- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 10 September 2015 17:18
- Hits: 1738
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดด้วยความสดใสด้วยการเปิดกระโดดขึ้นทันที 10.68 จุด อยู่ที่ 1390.17 จุด พร้อมกับแกว่งตัว Sideway แคบ ๆ ที่มีจุดต่ำสุดของวันที่ 1385.89 จุด เพิ่มขึ้น 6.57 จุด ตลอดในภาคเช้า ก่อนที่ช่วงภาคมีแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มสื่อสาร พลังงานและแบงก์ช่วยดันดัชนีขึ้นไปทำจุดสูงสุด 1398.57 จุด เพิ่มขึ้น 19.25 จุด ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันอยู่ที่ 12.68 จุด สำหรับหุ้นที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่นได้แก่ JAS, AOT, KBANK, CPF, TMB, SCB, TUF, TOP, TLUXE ก่อนที่ดัชนีจะทำปิดที่ 1396.29 เพิ่มขึ้น 16.97 จุด (+1.23%) มูลค่าการซื้อขาย 46,003ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีเปิดตัวแรงกระโดดสร้าง Gap ขาขึ้นที่มีความกว้าง 11.26 จุด ก้าวข้ามเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันขึ้นมา ด้วยการแกว่งตัวขึ้นมาใกล้แตะ 1400 จุด และสามารถทำปิดใกล้จุดสูงสุดของที่ 1396 จุด พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นระดับ 46,000 ล้านบาท ทำให้ภาพของการขึ้นต่อเพื่อไปปิด Gap (1388-1408) มีความเป็นไปได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคงต้องระมัดระวังทิศทางพักตัวลงเช่นกัน เนื่องจากเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ อีกทั้งสัญญาณ Stochastic %k=87 ซึ่งอยู่ในเขตซื้อมากเกินไป ทำให้ดัชนีมีโอกาสพักตัวได้ทุกเมื่อ แต่การพักตัวนั้นจะต้องไม่หลุด 1374 ลงมา ซึ่งจะเป็นการเปิดความเสี่ยงขาลงอีกครั้ง แนวรับ 1380 // 1370 จุด แนวต้าน 1400 // 1412 จุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวนในทิศทางชะลอตัว
Support 1330 // 1300 // 1290 จุด Resistance 1385 // 1400 // 1430 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Market Trend
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (9 ก.ย.) - SET Index ปิดที่ ระดับ 1,396.29 จุด เพิ่มขึ้น 16.97 จุด หรือ 1.23% มูลค่าการซื้อขาย 46,002.76 ล้านบาท ตลาดปิดบวกเช่นเดียวกับตลาดอื่นๆในภูมิภาค จากผลตอบรับการปฏิรูปตลาดเงินของจีน บวกกับคาดว่าจีนรวมถึงญี่ปุ่นจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา
ตลาดหุ้นต่างประเทศ- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones ปรับตัวลดลง 239 จุด เป็นผลจากตัวเลขภาคการจ้างงานของภาคเอกชนออกมาดี จนจุดกระแสการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯให้กลับมาอีกรอบหนึ่ง ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงและราคาหุ้น Apple ลดลง ถ่วงดัชนีฯให้พลิกจากที่เป็นบวกกลับมาปิดในแดนลบ ด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 สูงขึ้น 1.33% มาจากการสูงขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นจีน-ญี่ปุ่น และระดับการบวกของดัชนีฯลดลง ในช่วงท้ายตามการร่วงลงของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบ WTI (oct) - ราคาน้ำมันดิบ ปิดตลาดที่ $44.15 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง $1.79 เหรียญ เป็นผลจาก EIA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI ปีนี้ จาก $49.62 เป็น 49.23 เหรียญ และปริมาณการผลิตของสหรัฐฯลงจาก 9.36 เป็น 9.22 ล้านบาร์เรล/วัน
เศรษฐกิจจีน - กระทรวงคลังจีนประกาศ จะออกนโยบายการคลังที่มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเผชิญแรงกดดันช่วงขาลง นอกจากนี้ ยังส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) โดยจะมีการจัดตั้งกองทุนโดยใช้งบประมาณกลาง และกระทรวงยังจะกำกับดูแลเรื่องการบริหารจัดการหนี้สินของหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่น รวมทั้งการส่งเสริมการปฏิรูปภาษีอย่างต่อเนื่อง
เศรษฐกิจ - โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนลงในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนภาวะของดอลลาร์สหรัฐที่แข็งขึ้นเมื่อเทียบกับคู่ค้าที่เป็นประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้น จึงไม่ใช่เป็นปัจจัยเฉพาะเกี่ยวกับประเทศไทยหรือภูมิภาค
เศรษฐกิจ- "สมคิด" สั่งคมนาคมเดินหน้าเมกะโปรเจ็กต์เร่งด่วน พร้อมหนุนเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนมากขึ้น หวังลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐ พร้อมจี้สรุปเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน-ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงค์ เผยเงินกู้ทางคู่ไทย-จีนยังไร้ข้อสรุป
ทิศทางตลาดหุ้นไทย การร่วงลงของตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังดัชนีฯตลาดหุ้นหลายแห่งปรับตัวขึ้นไปมาก (เกิน 2%) และมีความกังวลเรื่องการประชุมดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯเข้ามาในตลาด จะเป็นผลลบมาถึงตลาดหุ้นไทยในวันนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยบวกของตลาดหุ้นไทย คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นอยู่ จะทำให้ดัชนีฯปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย หรือเป็นบวกได้ด้วย ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดในวันนี้ จะเป็นทิศทางของตลาดหุ้นรอบบ้าน เนื่องจากยังมีความผันผวนสูงและจะมีผลมาถึงตลาดหุ้นไทยด้วย
กลยุทธ์การลงทุน การคาดการณ์เรื่องดอกเบี้ยของสหรัฐฯที่ว่ากันเป็นรายวัน จะทำให้วันนี้ นักลงทุนจะเข้าซื้อหุ้นจึงควรเลือกตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวไว้ก่อน และการขายหุ้น-พันธบัตรของนักลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จะเป็นตัวจำกัดกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีฯอยู่ต่อไป ...... หุ้นกลุ่มที่คาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจในวันนี้ หุ้นขนาดใหญ่ จะเป็น BBL , TOP หุ้นบวกจากมาตรการเศรษฐกิจภาครัฐ PT , SAMART , ANAN , GLOBAL และหุ้นบวกจากเงินบาทอ่อนค่า CPF , GFPT , HANA , MCS เป็นต้น
Stock in Focus
SVI : (ราคาปิด 5.00 บาท; ราคาที่เหมาะสม KTBST 5.0 บาท) เริ่มตั้งแต่ Q3/58 จะเข้าสู่ช่วง High season ของอุตสาหกรรมฯ ผลประกอบการน่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้เป็นสกุลเงินต่างประเทศ (91% เป็นสกุลเงิน USD และ 9% เป็นสกุลเงินยูโร) และลูกค้าทยอยเพิ่มคำสั่งซื้อต่อเนื่อง… บริษัทฯ มีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวเนื่องจากความต้องการของลูกค้าทางฝั่งยุโรปยังมี และมีแผนเข้าซื้อกิจการฝั่งยุโรปตะวันออก เพื่อเป็นฐานการผลิตและกระจายสินค้าสู่ยุโรป คาดได้ข้อสรุปในสิ้นปีนี้... ปี 2559 ผู้บริหารคาดจะทำกำไรนิวไฮ และมีรายได้ไม่ต่ำกว่า $350 ล้านเหรียญ เนื่องจาก จะได้ลูกค้าใหม่จากสหรัฐฯ 4 ราย และเตรียมสร้างโรงงานในกัมพูชา เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 25% จากปัจจุบัน คาดจะแล้วเสร็จและรับรู้รายได้ตั้งแต่กลางปีหน้า และจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากเยอรมนี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และอเมริกา ตั้งแต่ Q1/59 เป็นต้นไป … ผู้บริหารเคยกล่าวว่า ผลจากเหตุระเบิดที่ เทียนจิน ประเทศจีน จะเป็นบวกต่อบริษัทฯ เนื่องจากคาดว่า จะมีการสั่งซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในระบบทำความเย็นของตู้คอนเทนเนอร์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดจากลูกค้าเพิ่มขึ้น
News Release :
BTSเซ็นสีเขียว2เส้นปีนี้ ซื้อ40ขบวน1.6หมื่นล้าน "รฟม.-กทม." เซ็นโอนโครงการ 6 หมื่นล้านเดือนนี้
+ BTSเซ็นสีเขียว2เส้นปีนี้ ซื้อ40ขบวน1.6หมื่นล้าน "รฟม.-กทม." เซ็นโอนโครงการ 6 หมื่นล้านเดือนนี้(ข่าวหุ้น)
AJDเพิ่มทุน800ล้านหุ้น เสี่ยยักษ์มั่นใจเข้าถือ5%
+ "BANPU" ลุยสปินออฟบริษัทย่อย "BPP" เข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลท.ช่วงไตรมาส 1/59 เพิ่มพอร์ตผลิตไฟฟ้าเป็น 2,700 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีอยู่ 1,878 เมกะวัตต์ พร้อมวางเป้าระยะยาวผลิตไฟฟ้ามากถึง 4,000 เมกะวัตต์(ข่าวหุ้น)
PSกำไรปีนี้นิวไฮ ยอดขายทะลุเป้า รายได้4.7หมื่นล.
+ "PS" มั่นใจยอดขายปีนี้ทะลุเป้า 4.7 หมื่นล้านบาท หลัง 8 เดือนเจ๋งโกยได้แล้ว 3.1 หมื่นล้านบาท เล็งเปิดอีก 20 โครงการ มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท โชว์แบ็กล็อกจ่อบุ๊คครึ่งปีหลัง 2.5 หมื่นล้านบาท หนุนรายได้ทั้งปีตามนัด 4.7 หมื่นล้านบาท ดันกำไรปีนี้นิวไฮ(ข่าวหุ้น)
TTCLลุยประมูล6หมื่นล้าน เดินหน้าโรงไฟฟ้าเมียนมาร์
+ TTCL ลั่นลุยประมูลงานเพิ่ม 64,200 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้ทะลุ 20,000 ล้านบาท ล่าสุดงานในมือ 40,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าเมียนมาร์ เป้าหมายรับรู้รายได้ปี 2563 (ข่าวหุ้น)
ANANงบครึ่งปีหลังแจ่ม ลุ้นกำไรทะลัก210ล้าน
+ "ANAN" ครึ่งปีหลังแจ่ม! ลุ้นไตรมาส 3/58 กำไรสุทธิพุ่ง 192% แตะ 210 ล้านบาท พร้อมทำนิวไฮในไตรมาส 4/58 คาดโชว์กำไรสุทธิ 700 ล้านบาท รับอานิสงส์บันทึกรายได้โอนคอนโดฯ Ideo Mobi จรัญ-อินเตอร์เชนจ์ โบรกฯ เชียร์ซื้อเป้า 4.20 บาท(ข่าวหุ้น)
UTPต่างชาติซุ่มเจรจาร่วมลงทุนพลังงานน้ำ
+ UTP ส่อแววได้พันธมิตรใหม่ วงในชี้จับตากลุ่มทุนต่างชาติ จ่อเข้าร่วมลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ มูลค่าเฉียดหมื่นล้าน แย้มเตรียมเซ็น MOU ภายในกันยายนนี้ บิ๊ก "วัชชระ ชินเศรษฐวงศ์" เผยเตรียมชงบอร์ดศุกร์นี้พิจารณาแผนขยายโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมอีก 12 เมกะวัตต์(ทันหุ้น)
PTค่ายยักษ์ส่งต่อออเดอร์
+ PT ขานรับกระทรวงไอซีทีสรุปร่างแผน Digital Economy ภายในเดือนกันยายนนี้ พร้อมเสนอ ครม. เพื่อขออนุมัติ โบรกชี้ถึงเวลาหุ้น "กลุ่มสื่อสารและวางระบบ" คึกคัก คัด PT ดาวเด่นหุ้นวางระบบหนุนออเดอร์ทะลัก แถมรับอานิสงส์ประมูล 4G ส่ง DTAC และ TRUE ป้อนออเดอร์ล็อตใหญ่ ลุ้นวางหมากขายหุ้น PP ให้ญี่ปุ่นรวมหุ้น โชว์กำไรสูงทำสถิติ เป้า 20 บาท(ทันหุ้น)
CK-BTSรับทรัพย์รัฐเร่งแผนรถไฟฟ้า
+ กลุ่มรับเหมา-ขนส่งทางบกขานรับนโยบายรัฐเร่งลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ สายสีน้ำเงิน-ขยายแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยายดอนเมือง พร้อมเปิดกว้างเอกชนร่วมลงทุน PPP กู้เงิน และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโบรกคัดผู้รับเหมาขาใหญ่ BTS-BMCL-CK-STEC-ITD-UNIQ รับอานิสงส์เต็มๆ ชี้ BTS มีลุ้นชนะการประมูลสูงเชียร์ "ซื้อ" เคาะเป้า 12 บาท(ทันหุ้น)
KTPเป้าฝรั่งเทกโอเวอร์ ทุนใหญ่ป้อนโปรเจ็กต์
+ KTP เนื้อหอมทุนใหญ่ฝรั่งและในประเทศ ตบเท้าเจรจา "เคปเปล แลนด์" หวังขอเทกโอเวอร์ และร่วมทุนพร้อมเดินเกมป้อนโมเดลธุรกิจระดับหมื่นล้านจูงใน มีลุ้น "เคปเปล แลนด์" ทิ้งหุ้น พร้อมโยกการลงทุนสู่ประเทศที่สร้างผลกำไร แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจายังไม่ได้ข้อสรุป ด้านกลุ่มทุนใหญ่หัวใส ส่งนอมินีไล่เก็บหุ้นในกระดาน(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์