- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 September 2015 16:01
- Hits: 2122
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
รอตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ
คาดหุ้นไทยปรับตัวในกรอบแคบวันนี้แนวโน้มบวก โดยนักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเป็นหลักเพื่อจะบ่งชี้การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้ามีให้ลุ้น ต่างประเทศ คำกล่าวของประธาน ECB ที่มีแนวโน้มเพิ่ม QE อีกเป็นปัจจัยบวกเหมือนกับการที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะเพิ่มการใช้จ่ายอีก อย่างไรก็ตามปัญหาเศรษฐกิจจีนยังกดดันอารมณ์ของตลาดอยู่
หุ้นเด่นวันนี้ : IVL (ราคาปิด 20.80 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย ปี 58 Bloomberg 28.46 บาท)
อินโดรามา เวนเจอร์ส (lVL) รายงานกำไรสุทธิงวด 1H58 เติบโตแข็งแกร่ง 201% YoY จากปัจจัยหนุนของการบันทึกกำไรสินค้าคงคลังตามราคาผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ ประกอบกับผลการดำเนินงานปกติที่แข็งแกร่งจากปริมาณขายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากทั้งการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมาที่หนุนให้กำลังการผลิตสูงขึ้นและการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะล่าสุดในงวด 2Q58 ที่อัตราการใช้กำลังการผลิตปรับตัวสูงขึ้นเป็น 90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 86% ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมที่ยังแข็งแกร่ง ถึงแม้ในระยะสั้น lVL จะได้รับเผชิญกับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงนับตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย. และน่าจะทำให้ lVL ต้องเผชิญกับขาดทุนสินค้าคงคลังจำนวนมากในช่วง 3Q58 อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบโลกได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วที่ระดับราคา 40 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล (WTl) และน่าจะค่อยๆ เห็นการฟื้นตัวนับจากนี้ไป ขณะที่ผลการดำเนินงานหลักยังคงเห็นการเติบโตต่อเนื่องจากแผนการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว
และน่าจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต กำไรสุทธิของ lVL อ้างอิงจากประมาณการใน Bloomberg Consensus จะเห็นการฟื้นตัวแรงในปีนี้ 158% YoY จากฐานกำไรที่ต่ำในปี 2557 และเติบโตต่อเนื่องในปี 2559 อีก 22% YoY เราเชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบันซึมซับประเด็นลบต่างๆ ไปมากจนมีความเสี่ยงขาลงที่จำกัดแล้ว หลังจากที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ระดับใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (BVPS) ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 16.2 บาท ซึ่งแทบจะไม่เกิดขึ้นในอดีต ในมุมมองทางเทคนิคพบว่า Price Pattern ของ lVL ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่มาระยะหนึ่งแล้ว พร้อมกับการเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงการฟื้นตัวขึ้นของราคาหุ้นระยะสั้นที่อาจยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร เนื่องจากยังคงโดน Weekly & Monthly Sell Signal คอยกดดันอยู่ ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ lVL คาดว่าการฟื้นตัวของราคาในรอบนี้มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 21.30 จุด และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 22.60 บาท (แนวต้าน: 20.90, 21.00, 21.10; แนวรับ: 20.70, 20.60, 20.50)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงต่อม.หอการค้าไทยพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง 72.3 จุดช่วง ส.ค. จาก 73.4 ช่วง ก.ค. โดยเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับแต่ พ.ค. 57 ทั้งที่ความเชื่อมั่นทำท่าจะกลับมาจากความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแต่กลับมีความกังวลว่าเศรษฐกิจจะต่ำจากเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหม (Bangkok Post)
ซ่อมรันเวย์ดอนเมือง บมจ.ท่าอากาศแห่งประเทศไทย (AOT) จะปิดลานบินสองเส้นในท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่องานซ่อมบำรุงระหว่าง ก.ย. ซึ่งจะลดความสามารถรองรับสายการบินลงราว 10% จาก 40 เหลือ 36 เที่ยวต่อชั่วโมง (Bangkok Post)
อัดฉีดสภาพคล่องแก่ SMES ทีมเศรษฐกิจใหม่นำโดยรองนายกสมคิดมีแผนเพิ่มมาตรการช่วยเหลือด้านภาษีและทางการเงินแก่ SMEs โดยมาตรการจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติในวันอังคารหน้าตามแผนอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 136 พันลบ. ที่ได้ประกาศแล้วในสัปดาห์นี้ (Bangkok Post)
ผลิตภาพต่ำเป็นข้อกังวล จากเวทีเสวนากับดักผู้มีรายได้ปานกลางวานนี้ ผู้นำทางธุรกิจเห็นด้วยว่าเศรษฐกิจของประเทศเติบโต 5% ต่อปีหลังปี 2540 วิกฤตเศรษฐกิจ และลดลงเหลือ 2-3% ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาอันเป็นผลจากผลิตภาพที่ต่ำลง (Bangkok Post)
ADVANC (241 บาท; ราคาเป้าหมาย 290 บาท) คาดว่ารายได้ค่าบริการข้ามแดน (โรมมิ่ง) จะเพิ่มขึ้น 24% ในปีนี้ หนุนโดยแพคเกจโรมมิ่งแบบไม่จำกัดการใช้งานที่ราคาไม่แพงนักประกอบกับมีจุดเข้าถึงไวไฟฟรีทำให้สามารถใช้การโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตผ่านแอพมือถือขณะไปต่างประเทศ ADVANC ยังร่วมกับ Tune insurance เพื่อให้ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุสายการบินสำหรับลูกค้าโรมมิ่งด้วย (Bangkok Post)
TK ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ มั่นใจพอร์ตสินเชื่อปีหน้าพลิกกลับมาเป็นบวก 5% ในขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐบาลจะดันสินเชื่อเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ TK วางแผนที่จะเพิ่มพอร์ตสินเชื่อในกัมพูชา-ลาว และตั้งเป้ารายได้จากต่างประเทศแตะ 50% ใน 5 ปี (Bangkok Post)
ต่างประเทศ :
ความเห็นจากธนาคารกลางยุโรป ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) นายมาริโอ ดรากิ ให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจยุโรปว่าจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีซีบีได้เตือนว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจีนและราคาน้ำมันที่ร่วงลงซึ่งดึงให้ประเทศในยุโรป 19 ประเทศ กลับไปสู่ภาวะเงินฝืดในเวลาต่อมาได้ อีซีบีปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเมื่อวันพฤหัสแต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เช่นเดิม (Reuters)
ประเด็นที่จับตามองวันนี้ : การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ: วันนี้ไม่มีข้อมูลอื่นใดที่กระตุ้นตลาดในเอเชีย เหลือแค่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเท่านั้น ตลาดหุ้นจีนจะกลับมาซื้อขายในวันจันทร์ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องจากเป็นวันแรงงาน
สหรัฐ :
ดัชนีในตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัส จากรายงานที่ระบุว่าประธานธนาคารกลางยุโรป นายมาริโอ ดรากิแย้มว่าควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มสำหรับประเทศในแถบยุโรป อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความวุ่นวายในตลาดหุ้นและเศรษฐกิจของจีน นักลงทุนรอตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่จะประกาศในวันนี้ซึ่งอาจทำให้เฟดตัดสินใจได้ว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อไหร่ (Reuters)
สหรัฐขาดดุลการค้าลดลงสู่ระดับต่ำสุดใน 5 เดือนในเดือน ก.ค. จากการส่งออกที่ดีขึ้น เกือบทุกสินค้าส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวม ดุลการค้าที่ขาดดุลลดลง 7.4% เป็น 41.9 พันล้านดอลลาร์ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. (Reuters)
ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังอยู่ในแนวโน้มของตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่งอยู่ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 12,00 มาอยู่ที่ 282,00 ในสัปดาห์ที่แล้ว (Reuters)
ภาคบริการที่ยังแข็งแกร่ง lSM รายงานดัชนี PMl ภาคบริการของสหรัฐ ลดลงมาอยู่ที่ 59 ในเดือน ส.ค. ลดลงจาก 60.3 ในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุด นับตั้งแต่ ส.ค. 2005 (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นขึ้นจากคำกล่าว ECB สะท้อนแนวโน้มเพิ่ม QE ตามที่วานนี้ ECB ได้มีการแถลงของประธานคือ Draghi ว่ามีการถดถอยของแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ทำให้มีการคาดหวังว่าจะมีมาตรการ QE เพิ่มเติมทำให้หุ้นทั่วยุโรปปรับตัวบวก โดย FTSEurofirst 300 ปรับขึ้น 2.4%(Reuters)
เอเชีย :
ญี่ปุ่นต้องการตั้งงบประมาณใช้จ่ายทำสถิติสูงสุด ทางการได้ร้องของบประมาณ 102.40 ล้านล้านเยน หรือ 852.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับงบประมาณแผ่นดินในปีงบประมาณหน้าเริ่มเดือน เม.ษ. 59 เป็นจำนวนสูงสุดตั้งแต่มีมา ซึ่งส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจากการเพิ่มขึ้นของประกันสังคมซึ่งมีการใช้จ่ายในอัตราการเติบโตแบบก้าวหน้า (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ทองร่วง 1% วันพฤหัส จากค่าเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นเทียบกับยูโรหลัง ECB หั่นคาดการณ์เงินเฟ้อขณะที่รายงานการจ้างงานสหรัฐส่งสัญญาณเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ยังอยู่ในความสนใจ ทองคำตลาดจรปรับลด 0.8% ปิดที่ 1,125.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองคำสหรัฐส่งมอบ ธ.ค.ลดลง 0.8% ปิดที่ 1,124.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
ราคาน้ำมันดิบฟื้นจากตลาดหุ้น น้ำมันปรับขึ้นจากแนวโน้มหุ้นวอลสตรีทที่ดีขึ้น ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 50 เซนต์สู่ระดับ 46.75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์ขึ้น 18 เซนต์มาอยู่ที่ 50.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpan (No.49234) TeI: 02 680 5094