- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 September 2015 16:25
- Hits: 4389
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +390.30, NASDAQ +128.01, S&P +48.19, FTSE +71.58, CAC +48.62 และ DAX +162.75 ภายใต้มุมมองที่เป็นบวกต่อความเป็นไปได้ที่จีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังตัวเลขส่งออกและนำเข้า – สค. ลดลง 6.1%yoy และ 14.3% ตามลำดับ โดยลดลงต่อเนื่อง 8.9% และ 8.6% เมื่อกค. รวมถึงประเด็นที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) เตรียมเดินหน้าการปฏิรูป ปรับปรุงกรอบการทำงานด้านกฎหมาย และยกระดับการกำกับดูแลตลาด โดยอาจจะใช้กลไกต่างๆ เช่น ระบบ circuit breaker สำหรับดัชนีหุ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผันผวนอย่างผิดปกติ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากคาดการณ์ว่าเฟด จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังตัวเลขจ้างงานยังมีทิศทางไม่ชัดเจน โดยเฟดจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. -US$0.11 อยู่ที่ US$45.94 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยลบจากตัวเลขการค้าต่างประเทศของจีนข้างต้น รวมถึงความกังวลต่ออุปทานน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นอีกหากปริมาณน้ำมันจากอิหร่านหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดโลกอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการปรับลดลงเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากมีมุมมองบวกว่าทางการจีนจะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นภายในประเทศ
......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$0.4 อยู่ที่ US$1,121.0 ต่อออนซ์ โดยอยู่ระหว่างรอการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,150 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -92,517 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : ตามตลาดต่างประเทศ? คาดยังมีโอกาสปรับขึ้น ภายใต้มุมมองที่เป็นบวกทั้งปัจจัยต่างประเทศ (1) ความเป็นไปได้ที่จีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังตัวเลขส่งออกและนำเข้ายังชะลอตัวต่อเนื่อง และ (2) คาดเฟดอาจยังไม่พิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
.....และปัจจัยในประเทศ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ล่าสุด ครม. มีมติอนุมัติมาตรการช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องผ่านโครงการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) วงเงิน 1 แสนล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินกู้ทั้งหมดมาจากธ.ออมสิน ที่จะปล่อยกู้ให้กับสถาบันการเงินในประเทศ ในอัตราดอกเบี้ย 0.1% เพื่อให้กู้ต่อแก่ลูกค้าของแต่ละธนาคาร
....ขณะที่คาดยังได้รับปัจจัยลบจากประเด็นเดิม (1) Fund Flow ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง อีกกว่า 1,100 ล้านบาท และทำให้ YTD ยอดขายสุทธิสะสม เพิ่มขึ้นสูงถึง 92,517 ล้านบาท (2) ประเด็นทางการเมือง หลัง สปช. มีมติไม่รับร่าง รธน. ทำให้ต้องมีการร่าง รธน. ใหม่ ในระยะเวลา 180 วัน (ประมาณ มีค.’59) คาดส่งผลให้การเลือกตั้งที่คาดเกิดขึ้นในปี’59 (ตาม Road Map) ต้องเลื่อนออกไปคาดเป็นปี’60 และ (3) ความผันผวนของราคาน้ำมัน ซึ่งมีผล + / - ต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
...ขณะที่ยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว ขณะที่ในระยะสั้นคาดอาจมีแรงเก็งกำไรค่าการกลั่น ที่ล่าสุดอยู่ที่ ประมาณ 7 – 7.5USD/Barrel หลังก่อนหน้าเคลื่อนไหว 5 - 6 USD/Barrel (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ภาพรวมยังมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 35.95 – 35.97 คาดเป็น Sentiment ที่ดีต่อกลุ่มส่งออก (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น และ (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้นตามลำดับ
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.07 อยู่ที่ 2.19% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -2.90 อยู่ที่ 24.90
หุ้นแนะนำ : CK
ประเด็นที่ต้องติดตาม (9 - 11 กย.’58)
9/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกน้ำมัน
10/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ราคานำเข้าและส่งออก - สค. (3) สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง - กค.
11/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) - สค. (2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้น - กย. (3) งบประมาณของรัฐบาลกลาง - สค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788