- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 27 June 2014 17:59
- Hits: 2633
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เลือกซื้อ/ถือเหนือ 1465 จุด”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
• ภาพตลาดวันก่อน : ดัชนีปรับขึ้นต่อ 8.99 จุด มาปิดที่ 1477.48 จุด มูลค่าซื้อขายเกือบ 4 หมื่นล้านบาท โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามา เพราะเห็นว่าผลประกอบการ 2Q57 จะออกมาดี เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่สูงกว่าสิ้น 1Q57 ทำให้มีกำไรจากสต็อก ขณะที่ผลกระทบจากการปฏิรูปโครงสร้างพลังงานคาดว่าจะไม่รุนแรงและเป็นการดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งการเข้าลงทุนในกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่อย่าง ADVANC, DTAC,INTUCH ซึ่งราคาอ่อนตัวลงมาจนมี Dividend Yield จูงใจที่ประมาณ 6% ต่อปี นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 3 พันล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อ-ขายใกล้เคียงกัน ส่วนพอร์ตบล.และรายย่อยขายสุทธิ
• ปัจจัยและกลยุทธ์ : ในช่วงนี้ตลาดยังคงติดตามความคืบหน้าของการปฏิรูปประเทศของคสช. (ซึ่งรวมถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ซึ่งมีกระแสข่าวว่ามีความคืบหน้าในเรื่องของการจัดโครงสร้างสมาชิกสภานิติบัญญัติและสภาปฏิรูปไปพอสมควรแล้ว และแผนปฏิรูปในภาคส่วนต่างๆ กำลังเร่งจัดทำคู่ขนาดกันไป) สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด คือ ส่งออกเดือนพ.ค.ที่ยังติดลบ และช่วง 5M57 ลดลง 1.22%YoY สะท้อนถึงการฟื้นตัวที่ล่าช้า กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศลดเป้าการเติบโตของส่งออกไทยปีนี้ลงเป็น 3.5% จากเดิม 5%
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกลุ่มที่ไปได้ดี เช่น ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์,ผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น เราจึงแนะนำเลือกซื้อ หุ้นเด่นคือ SVI (ราคาพื้นฐาน 4.9 บาท) นอกจากนั้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้นและภาวะดอกเบี้ยต่ำยังช่วยหนุนการอุปโภคบริโภค รวมถึงที่พักอาศัยด้วย ซึ่งคาดว่าการเปิดขายและยอดขายโครงการจะเพิ่มขึ้นใน 2H57 และดีต่อเนื่องในปี 58 หุ้นเด่นเป็น AP (เติบโตแกร่งในปี 58 + P/E ต่ำ + ปันผลดี, ราคาพื้นฐาน 7.7 บาท) และ LALIN (ติบโตอย่างมั่นคง + ปันผลสูง + ราคาหุ้นต่ำกว่า BVS) สำหรับน้ำหนักปัจจัยภายนอกค่อนไปทางลบเล็กๆ เพราะกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด กลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก การอ่อนตัวต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ 1465 จุด มีแนวเด้ง 1440, 1430 จุด ส่วนการปรับขึ้นต่อมีแนวต้านระยะสั้น 1490 (1500) จุด หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนระยะยาววันนี้เป็น AP
Fundamental Pick
AP แนะนำซื้อปิด 6.30 บาท เป้าหมาย 7.70 บาท
• ในเชิงกลยุทธ์ เราให้ AP เป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick ในกลุ่มที่พักอาศัย เนื่องจากรับรู้รายได้จากยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่สูง ยอดขาย Presales ปรับตัวดีขึ้นมาก โดยเฉพาะเดือนพ.ค.57 ที่มียอดขายถึง 4.5 พันล้านบาท มากกว่ายอดขายทั้ง 4M57 ที่มียอดขายสะสม 3พันล้านบาท เพราะเปิดขายคอนโดใหม่ 3 แห่ง และใน 2H57 จะเปิดขายโครงการเพิ่มขึ้นอีกหลังจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาดีขึ้นเมื่อปัญหาการเมืองคลี่คลาย โมเมนตัมของกำไรสุทธิก็สดใส โดยกำไรสุทธิใน 1Q57 จะต่ำสุดของปีนี้ แล้วดีขึ้นเป็นลำดับ (4Q57 จะเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดในปี 57) และในปี 58 กำไรสุทธิจะเติบโตได้ถึง 23% สูงกว่าค่า Median ของกลุ่มที่ 8% สำหรับ Valuation ก็จูงใจ โดยซื้อขายที่ P/E ปี 57 เพียง 9 เท่า และลดลงเหลือ 7 เท่าในปี58 ต่ำกว่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 11 เท่า และ 9 เท่า ตามลำดับ สำหรับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ของปี 57 อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 4% แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 7.70 บาท
ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
- สหรัฐ : ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ประเมินดอกเบี้ยสหรัฐปรับขึ้นต้นปี 58
- นายเจมส์ บุลลาร์ ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า เพราะอัตราเงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มสูงขึ้นสู่ระดับเป้าหมายระยะยาวที่ 2% ภายในปี 57 นี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ คือ ประมาณกลางปี 58
• สหรัฐ : การใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนพ.ค.ขยับขึ้นเล็กน้อย ตัวเลขภาคแรงงานดีขึ้นแต่ไม่มาก
• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2%ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% ทั้งนี้การบริโภคคิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 มิ.ย.57 ปรับตัวลดลง2,000 ราย สู่ระดับ 312,000 ราย ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 310,000 ราย
- ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงเล็กน้อย
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,846.13 จุด ลดลง 21.38 จุด หรือ -0.13% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,379.05 จุด ลดลง 0.71 จุด หรือ -0.02% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,957.22 จุด ลดลง 2.31 จุด หรือ -0.12% เพราะกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอาจจะปรับขึ้นเร็วกว่าคาด
- สัญญาน้ำมันดิบร่วงลง...คาดการผลิตน้ำมันของอิรักยังเป็นปกติ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 66 เซนต์ ปิดที่ 105.84 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 79 เซนต์ ปิดที่113.21 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในตลาดโลกจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในอิรัก
- สัญญาทองคำ COMEX ร่วงลง
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 5.6ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,317 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเป็นผลจากการขายกำไรหลังปรับขึ้นมาแล้ว 6 วันทำการต่อเนื่อง ประกอบกับมีข่าวว่าทางการจีนกำลังตรวจสอบเงินกู้ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อทองคำวงเงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง 2 ปีที่ก่อน
ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์
• เลือกหุ้นเด่นกลุ่มที่พักอาศัย : หุ้นใหญ่ -AP, หุ้นเล็ก – LALIN
• ราคาหุ้นในกลุ่มที่พักอาศัยหลายบริษัทได้ปรับขึ้นมาค่อนข้างเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นขั้นนำอย่าง PS, SPALI และ LPN ขณะที่หุ้นใหญ่บางตัว เช่น AP ยัง Laggard ในขณะที่แนวโน้มผลประกอบการจะดีขึ้นเป็นลำดับใน 2Q-4Q57 และเติบโตแกร่งปี 58 เราจึงให้ AP เป็นหุ้นTop Pick ในกลุ่มที่พักอาศัยขนาดใหญ่ สำหรับหุ้นที่พักอาศัยขนาดเล็กเราชอบ LALINเนื่องจากดำเนินธุรกิจอย่างเสถียรภาพ โดยมีการเติบโตอย่างมั่นคง ฐานะการเงินดี และจ่ายปันผลสูงมาก
AP (ราคาปิด 6.30 บาท) : เติบโตแกร่งในปี 58 + P/E ต่ำ + ปันผลดี
• ในเชิงกลยุทธ์ เราให้ AP เป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick ในกลุ่มที่พักอาศัย เนื่องจากรับรู้รายได้จากยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่สูง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม และยอดขาย Presalesปรับตัวดีขึ้นมาก โดยเฉพาะเดือนพ.ค.57 ที่มียอดขายถึง 4.5 พันล้านบาท มากกว่ายอดขายทั้ง4M57 ที่มียอดขายสะสม 3 พันล้านบาท เพราะเปิดขายคอนโดใหม่ 3 แห่ง และใน 2H57 จะเปิดขายโครงการเพิ่มขึ้นอีก หลังจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาดีขึ้นเมื่อปัญหาการเมืองคลี่คลาย
• ด้านโมเมนตัมของกำไรสุทธิก็สดใส โดยกำไรสุทธิใน 1Q57 จะต่ำสุดของปีนี้ แล้วดีขึ้นเป็นลำดับ (4Q57 จะเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดในปี 57) และในปี 58 กำไรสุทธิจะเติบโตได้ถึง23% สูงกว่าค่า Median ของกลุ่มที่ 8%
• Valuation จูงใจ โดยซื้อขายที่ P/E ปี 57 เพียง 9 เท่า และลดลงเหลือ 7 เท่าในปี 58 ต่ำกว่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 11 เท่า และ 9 เท่า ตามลำดับ สำหรับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(Dividend Yield) ของปี 57 อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 4% แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 7.70 บาทLALIN (ราคาปิด 4.04 บาท) : เติบโตอย่างมั่นคง + ปันผลสูง + ราคาหุ้นต่ำกว่า BVS
• แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ P/E ปี 57-58 ยังต่ำที่ 6.7-6.8 เท่า เนื่องจากมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะทำสถิติสูงสุดเป็นปีที่ 9 ยอดขาย Presales ของงวด 5M57 คิดเป็น 34% ของเป้าหมายทั้งปี 57 ซึ่งดีกว่าอุตสาหกรรมที่ 27%
• ฝ่ายวิจัยฯ DBSV คาดว่ากำไรสุทธิปี 57 จะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 16% และทรงตัวสูงในปี 58
• ราคาหุ้นยังต่ำกว่า BVS สิ้นปี 57 ที่ 5.6 บาท หรือมี P/BV ปีนี้ต่ำเพียง 0.7 เท่า ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูงมากเกือบ 7% ในปี 57 และปี 58 แนะนำซื้อให้ราคาพื้นฐาน 5.31 บาท
-/• ส่งออกพ.ค.หดตัว 2.14%YoY ...ก.พาณิชย์ปรับเป้าส่งออกปีนี้ลงเหลือ 3.5%(เดิม 5%)…ต้องเลือกลงทุน โดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ยังไปได้ดี ให้ SVIเป็นหุ้น Top Pick ในช่วงนี้
- มูลค่าส่งออกเดือนพ.ค.57 ลดลง 2.14%YoY เป็น 19,401 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 5M57ลดลง 1.22%YoY ส่วนนำเข้าพ.ค.57 ลดลง 9.32%YoY และ 5M57 ลดลง 14%YoY สำหรับ5M57 ไทยขาดดุลการค้า 1,556 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทางกระทรวงพาณิชย์ปรับลดเป้าหมายการเติบโตของส่งออกปีนี้ลงเป็น 3.5% จากเดิม 5%
• ความเห็น Retail Research : นับว่าการส่งออกของไทยยังฟื้นตัวได้ช้า โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวกับการเกษตรที่ยังส่งออกลดลงต่อเนื่อง นำโดยกุ้งแช่แข็งและแปรรูป (-16.9%), ยางพารา(-23.1%), น้ำตาล (-23.2%), อาหารทะเลแช่แข็ง (-9.3%) เป็นต้น ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังซบเซา คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า, ยานยนต์ & ชิ้นส่วน, วัสดุก่อสร้าง และผลิตภัณฑ์ยาง แต่ในส่วนของชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์และผลิตภัณฑ์พลาสติกยังขยายตัวได้ดี ทำให้เรายังคงให้ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์เป็นกลุ่มเด่นในหมวดส่งออก หุ้น Top Pick ระยะสั้นเป็น SVI (แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 4.90 บาท ส่วน DELTA และ KCE ให้ซื้อสะสมจังหวะราคาอ่อนตัวเพื่อลงทุนระยะกลาง-ยาว
• ความเสี่ยง/ความไม่แน่นอน คือ ผลกระทบจากประเด็นสถานการณ์การค้ามนุษย์ที่ไทยถูกสหรัฐปรับเป็นกลุ่ม Tier 3 และการที่รัฐบาล EU ลดความสัมพันธ์ภาครัฐกับไทยลงว่าจะมีมากแค่ไหน ซึ่งต้องติดตามอีก 1-2 เดือน โดยขณะนี้ทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและเอกชนกำลังเร่งชี้แจงกับทางสหรัฐและอียูเพื่อให้เข้าใจการปฏิบัติของไทยมากขึ้น
• การส่งออกคิดเป็น 73-74% ของ GDP มีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมมาก และเป็นภาคที่มีการจ้างงานสูง ซึ่งก่อให้เกิดการบริโภคตามมา ซึ่งการส่งออกที่ฟื้นตัวช้ากดดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ด้วย ประกอบกับการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐและเอกชนต้องใช้เวลาในการพิจารณาและทบทวน กว่าจะเห็นการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมน่าจะเป็นปลายปี 57 หรือต้นปี 58 เป็นต้นไป ดังนั้นเราจึงยังคงประมาณการ GDP Growth ปี 57 ไว้ที่ 1.6% ซึ่งใกล้เคียงกับที่ทางธปท.ประมาณการไว้ที่ 1.5% แต่ในปี 58 คาดว่าทั้งภาคลงทุนและส่งออกจะฟื้นตัวดีขึ้น และเป็น Key growth ของเศรษฐกิจไทย โดยนักเศรษฐศาสตร์ประเมินการเติบโตของปี 58 ไว้ที่ 4.5-5.0% (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Quarterly Strategy3Q14 หน้า 14-17)
• การเมือง : ความคืบหน้าในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว
• สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ขณะนี้การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยกำหนดให้มี 1. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มาจากการแต่งตั้งของสนช. 200 คน (คาดว่าจะเป็นนายทหารระดับสูง 50%) และ 2. สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ 250คน โดยเป็นตัวแทนจากทั้ง 77 จังหวัด จังหวัดละ 1 คน ที่เหลือเป็นการสรรหาตามวิชาชีพต่างๆ
• ทั้งนี้คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีทั้งหมด 35 คน (20 คนมาจากสภาปฏิรูป,5 คนมาจากคณะรัฐมนตรี, 5 คนมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และอีก 5 คนมาจากคสช.)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]