WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

กลับมาแล้ว Fed ขึ้นดอกเบี้ย และปัญหาของมาตรการกระตุ้น SME
  คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้ ตามการเปิดเป็นลบทั่วภูมิภาคเช้านี้ นักลงทุนน่าจะขายทำกำไรกันก่อนหลังจากตลาดบวกแรงมา 3 วัน นักเศรษฐศาสตร์กลับมามีความเห็นแตกต่างกันอีกเกี่ยวกับการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากตัวเลขตำแหน่งงานในสหรัฐพุ่งทำจุดสูงสุด ในขณะที่ภายในประเทศ ข่าวที่นายธนาคารมองว่าธนาคารพร้อมจะปล่อยสินเชื่อตามมาตรการกระตุ้น SME แต่ไม่แน่ใจกันว่าจะมีคนมากู้หรือไม่ เนื่องจากการบริโภคยังอ่อนแออยู่มาก ถือว่าเป็นความไม่แน่นอนและเป็นลบต่อตลาด

 

หุ้นเด่นวันนี้ : BA (ราคาปิด 20.80บาท, NR, ราคา Bloomberg 25.89 บาท)
  บมจ. การบินกรุงเทพ เป็นผู้ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยและการเข้าสู่ AEC ในสิ้นปีนี้ โดยในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปี 58 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาประเทศไทยเติบโต 31% YoY เป็น 17.5 พันล้านคน ผลประกอบการไตรมาส 3/58 น่าจะเป็นไตรมาสที่ดีของบริษัทอีกไตรมาสหนึ่งเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเส้นทางสมุยจากมีช่วงวันหยุดยาวของยุโรป ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 6 ล้านคน (เพิ่มขึ้น 25% YoY) และอัตราบรรทุกผู้โดยสารที่ 70% (เทียบกับ 65% ในปี 57) ในครึ่งหลังปี 58 BA วางแผนที่จะเพิ่มเที่ยวบินร่วมกับสายการบินอื่นอย่างน้อย 5 สายการบินและเพิ่มจำนวนเครื่องบินอีก 3 ลำ อีกทั้ง พันธมิตรปัจจุบันของบริษัทจะเปลี่ยนประเภทของเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นในการบินจากสนามบินหลัก 3 แห่ง (กรุงเทพฯ กัวลาลัมเปอร์ และสิงคโปร์) ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนที่นั่งผู้โดยสารประมาณ 26% และหมายถึงจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับบริษัทด้วย ตามประมาณการใน Bloomberg consensus คาดว่ากำไรปี 58 จะเพิ่มขึ้นถึง 482% ในปีนี้จากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า และเติบโตลดลงเป็น 28% ในปีหน้า Price Pattern ของ BA เกิด Daily Buy Signal มาระยะหนึ่งแสดงถึงราคามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในระยะสั้นโดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 21.20 บาท ก่อนทดสอบเป้าหมายสำคัญที่ 21.60 บาท แต่ราคาหุ้นยังอาจถูกกดดันในระยะกลางจาก Weekly & Monthly Sell Signal (แนวต้าน: 20.90, 21.00, 21.10; แนวรับ : 20.70, 20.60, 20.50)

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :

 

      มาตรการกระตุ้นระยะที่ 2 มีมุมมองที่ต่างกัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ได้ตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่สอง มูลค่า 2.06 แสน ลบ. อย่างไรก็ดีธนาคารมีมุมมองที่ต่างกันเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้น SME ที่ออกโดย ครม. วานนี้ ระบุว่าแม้มาตรการจะช่วยให้ SME เข้าถึงแหล่งกู้เงินได้ แต่ปัญหาคือยังขาดความต้องการปล่อยกู้เนื่องจากการบริโภคยังอยู่ในระดับต่ำอยู่ (The Nation)
      กสทช. เตรียมสั่งปรับ 6 บริษัทมือถือรวมบริษัทย่อย เนื่องจากใช้วิธีที่ไม่ได้รับความเห็นชอบในการโอนย้ายเบขหมายของลูกค้าไปยังเครือข่ายใหม่ โดยจะเริ่มต้องจ่ายค่าปรับหากไม่สามารถแก้ไขกระบวนการได้ทันใน 15 วันนับแต่ได้รับหนังสือแจ้ง กลุ่ม ADVANC DTAC และTRUE จะถูกปรับราว 15 ลบ. 14 ลบ. และ 0.45 ลบ. ตามลำดับ โดยเป็นการคำนวณจาก 0.1% ของรายได้ กสทช.ได้พบในเดือน มิ.ย.ว่าค่ายมือถือได้โอนย้ายลูกค้าจากคลื่นสัมปทานไปยังคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ โดยไม่ผ่านเคลียริ่งเฮาส์กลาง การแก้ไขจะต้องโอนผ่านเคลียริ่งเฮาส์ให้ถูกต้อง (The Nation)

 

      รมว. ไอซีที จะเสนอร่างฉบับแรกของแผนเศรษฐกิจดิจิตัลในเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นร่างของกฎหมายที่จะบังคับใช้ระหว่างปี 59-63 และคาดว่าร่างจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้ แผนระยะห้าปีจะประกอบไปด้วยหกองค์ประกอบได้แก่ โครงสร้างสาธารณูปโภค เช่น บอร์ดแบรนด์ทั่วประเทศ, โครงสร้างซอฟท์แวร์ เช่น มาตรฐานและกฎระเบียบ, การบริการสาธารณะสำหรับคนไทย, การใช้เทคโนดิจิตัลเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การใช้เทคโนโลยีปรับปรุงสังคมและคุณภาพชีวิต ตลอดจนการทำงานผ่านดิจิตัล แผนฉบับใหม่จะช่วยเพิ่มการใช้งานไอซีที เพื่อสนับสนุนและกระตุ้น SMEs สร้างผู้ประกอบการรายใหม่และการใช้ IT เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยโดยรวม (The Nation)

 

ข้าวในคลังยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ พนักงานจังหวัดมีเวลา 30 วันที่จะทำการตรวจสอบข้าวในคลังกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศตามเงื่อนไขของคณะกรรมการกำหนดนโยบายข้าวซึ่งมีนายกประยุทธ์ จันโอชา เป็นประธาน คาดการณ์กันว่าจำนวนข้าวต่ำกว่ามาตรฐานจะมีประมาณ 4.6 ล้านตันและมีข้าวเน่าเปื่อย 1.3 ล้านตัน จากทั้งหมด 13.5 ล้านตันซึ่งคงค้างมาหลายปี (Bangkok Post)

 

BCP (34.75 บ, ราคาเป้าหมายปี 58 40.90 บ.) กล่าวถึงแผนการนำบริษัทย่อย BCPG เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดุมทุนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตไว้ที่ 500 เมกะวัตต์ภายใน 5 ปีหลังจากเข้าตลาด เพิ่มสูงขึ้นจากระดับกำลังการผลิต 118 เมกะวัตต์ในปัจจุบัน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเสนอขาย IPO จำนวน 30% ของทุนจดทะเบียน ทั้งนี้ BCP เปิดเผยว่าบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนหลายรายเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการทำ M&A ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในภูมิภาค รวมถึงโรงไฟฟ้าชีวมวลและชีวภาพในประเทศ (Bangkok Post) ความเห็น: ถือเป็นประเด็นที่เราได้เคยนำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่เรามีมีมุมมองเชิงบวกต่อความคืบหน้าดังกล่าว เราจะติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากนี้เพื่อจะนำไปสู่การปรับประมาณการสูงขึ้นในอนาคต ยังคงคำแนะนำ ซื้อ สำหรับ BCP

 

ต่างประเทศ :

นักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นเป็น 2 ฝ่ายว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย. หรือไม่ ในขณะที่ภาวะตลาดแรงงานกำลังตึงตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้กระตุ้นให้การเติบโตของค่าจ้างสูงขึ้น ทำให้เงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าของเฟดที่ 2% เป็นการยากที่จะวิเคราะห์การตัดสินใจของเฟดเนื่องจากมีปัจจัยเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในจีนและตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญอีกหลายประเทศ(Reuters)
จีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐมนตรีคลังจีนแถลงว่าจีนจะเร่งดำเนินการเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสำคัญ ๆ โดยให้ภาคเอกชนมาร่วมลงทุน ทำให้การบริหารจัดการหนี้ของส่วนปกครองท้องถิ่นมีมาตรฐานและปฏิรูประบบภาษี(Reuters)

 

สหรัฐ :

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงกว่า 1% เมื่อวันพุธ หลังจากทะยานขึ้นเมื่อวานซืนเนื่องจากหุ้นบริษัทพลังงานร่วงลงซึ่งลดลงตามราคาน้ำมันและราคาหุ้นบริษัทแอปเปิลลดลง ยังมีปัจจัยลบอื่นอีกคือจำนวนตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในเดือนก.ค. เพิ่มสูงขึ้นทำสถิติใหม่ เป็นสัญญาณล่าสุดว่าตลาดแรงงานอยู่ในภาวะตึงตัวขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอาจผลักดันให้เฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Reuters)
ตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรสหรัฐพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ในเดือนก.ค. ตำแหน่งงานเป็นตัวเลขหนึ่งที่ใช้วัดความต้องการด้านแรงงานเพิ่มขึ้น 430,000 ตำแหน่ง อยู่ที่ 5.8 ล้านตำแหน่ง (ตัวเลขปรับตามฤดูกาลแล้ว) เป็นตัวเลขสูงสุดนับแต่เดือนธ.ค. 43 และผลักให้อัตราการเติบโตตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนก.ค. หลังจากทรงตัวอยู่ที่ 3.6% ติดต่อกัน 3 เดือน อย่างไรก็ตาม การจ้างงานลดลงอยู่ที่ 5 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. จาก 5.2 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. อัตราการจ้างงานลดลงอยู่ที่ 3.5% จาก 3.7% ในเดือนมิ.ย. (Reuters)

 

ยุโรป :

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นวันที่ 3 และแตะระดับสูงสุดใน 2 สัปดาห์เมื่อวันพุธ จากหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเนื่องจากราคาโลหะปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์ว่าผู้บริโภคอันดับหนึ่งของโลกคือจีนจะดำเนินการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ (Reuters)

 

เอเชีย :

จีนเตรียมป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับระบบการเงินของประเทศ และไม่ต้องการให้เงินหยวนอ่อนค่าไปมากกว่านี้เพื่อหนุนการส่งออก ขณะที่ตั้งใจจะให้กลไกตลาดมีบทบาทเพิ่มขึ้น โดยนายกฯ จีน หลี่ เค่อเฉียง กล่าวไว้ในงาน World Economic Forum เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (Reuters)
คำสั่งซื้อเครื่องจักรในญี่ปุ่นเดือน ก.ค. ลดลง 3.6% MoM ผิดคาด ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันและสร้างความกังวลต่อภาคการลงทุน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าคำสั่งซื้อดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นไว้ที่ 3.7% MoM

 

สินค้าโภคภัณฑ์ :

ทองร่วงลงทำจุดต่ำสุดใน 4 สัปดาห์เมื่อวันพุธ เนื่องจากตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปแข็งแกร่งขึ้นและเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ถึงแม้ว่าราคาแกว่งตัวแคบๆ ราคา gold spot ลดลง 1.2% อยู่ที่ 1,107.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองในตลาดฟิวเจอร์ที่จะส่งมอบในเดือนธ.ค. ปิดลง 1.7% อยู่ที่ 1,102 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
น้ำมันร่วงเกือบ 4% วันพุธ ถูกกดดันโดยอุปทานที่ล้นหลามและความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอเนื่องจากเศรษฐกิจยังฟื้นช้า เบรนท์ร่วงลง 1.94 ดอลลาร์สหรัฐหรือ -3.92% ปิดที่ 47.58 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังเมื่อวานปรับขึ้นไป 4% NYMEX ร่วง 1.79 ดอลลาร์หรือ 3.9% ปิดที่ 44.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

 

Thailand Research Department
  Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
  Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
  Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
  Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!