางถึงลบ
ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เท่ากับ 2.75 แสนตำแหน่ง เท่ากับที่ Bloomberg consensus คาดการณ์ แต่ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.81 แสนตำแหน่ง
ดัชนีราคาส่งออกเดือนส.ค. ลดลง 1.4% mom หดตัวมากกว่า Bloomberg consensus คาด -0.4% mom และเดือนก่อนหน้าที่ -0.4% mom เป็นผลจากผลิตภัณฑ์ด้านอุตฯ, อาหาร และเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
ดัชนีราคานำเข้า เดือนส.ค. หดตัว 1.8% mom มากกว่า Bloomberg consensus คาด -1.6% mom และเดือนก่อนหน้าที่ -0.9% mom เช่นกัน โดยราคาปิโตรเลียมเป็นสาเหตุหลักของการกดดันราคานำเข้า
ยุโรป
BoE มั่นใจเศรษฐกิจอังกฤษยังคงแข็งแกร่ง: การประชุม BoE คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ด้วยเสียง 8:1 พร้อมส่งสัญญาณแนวโน้มเศรษฐกิจอังกฤษยังแข็งแกร่ง และความผันผวนของตลาดเงินตลาดทุนจากเศรษฐกิจจีนที่เติบโตต่ำ ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอังกฤษ และแนวโน้มที่จะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoE ในอนาคต
ผลผลิตภาคอุตฯ ของฝรั่งเศสกลับหดตัวสวนทางกับที่ตลาดคาด: ผลผลิตเดือนก.ค. หดตัว 0.8% mom สวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% mom
จีน
ค่าเงินหยวนลดลงวานนี้ หลัง PBOC ลดอัตราแลกเปลี่ยนกลาง: วันที่ 10 ก.ย. ธนาคารกลางจีน กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนกลาง 6.3772 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ ใกล้เคียงกับอัตราแลกเปลี่ยนที่ปิดวันก่อนหน้าที่ 6.3778 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีน ได้ชะลอการเข้าแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยน
จีนเตรียมเปิดตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในประเทศสำหรับธนาคารกลางต่างประเทศ: ผู้นำจีน กล่าวถึงแผนการเปิดตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในประเทศจีน เพื่อให้ธนาคารกลางในต่างประเทศสามารถซื้อขายเงินหยวน เพื่อให้ค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพ และอยู่ในระดับที่สมดุลย์ และเป็นการปรับเพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ IMF ที่จะพิจารณาให้เงินหยวนเข้าเป็นหนึ่งในสกุลเงิน SDR ในปีหน้า
อัตราเงินเฟ้อจีนเพิ่มขึ้นมากสุดในปีนี้: เพิ่มขึ้น 2.0% yoy ในเดือน ส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 1.6% yoy และมากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดที่ 1.8% yoy นำโดยราคาเนื้อหมูที่เพิ่มขึ้น ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน ส.ค.หดตัว 5.9% yoy เป็นการหดตัวแรงสุดในรอบ 6 ปีและต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 42 เป็นการหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดที่ -5.6% yoy
เอเชียแปซิฟิก
ผู้ว่า BoJ เชื่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่เผชิญกับภาวะถดถอย: ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย ถึงแม้จะยอมรับว่า BOJ อาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ได้ในปีหน้าตามที่คาดไว้ เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะมีอัตราการขยายตัวที่เป็นบวกในไตรมาสสิ้นสุดเดือนก.ย. และญี่ปุ่นยังมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวในระดับปานกลางต่อไป
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของมาเลเซียขยายตัวมากกว่าคาด: เพิ่มขึ้น 6.1% yoy ในเดือน ก.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 4.3% yoy และมากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดที่ 5.0% yoy นำโดยการเพิ่มขึ้นในภาคการผลิต 4.2% yoy โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่เพิ่มขึ้น 14% yoy
ไทย
พล.อ.ประวิตร แจง ครม.ผลเยือนจีนขอลดดอกเบี้ยเงินกู้ 2%: พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รายงานผลการนำคณะเดินทางไปราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างวันที่ 2-5ก.ย. ที่ผ่านมาให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ กล่าวเห็นด้วยกับแนวความคิดของจีนเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเล ซึ่งสอดรับกับการส่งเสริมเครือข่ายทางด้านคมนาคมของไทย โดยรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะให้โครงการความร่วมมือระหว่างไทยและจีนภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของไทยสามารถเริ่มก่อสร้างโดยเร็ว พร้อมทั้งขอลดอัตราดอกเบี้ยจากเดิม 4 % เป็นต่ำกว่าหรือเท่ากับ 2%
ประจิณ - อุตตม เตรียมหารือกับกสทช.รีวิว ดิจิตอลอีโคโนมี: กสทช. เปิดเผยว่า วันที่ 14 ก.ย.นี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. ICT จะเข้าพบหารือกับ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. เกี่ยวกับการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (DE) และการจัดสรรคลื่นความถี่ทั้งหมดของ กสทช. จะเป็นการรีวิวงานที่ กสทช.ได้รับมอบหมายจากบอร์ด DE ก่อนนี้ ทั้งการเป็นเจ้าภาพนำสายโทรคมนาคมลงใต้ดิน รวมถึงหารือเกี่ยวกับการจัดการคลื่นความถี่ต่างๆ ข้อโต้แย้งของ บมจ.ทีโอที ในส่วนของคลื่น 900 MHz และความคืบหน้าการคืนคลื่น 1800 MHz จำนวน 4.8 MHz ของแคทที่จะนำมารวมประมูล 11 พ.ย.นี้ เพราะหากไม่ทัน กสทช.ก็จะไม่รอ หรือการเสนอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของนายกรัฐมนตรี ก็จะนำมาหารือด้วย แต่จะไม่กระทบกับแผนประมูลคลื่น 1800MHz และ 900MHz ที่จะจัดขึ้นปลายปีนี้แน่นอน กสทช.ยังจะเดินหน้าต่อไป จนกว่าจะมีคำสั่งศาลหรือคำสั่ง คสช.มาระงับ เพราะถ้าไม่มีการประมูลจะทำให้รัฐเสียหาย" โดย 30 ก.ย.นี้จะเป็นวันเปิดยื่นซองประมูลคลื่น 1800 MHz ด้านร่างหลักเกณฑ์ประมูลคลื่น 900 MHz สำนักงานฯ เตรียมได้เสนอให้บอร์ด กสทช.พิจารณา 16 ก.ย.นี้ โดยขอให้ปรับราคาเริ่มต้นประมูลไปอยู่ที่ 80% ของมูลค่าคลื่น หรือราว 12,867 ล้านบาท จากเดิมกำหนดไว้ที่ 70% หรือราว 11,260 ล้านบาท และบังคับการขยายโครงข่ายจาก 40% ของประชากรภายใน 4 ปี เพิ่มให้มีขยายเป็น 60% ภายใน 8 ปีด้วย รวมถึงบังคับให้ต้องลดค่าบริการให้ถูกกว่าบริการ 3G (ไม่เกิน 84 สตางค์) และมีแพ็กเกจราคาพิเศษสำหรับผู้มีรายได้น้อย รวมถึงผู้พิการและคาดว่าจะเปิดให้รับซองประมูลได้ 28 ก.ย.นี้ ส่วนการประมูลน่าจะจัดขึ้น 15 ธ.ค.นี้ตามกำหนดเดิม
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530
