- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 07 September 2015 17:30
- Hits: 2785
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ตลาดยังมีทิศทางไม่ชัดเจน
คาดตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบๆ วันนี้ จากความชัดเจนทางการเมืองในประเทศอาจทำให้ตีความไปในทางตรงกันข้ามได้ แต่ความกังวลต่างประเทศอาจมีผลหนักกว่า เหตุการณ์ในประเทศ มีมติสปช. ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญอีกทั้งมีหลายกลุ่มที่เรียกร้องให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญเสนอให้มีกรอบเวลาที่ชัดเจนกว่านี้เกี่ยวกับการเลือกตั้งซึ่งจะช่วยลดความวิตกกังวลว่าจะเกิดความวุ่นวายทางการเมืองในไม่ช้านี้ อย่างไรก็ตาม การเลื่อนกำหนดการเลือกตั้งอาจถูกบางคนวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าดูเหมือนเป็นข่าวร้ายภายในประเทศก็จะเป็นข่าวดี ด้านต่างประเทศซึ่งมีข่าวดีก็กลับเป็นข่าวร้ายเช่นกัน เนื่องจากตัวเลขการว่างงานที่ต่ำของสหรัฐกระตุ้นความกลัวว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเป็นไปได้ที่จะกดดันตลาด
หุ้นเด่นวันนี้ : STPI (Bt13.70; 2015 TP AWS Bt28.80; Bloomberg Bt22.6)
บริษัท เอสทีพี แอนด์ไอ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตและประกอบโครงสร้างเหล็กสำหรับการก่อสร้างภาคอุตสาหกรรม แนวโน้มกำไรแข็งแกร่งมาจากการที่ได้งานเพิ่มจากโครงการเดิมในส่วนที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งยิ่งจะทำให้อัตราส่วนกำไรเพิ่มมากขึ้นด้วย เมื่อวันที่ 17 ส.ค. บริษัทได้ลงนามกับเจ้าของโครงการ ICHTHYS ซึ่งเป็นโครงการหลักใหญ่เดิมในมืออยู่แล้วให้ดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติมอีกเป็นมูลค่า 92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ปริมาณงานในมือเพิ่มขึ้นทันที 31% เป็น 1.35 หมื่นล้านบาท จาก 1.03 หมื่นล้านบาท ทำให้บริษัทจะมีรายรับเติบโตอย่างสม่ำเสมอไปจนถึงสิ้นปี 2016
ขณะนี้ STPI รอผลการประมูลอีก 3 โครงการ ซึ่งเกี่ยวกับการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติซึ่งเจ้าของโครงการได้ชะลอการดำเนินการมาตลอดเนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงแต่คาดว่าอาจจะกลับมาประกาศผลการประมูลในไตรมาส 4/15 หากชนะแม้เพียง 1 โครงการเหล่านี้ก็จะมีรายรับสม่ำเสมอไปจนถึงสิ้นปี 2017 กำไร 1H15 อยู่ในเกณฑ์แข็งแกร่ง รายรับโต 103.47% YoY กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 26.2% YoY เราประมาณการอัตราการขยายตัวกำไรต่อหุ้นที่ 16% สำหรับปีนี้ในขณะที่นักวิเคราะห์ตามผลสำรวจของ Bloomberg คาด EPS จะขยายตัว 18% ในปีนี้ ได้เกิดสัญญาณซื้อรายวันและ bullish divergence ขึ้นพร้อมกันมาสักพักแล้วสำหรับหุ้น STPI ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาหุ้นหลังจากปรับตัวในขาลงมาพอสมควรกำลังจะกลับตัวขึ้นในระยะสั้น อย่าวไรก็ตามการปรับตัวขึ้นจะยังคงถูกจำกัดจากสัญญาณขายในรายสัปดาห์และรายเดือน อย่างไรก็ตาม STPI กำลังจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายแรกที่ 14.40 ถ้าผ่านเป้าหมายต่อไปจะอยู่ที่ 15.70 บาท (แนวต้าน: 13.80, 13.90, 14.10; แนวรับ: 13.60, 13.40, 13.30)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
สปช. คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ วันอาทิตย์ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีมติไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยคะแนนเสียง 135 ต่อ 105 เสียงและงดออกเสียง 7 เสียง โดยคาดว่าจะทำให้การเลือกตั้งต้องรออย่างน้อยถึง เม.ย. 59 และผลจากการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญทำให้ สปช.ได้บรรลุหน้าที่แล้วและต้องยุบลง และต้องแต่งตั้งสภาปฏิรูปใหม่ขึ้นมาภายใน 30 วันเพื่อทำหน้าที่แทน (Bangkok Post)
เตรียมยื่นข้อเสนอปรับลดภาษี SME โดยกระทรวงการคลังเตรียมยื่นข้อเสนอดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ปัจจุบันกำไร 3 แสนบาทแรกของผู้ประกอบการ SME จะได้รับการยกเว้นไม่เก็บภาษี แต่กำไรส่วนเกิน 3 แสนบาท แต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่ปัจจุบันต้องเสียภาษี 15% มีแนวคิดจะลดเหลือ 10% (Bangkok Post)
ท่าอากาศยานดอนเมืองล่าช้าออกไป นักท่องเที่ยวซึ่งคาดหวังใช้ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวอาจต้องเผชิญกับความหนาแน่นเนื่องจากเทอร์มินอลสองยังไม่พร้อมเปิดใช้งานจนถึงเดือน ธ.ค. จากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มเปิดใช้นับตั้งแต่เดือนนี้เนื่องจากงานซ่อมบำรุงยังไม่แล้วเสร็จ (Bangkok Post)
ILINK (บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น) กล่าวว่าตลาดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลยังดีอยู่ปีนี้แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว ความต้องการที่คงที่สำหรับอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วยิ่งขึ้นเป็นผลให้ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีอย่างต่อเนื่อง และยังมีการขายกล้องวงจรปิดได้มากขึ้นหลังจากเหตุระเบิดซึ่งก่อให้เกิดความตื่นตัวว่าต้องมีกล้องวงจรปิดและทำให้มีความต้องการใช้ cctv มากขึ้นรวมถึงการใช้บริการข้อมูลเพื่อดูวงจรปิด และยังมีการประมูล 4 จีที่จะถึง พ.ย.นี้ที่จะเป็นตัวกระตุ้นอุปสงค์อีกทาง (The Nation)
PACE (2.68 บ) ตั้งกลยุทธ์สร้างสมดุลกำไรระหว่างธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกเพื่อสร้างการเติบโตของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องและสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ โดย PACE วางแผนจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพียง 1-2 โครงการ มูลค่ารวม 1.0 หมื่นลบ. ต่อปี ขณะที่จะยังเดินหน้าขยายสาขาร้าน Dean & Deluca เป็น 100 สาขาทั่วโลก ผลการดำเนินงานปีนี้คาดว่าจะยังขาดทุนเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงในการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม นิมิต หลังสวน แต่ในปี 2559 คาดว่าจะพลิกมาเป็นกำไรได้จากการโอนโครงการ Ritz Carlton มหานคร ซึ่งขายได้แล้วกว่า 70% ในปัจจุบัน (Bangkok Post)
ต่างประเทศ :
มีความคาดหวังลดลงว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บรรดาเทรดเดอร์ในตลาดฟิวเจอร์สคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 20% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 30% ก่อนประกาศตัวเลขและมีความเป็นไปได้เกินกว่า 50% ก่อนที่ตลาดทั่วโลกร่วงลงเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน จากผลสำรวจของรอยเตอร์ส (Reuters)
ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการวันนี้เนื่องจากเป็นวันแรงงานส่วนตลาดหุ้นจีนกลับมาเปิดทำการตามปกติ หลังจากที่หยุดในวันพฤหัสและศุกร์เนื่องในวาระครบรอบ 70 ปีของสงครามโลกครั้งที่ 2 (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีในตลาดหุ้นสหรัฐลดลงกว่า 1% เมื่อวันศุกร์ เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ผสมผสานไม่สามารถบอกใบ้ถึงกำหนดเวลาการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้ จึงก่อความไม่แน่ใจแก่นักลงทุน (Reuters)
ตัวเลขการจ้างงานที่ขัดแย้งกัน การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. น้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 220,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานลดลงอยู่ที่ 5.1% ต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี และลดลงจาก 5.3% เมื่อ 4 เดือนก่อน และค่าจ้างปรับเพิ่มขึ้น นักลงทุนจำนวนมากมองว่าตัวเลขเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ขัดแย้งกันต่อความเร่งด่วนในการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวลงจากตัวเลขอัตราการว่างงานสหรัฐที่ลดลง สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7.5 ปีในเดือนส.ค. ซึ่งนักลงทุนมองอย่างระมัดระวังว่า Fed อาจจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ได้อยู่ (Reuters)
นายกกรีซ อเล็กซิส ไซปราสสัญญาว่าหากได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็นนายกอีกจะต่อสู้เพื่อให้ได้เงื่อนไขเงินช่วยเหลือที่ดีขึ้น คะแนนของพรรคของไซปราสในการหยั่งเสียงกำลังลดต่ำลง เงื่อนไขที่ไซปราสจะต่อรองจะมุ่งไปที่การจะขอลดภาระหนี้ และเรื่องเงื่อนไขการว่าจ้างงานให้ดีขึ้น ซึ่งเป็น 2 เงื่อนไขหลักที่ฝ่ายเจ้าหนี้ไม่เห็นด้วย (Reuters)
เอเชีย :
นักลงทุนโลกกำลังช่วยพยุงเพื่อข้อมูลสัปดาห์นี้อาจได้เห็นการปรับลดเงินกองทุนสำรองของจีน ขณะที่ธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงเงินหยวนหลังอ่อนค่าลงอย่างหนักให้เดือนก่อน กองทุนสำรองของจีนซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกปรับลดลงจาก 3.99 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือน มิ.ย.57 จากกระแสเงินทุนไหลออกจากการคาดการณ์เศรษฐกิจจีนจะชลอตัวและเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย กองทุนสำรองของจีนลดลง 42.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือน ก.ค. มาอยู่ที่ 3.65 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นเดือนที่มีการปรับลดมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. (Reuters)
หน่วยงานกำกับดูแลตลาดหุ้นจีนประกาศแผนปฏิรูปครั้งใหญ่ สำนัก กลต. ของจีนกล่าวในบล็อกประชาสัมพันธ์เมื่อวันอาทิตย์ว่าตลาดหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้นและความเสี่ยงจากการใช้เงินกู้ยืมมาลงทุนก็ลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลมีแผนที่จะปฎิรูปและควบคุมเข้มงวดขึ้น รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะแนะนำดัชนีหุ้นในระดับที่จะหยุดการซื้อขายซึ่งจสามารถขึ้นเครื่องหมาย H หยุดการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ทองร่วงจากความกังวลการขึ้นดอกเบี้ย ทองคำตลาดจรปรับลด 2.25 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 1,122.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากข้อมูลการว่างงานสหรัฐออกมาแข็งแกร่งทำให้กลับมากังวลอีกครั้งว่าอาจมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือนนี้และมีการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ (Reuters)
น้ำมันร่วงขึ้นจากความกังวลด้านอุปทาน NYMEX ร่วงลง 70 เซนต์หรือ 1.5% ปิด 46.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนท์ร่วง 1.07 ดอลลาร์สหรัฐหรือ 2.1% ปิดที่ 49.61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะนักลงทุนกังวลเรื่องอุปทานล้นเกินเป็นส่วนใหญ่รวมถึงเรื่องตลาดหุ้นโลกที่เป็นลบด้วย (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094