- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 September 2015 16:39
- Hits: 899
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Domestic Play
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ฟื้นตัวเด่น แม้ว่า DJIA คืนวันก่อนหน้าปิดลบถึง 470 จุด และราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับฐานลงแรงกว่า 6% ก็ตาม แต่ด้วยมุมมองเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทีมเศรษฐกิจ ส่งผลให้กลุ่มวัสดุก่อสร้าง นำโดย SCC และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขยับขึ้นเด่น ตามมาด้วยกลุ่มค้าปลีก ผลักดันให้ SET INDEX ปิดบวก 10.06 จุด มาอยู่ที่ 1,372.45 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,158 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติน่าสนใจต่อเนื่อง กลับมาขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง ขายสุทธิตลาดหุ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,002 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ 692 สัญญา และคงขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 10 มากถึง 6,724 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามการประชุม ECB วันนี้ Bloomberg consensus คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.05%
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันที่ 3-4 ก.ย. ส่วนตลาดหุ้นฮั่งเส็ง ปิดทำการวันนี้
รายงานการประชุม Beige Book ส่งสัญญาณเศรษฐกิจขยายตัวปานกลางถึงดีเล็กน้อยในพื้นที่ส่วนใหญ่ แต่เริ่มมีความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนมากขึ้น
การปรับดัชนี FTSE จาก Small Cap เป็น Mid Cap โดยมีผล ณ ราคาปิดวันที่ 18 ก.ย.
เข้า: CBG, IFEC, JASIF, KTC, PTG, TASCO, TRUEIF, U
ออก: MBK, TSTH
มุมมองต่อตลาด
มุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในวันนี้ เราคงมุมมอง "กลางถึงบวก" เป็นวันที่ 3 แม้ว่าบรรยากาศรอบโลกจะยังกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และจีน ที่โมเมนตัมส่งสัญญาณอ่อนแรงลงจากช่วง 1H58 ย่อมกดดันจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนทั่วโลก ก็ตาม
แต่ปัจจัยพื้นฐานการลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่างจากตลาดเกิดใหม่อื่นๆ ในเอเชีย ทั้งในแง่ของแรงขายต่างชาติสุทธิ 3.18 แสนล้านบาทนับตั้งแต่ปี 2556 Valuation ของตลาดหุ้นไทยทั้ง PER15 และ P/BV15 อยู่ในโซนซื้อ มากกว่า โซนขาย และการปรับเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล นำโดย ดร.สมคิด ซึ่งภาคเอกชนมีมุมมองเป็นบวกต่อรูปแบบการทำงานของดร.สมคิด ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ SET INDEX ในมุมมองของเรามี Downside Risk ที่จำกัด 1,350-1,360 จุด เชื่อว่าจะทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง แต่แน่นอนว่า Upside gain ของรอบสั้นนี้ 1,380 จุด ยังไม่น่าผ่านเช่นกัน เพราะโมเมนตัมการลงทุนยังไม่สูงมากจนผลักดันหุ้นหลักในตลาดหุ้นไทย ไต่ระดับขึ้นทะลุด่านดังกล่าวได้
เมื่อภาพ SET INDEX ในช่วงสั้นนี้ แกว่งระหว่าง 1,350-1,380 จุด จนกว่าจะเห็นความชัดเจนจากการประชุมเฟดในวันที่ 17 ก.ย. รูปแบบการลงทุนจึงเป็นการเลือกรายตัว (Stock Selection) และซื้อขายในกรอบที่ประเมินไว้ สำหรับหุ้นหลัก โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic Play ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็ก (SMID Cap) จะมีความโดดเด่นกว่าภาพรวมของ SET INDEX หากมีประเด็นเก็งกำไรเฉพาะตัว หรือได้ประโยชน์จากนโยบายการลงทุนของภาครัฐ
วันนี้เราแนะนำติดตามการประชุม ECB ในความเห็นต่อภาวะผันผวนในตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดอัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลก หลังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และ จีน จะเติบโตต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ใน 1H58 อาจทำให้ ECB ต้องเตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมได้
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่เข้าสะสมหุ้นเป้าหมายไปก่อนหน้านี้ อาจพิจารณาขายทำกำไรเล่นรอบบริเวณ 1,370-1,380 จุด เพื่อรอจังหวะกลับมาโหลตหุ้นเป้าหมายอีกครั้ง เมื่อราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Accumulative Buy: ITD/ TPIPL
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 7.75 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากมีการประมูลงานขนาดใหญ่รออยู่ในเดือน ต.ค. คือ รถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย - จีน ที่คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือน ต.ค.มูลค่างานสูงถึง 2 แสนล้านบาท
b) ITD มีความพร้อมสูงสุดในการประมูลงานก่อสร้างระบบรางรถไฟ เนื่องจากมีโรงงานทำไม้หมอนคอนกรีตรถไฟ, โรงงานปูนซีเมนต์, โรงเหล็กเส้น และสามารถทำระบบ Switching ของรถไฟได้เอง จึงมีข้อได้เปรียบมากด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันรายอื่น
c) คาดจะมีความคืบหน้าในการออกประทานบัตรโครงการเหมืองแร่โปรแตซที่ จ.อุดรธานีในช่วงปลาย 3Q58 หรือ ต้น 4Q58 และเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อหุ้น ITD
d) ราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ 8.50 บาท จึงเปรียบเสมือนกับได้มูลค่าของธุรกิจที่เหลือฟรี ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมทวายมูลค่า 1.50 บาท และเหมืองแร่โปรแตซแบบ Conservative ที่ไม่ต่ำกว่า 2.00 บาท
e) และมุมมองทางเทคนิคระยะสั้น หากราคาหุ้น ITD ทะลุแนว 7.80 บาท ด่านสำคัญถัดไปจะเป็นที่ 8.30 บาท
2. TPIPL: ราคาปิด 2.34 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่จะได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ที่เร่งผลักดันโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ให้สามารถเปิดประมูลได้เร็วขึ้น โดยแบ่งขนาดโครงการให้เล็กลง เพื่อกระชับขั้นตอนการประมูลและความถี่ให้รวดเร็วขึ้น
b) เนื่องจากงบลงทุนของภาครัฐฯที่อัดฉีดเข้าสู่ระบบจะเป็นตัวแปรสำคัญให้เศรษฐกิจไทยใน 2H58 ฟื้นตัวได้ และเป็นเครื่องมือหลักที่รัฐฯสามารถทำได้ทันที ดังนั้น จึงความว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์จะเพิ่มขึ้นชัดเจนตั้งแต่ 4Q58 เป็นต้นไป สอดรับกับการขยายกำลังการผลิตปูนซิเมนต์ของ TPIPL ที่ 4.50 ล้านตัน/ปี เริ่มเดินสายการผลิตตั้งแต่กลาง 3Q58
c) คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติใน 3Q58 จะเติบโต qoq เนื่องจากโรงไฟฟ้าขยะอีก 55 MW เริ่มจ่ายไฟเข้าสู่ระบบแล้วในกลางเดือนส.ค. น่าจะมาชดเชยกับการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ TPIPL แปลงหนี้สกุลเงินยูโร 163 ล้าน เป็นเงินบาท หลังออกหุ้นกู้สำเร็จ
d) ความสำเร็จในการออกหุ้นกู้จำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปชำระคืนเงินกู้สกุลยูโรจำนวน 163 ล้านยูโร รวมทั้งรีไฟแนนซ์เงินกู้ ซึ่งจะส่งผลให้ Cost of Debt ของบริษัทลดลงจากเดิมราว 1% และลดความผันผวนต่องบการเงินของบริษัท เนื่องจากจะไม่ต้องบันทึกผลขาดทุน / กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมากเหมือนใน 1H58 ที่ผ่านมา
e) Valuation ของ TPIPL ณ ปัจจุบันซื้อขาย PBV58 ต่ำ 1.0 เท่า เป็น 0.80 เท่า เทียบกับ SCC ที่ 2.88เท่า และ SCCC ที่ 3.4 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 3 เท่ากับ US$168 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$144 ล้าน
เป็นการขายสุทธิทุกตลาด ยกเว้น TAIEX ที่ซื้อสุทธิเล็กน้อย
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,002 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,266 ล้านบาท เทียบกับ 9 วันทำการก่อนหน้า ขายสุทธิ 34,295 ล้านบาท ทั้งนี้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงขายสุทธิสูงเกิน 8 หมื่นล้านบาท เป็น 86,517 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ เพียง 692 สัญญา เทียบกับ 6 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 45,511 สัญญา น่าจะเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Short อีกครั้ง หลัง SET50 Index ยังไม่สามารถยืนเหนือ 900 จุดได้ รวมถึงบรรยากาศรอบโลกเป็นลบ และ S50U15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 9.89 จุด จากวันก่อนหน้า Discount กว้างถึง 11.62 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิขยับขึ้นเล็กน้อย เป็น 25,628 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 10 เร่งขึ้นเป็น 6,724 ล้านบาท รวม 10 วันทำการ ขายสุทธิ 30,112 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยกลับหดตัวอีกครั้ง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมากถึง 2.84bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.54bps ปิดที่ 2.835%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ชะลอเล็กน้อยเป็น 1,073 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,682 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 เน้นกลุ่มปิโตรเคมีอย่างโดดเด่น รวมถึง SCC
การซื้อขายผ่าน NVDR ยังคงซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 เท่ากับ 927 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 833 ล้านบาท รวม 5 วันทำการ ซื้อสุทธิ 4,420 ล้านบาท ทั้งนี้ กลุ่มปิโตรเคมีเป็นเป้าหมายหลักของการสะสมผ่าน NVDR วานนี้ สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ถูกกลับมาซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 231 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 170 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 170 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 121 ล้านบาท กลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 146 ล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 123 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มพลังงาน กลับถูกขายสุทธิสูงสุดอีกครั้ง แต่ก็เพียง 26 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 71 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ติดตามการประชุมคองเกรส ต่อกรณีอิหร่านในวันที่ 17 ก.ย.
รายงาน Beige Book ส่งสัญญาณเศรษฐกิจขยายตัว
6 ใน 12 เขต รายงานเศรษฐกิจเติบโตปานกลางถึงดีเล็กน้อย 5 เขต ขยายตัวปานกลาง
3 เขต ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ทำให้ความต้องการสินค้าบางอย่างลดลง รวมถึงผลิตภัณฑ์เคมี, ไม้ และสินค้าไฮ-เทค
รายงานล่าสุดมีการอ้างอิงถึงเศรษฐกิจจีนค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับรายงานครั้งก่อนที่ไม่มีการกล่าวอ้าง
การจ้างงานขยายตัวปานกลางถึงบวกเล็กน้อย ในพื้นที่ส่วนใหญ่ ส่งผลให้ภาวะการจ้างงานตึงตัวมากขึ้น เป็นผลให้ค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในบางอุตฯ และในบางพื้นที่
ภาคการผลิตเป็นบวกใน 10 เขต ส่วน 2 เขต กลับชะลอตัวได้แก่นิวยอร์ค และแคนซัส ซิตี้
คองเกรสมีเวลาถึงวันที่ 17 ก.ย.ต่อการพิจารณามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน: ณ ปัจจุบัน ประธานาธิบดี โอบามา มีเสียงสนับสนุนจากทางวุฒิสภา 34 เสียง ในการสนับสนุนการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน เพื่อแลกกับการควบคุมโครงการนิวเคลียร์
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นลบ:
การจ้างงานภาคเอกชน เดือนส.ค. เท่ากับ 1.90 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 2.10 แสนตำแหน่ง แต่ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 1.77 แสนตำแหน่ง
คำสั่งซื้อโรงงาน เดือนก.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 0.9% mom และเดือนก่อนหน้าที่ 2.2% mom โดยคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นเด่น จากยอดขายรถยนต์ และสินค้าทุน ขณะที่คำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหินที่ชะลอตัว และคำสั่งซื้อสินค้าที่ไม่ใช่คงทนลดลงถึง 1.3% mom
IMF คาดเศรษฐกิจโลกเติบโตชะลอตัว: จากผลกระทบของเศรษฐกิจจีนที่เติบโตต่ำกว่าคาด เริ่มเห็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่อย่างอินโดนีเซีย รวมถึงตลาดเงินที่ตึงตัว และ แนวโน้มที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก แนวโน้มเศรษฐกิจโลกจะเติบโตปานกลาง และอาจขยายตัวต่ำกว่าที่เราคาดในเดือนก.ค.ที่ 3.3%
ยุโรป
ไม่มี
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
เศรษฐกิจออสเตรเลียขยายตัวต่ำกว่าคาด: GDP ใน 2Q58 เติบโตเพียง 0.2% qoq จาก 1Q58 ที่ขยายตัว 0.9% qoq และต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 0.4% qoq ถือเป็นการเติบโตที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556 โดยการส่งออกหดตัว 3.3% qoq
อัตราการว่างงานฟิลิปปินส์ลดลงต่อเนื่อง: 2Q58 อัตราการว่างงาน 6.4% ลดลงจาก 2Q57 ที่ 7.0% อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานของฟิลิปปินส์ถือว่าสูงสุดในอาเซียน เป็นเช่นนี้มาตลอด 3 ใน 5 ปีที่ผ่านมา เพราะมีจำนวนคนเข้าสู่ตลาดแรงงาน มากกว่า การจ้างงาน
ไทย
สมคิด สั่งพาณิชย์ 3 เดือนดูแลค่าครองชีพรากหญ้า: นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายการทำงานให้แก่ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เรื่องเร่งด่วนคือ ให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าข้าว ปาล์มน้ำมัน และยางพารา เพื่อให้ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม และให้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกันแก้ไขปัญหา ด้านการส่งออก ให้จัดลำดับความสำคัญของกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพใหม่ และใช้วิธีเจาะลึกเข้าไปสร้างเครือข่ายและพัฒนาตลาดที่กำหนดไว้แล้ว เพราะบางประเทศเป็นตลาดใหญ่ แต่กลับมีทูตพาณิชย์ดูแลเพียงคนเดียว จึงต้องจัดทัพใหม่และเสริมบุคลากรเข้าไป
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530