- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 September 2015 16:56
- Hits: 4839
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Daily Strategy
ตลาดหุ้นวานนี้: SET บวก +7.92 จุด ปิดที่ 1,379.32 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค แม้ตัวเลขส่งออกจีนจะยังติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แต่ตลาดกลับคาดหวังว่าทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิ 1,150 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,151 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 13 นอกจากนี้ยัง Net short TFEX 3,119 สัญญา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: ตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับขึ้นช่วงนี้เกิดจากความคาดหวังว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยและทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ดังนั้นตลาดหุ้นบ้านเราก็น่าจะปรับขึ้นตามแต่ก็ระมัดระวังแรงขายทำกำไรหากสิ่งที่คาดหวังไม่เป็นไปตามคาด อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่า SET มีโอกาสปรับขึ้นแตะระดับ 1,400 จุด จากปัจจัยภายนอกที่เริ่มผ่อนคลาย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มนิ่ง ข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่สดใส และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นยาแรงน่าจะพยุงไม่ให้เศรษฐกิจไทยทรุดไปมากกว่านี้
กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/ ซื้อเมื่ออ่อนตัวพร้อมกับจับตาการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีนและดาวโจนส์ล่วงหน้าเป็น Indicator ในการซื้อ
ขายหุ้นระหว่างวัน
Trading วันนี้: SPVI COM7 (ตัวแทนจำหน่าย IPhone) – เก็งกำไรข่าว APPLE จะเป็นตัว IPhone ใหม่คืนนี้
กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มดี: พลังงานทดแทน (GUNKUL, EA) กลุ่ม Health care (BDMS) และสื่อสาร
High Div. Stock: ADVANC, TVO, INTUCH, BTS, BJCHI
KSS report วันนี้: Heathcare Sector (Overweight) – Top picks: BDMS (เป้า 23 บาท)
หุ้น/ข่าว/ประเด็นสำคัญวันนี้:
(+) มาตรการช่วยเหลือ SME ผ่านครม. แล้ว แต่หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์อย่าง KBANK KTB และTMB ยังไม่ตอบรับกับมาตรการดังกล่าว: มาตรการช่วยเหลือ SME วงเงิน 1 แสนล้านบาท ประกอบด้วย 1) มาตรการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 1 แสนล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4% 2) ลดหย่อนภาษีให้กับ SME ที่มีรายได้ไม่เกิน 3 ล้านบาท จาก 15% เป็น 10% ใน 3 ปีปัญชี และ 3) ตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือฐานทุนให้กับ SME รายใหม่มูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามตลาดคาด
(+) ตลาดคาดหวังเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 16-17 ก.ย นี้ : จากผลสำรวจแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย. นี้ ลดลงเหลือเพียง 20% จากระดับ 30% ที่เป็นตัวเลขคาดการณ์ก่อนการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
(+) ตลาดคาดทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม: หลังยอดส่งออกจีนเดือนส.ค. ลดลง -5.5% yoy ดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่ติดลบเป็นเดือนที่ 2 และนำเข้าลดลง -13.8% yoy แย่กว่าตลาดคาดไว้ที่ -7.9% และติดลบเป็นเดือนที่ 10 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวพบว่าการค้าต่างประเทศของจีนอ่อนแอ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังถูกกดดันต่อเนื่อง รวมถึงประเทศคู่ค้าของจีนก็จะประสบปัญหาด้านการส่งออกเพราะจีนนำเข้าลดลงต่อเนื่อง หากเปรียบจีนเป็นโรงงานผลิตสินค้าของโลกพบว่าวันนี้จีนซื้อสินค้าที่เป็นวัตถุดิบลดลงเพราะผลิตแล้วขายสินค้าได้น้อยลง แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว กำลังซื้อยังหด ดังนั้นทางการจีนน่าจะออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจ
(0) วานนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลง US$0.11/บาร์เรล ปิดที่ 45.94$/bbl และDUBAI (ดูไบ) ปรับลง US$0.43/บาร์เรล ปิดที่ 46.95$/บาร์เรล ขณะที่ BRENT ปรับขึ้น US$1.89/บาร์เรล ปิดที่ 49.52$/บาร์เรล จากวันก่อนที่ปรับลงแรง: เชื่อราคาน้ำมันดิบช่วงนี้จะยังได้แรงกดดันจากอุปทานส่วนเกินที่ยังอยู่ในระดับสูงขณะที่ดีมานด์ยังอ่อนแอ อย่างไรก็ตามเรายังคงสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้ไว้เท่าเดิมที่ US$52/บาร์เรลในปีนี้ และ US$55/บาร์เรลในปีหน้า
(+) CPF : แนะซื้อเก็งกำไรระยะสั้น - ข่าวซื้อหุ้นคืนและซีพีเอฟสามารถผลิตลูกพันธุ์กุ้งแข็งแรงปลอดโรค
CPF สามารถเพราะพันธ์และอนุบาลกุ้งที่ปลอดภัยจากโรค EMS ได้แล้ว ช่วยปลดล็อกปัญหาโรค EMS ในกุ้งและคาดว่าจะหนุนรายได้ CPF เพิ่มขึ้นในอนาคต ตามสัดส่วนยอดขายกุ้งที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับปกติที่ 26%
พรุ่งนี้เป็นวันแรกที่จะบริษัทจะเริ่มซื้อหุ้นคืนตามโครงการซื้อหุ้นคืน 400 ล้านหุ้นคิดเป็น 5.17% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดโดยมีช่วงเวลาซื้อหุ้นคืนตั้งแต่ 10 ก.ย. 2015 ถึง 9 มี.ค. 2016
Best Regards,