- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 September 2015 16:00
- Hits: 1962
บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) : Market Comment
คาดหวังมาตรการช่วยเหลือ SMEs ในสัปดาห์หน้า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดเพิ่มขึ้น ได้แรงหนุนจากตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ลดลงในเดือนก.ค. ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด 0.14%, -0.35%, 0.12%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ตอบรับ ECB ที่พร้อมอัดฉีดเงินทำ QE เพิ่มถ้าจำเป็น ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด 2.68%, 1.82%, 2.17%, 2.62%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 0.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 0.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.68 ดอลลาร์/บาร์เรล แรงหนุนจาก ECB ที่พร้อมอัดฉีดเงินทำ QE เพิ่มถ้าจำเป็น
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าภูมิภาค โดยมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง และโรงพยาบาล เนื่องจากเริ่มมีความชัดเจนในการเปิดประมูลรถไฟรางคู่เส้นแรกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือน พ.ย. นี้ และอาจมีอีกเส้นทางในเดือนธ.ค. ถ้าเกิดความล่าช้าก็คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า ทั้งความชัดเจนของรถไฟไทย-จีน และรถไฟไทย-ญี่ปุ่น นอกจากนี้ตลาดยังมีกระแสของการคาดหวังของการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดสองในเรื่องของการเพิ่มสภาพคล่อง หลังรัฐบาลรับข้อเสนอที่จะแก้เงื่อนไขขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอี โดยบรรษัทประกันสินเชื่อ SMEs โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตฯ ขนาดย่อมจาก 18% เป็น 30% และการเสนอมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจจะเสนอเข้าที่ประชุมครม. ในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้อาจรวมถึงมาตรการลดหย่อนภาษีกองทุนหุ้นระยะยาว หรือ LTF ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2559 ด้วย ทางด้านรมว. อุตสาหกรรมได้สรุปแผนงานมาตรการช่วยเหลือ SMEs เพื่อเสนอต่อรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจในวันนี้ ก่อนจะเสนอต่อครม. ในวันอังคารหน้าต่อไป โดยประกอบไปด้วย 5 มาตรการดังนี้ 1. สินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูจากสถาบันการเงิน 1 แสนล้านบาท 2. สินเชื่อจากโครงการธุรกิจพลิกฟื้นเอสเอ็มอี 1,000 ล้านบาท จะช่วยเหลือ SMEs ที่ประสบปัญหาติดเครดิตบูโร 3. กองทุนสตาร์ทอัพนักรบใหม่ 1,500 ล้านบาทจากธนาคารออมสิน 500 ล้านบาท เอสเอ็มอีแบงก์ 500 ล้านบาท
และ KTB อีก 500 ล้านบาท 4. งบบูรณาการเพื่อพัฒนา SMEs 1,500 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือกลุ่มที่ต้องการขยายตลาด เพิ่มกำลังผลิต 5. โครงการเพิ่มรายได้ เช่น ปิดถนนสีลมให้เอสเอ็มอีสามารถนำสินค้ามาขายแก่ผู้ซื้อโดยตรง ทั้งนี้ รมว. กล่าวว่าจะเน้นช่วยเหลือ SMEs กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ทำให้หนี้เสียของธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น หน่วยงานรัฐอาจเข้าไปค้ำประกันให้ เพื่อให้ธนาคารสามารถปล่อยกู้เพิ่มได้ ส่วนการประชุม ECB ส่งสัญญาณอาจเพิ่มเงินอัดฉีด QE ถ้าจำเป็น และได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 0.05% หลังเงินเฟ้อต่ำเพียง 0.2% และยังได้ลดคาด การณ์ GDP ของกลุ่มยูโรโซนในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1.4% จากเดิมที่ 1.5% และปีหน้าลงมาอยู่ที่ 1.7% จากเดิมที่ 1.9% สอดคล้องกับ IMF ที่ได้เตือนสหรัฐฯ ว่าไม่ควรรีบร้อนที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะอาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะงัก เพราะฉะนั้นน่าติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันนี้ว่าจะมีทิศทางเพิ่มขึ้นกว่าคาดหรือไม่ ซึ่งจะเป็นข้ออ้างที่จะทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ต่ำกว่าระดับ 1,340 จุด แนะนำ เก็งกำไรได้
Saravut Tachochavalit, Analyst TEL : +66 (0) 2682 9754 Ext. 9754 EMAIL : [email protected]