- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 September 2015 17:25
- Hits: 1221
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังลงต่อ แต่มีลุ้นจังหวะดีดบวกอยู่ จึงน่ารอขายบวก..
กลยุทธ์ : คาด SET จะปรับพักตัวลงต่อจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง แต่ยังลุ้นแรงซื้อเก็งกำไรจากความหวังเรื่องการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของภาครัฐ และโอกาสที่เฟดจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วนักได้บ้าง ดังนั้นยังน่าถือไว้เพื่อรอขายบวก
หุ้นเด่นทางเทคนิค : KTC, KKC, KCE(short)
แนวโน้ม : SET เริ่มมีแรงขายทำกำไรกดดันมากขึ้น หลังจากที่ประชุม ครม. ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ครม.ชุดใหม่ตามคาด ทำให้นักลงทุนกลับมากังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง หลังตลาดหุ้นจีนยังคงปรับตัวลงรุนแรงต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลขภาคการผลิตของทั้งจีนและสหรัฐที่ยังออกมาอ่อนแอ ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ยังปรับตัวลงรุนแรงด้วยเช่นกัน รวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ขยับพุ่งขึ้นมาติดต่อกันหลายวัน ก็เริ่มมีแรงขายกดดันให้ปรับย้อนลงพอควรอีก จึงทำให้เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียไม่ค่อยสดใสนัก ซึ่งน่าจะทำให้ SET ยังอยู่ในช่วงอ่อนตัวลงอีกครั้งด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามปัจจัยในประเทศจากการเริ่มใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของภาครัฐ น่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้บ้าง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอก็อาจจะทำให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับโอกาสในการที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือนนี้ลง ทำให้ FSS ยังคาดหมายว่า SET จะอ่อนตัวลงในกรอบจำกัด และมีแนวโน้มกลับมารีบาวด์ขึ้นอีกครั้งได้ในช่วงถัดไป ดังนั้นส่วนที่ถือค้างอยู่ เราจึงแนะนำให้ถือไว้เพื่อรอขายบวกต่อไป
แนวรับ 1360-1358 , 1355-1352 จุด
แนวต้าน 1366-1372 , 1380-1388 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$187 ล้าน เม็ดเงินไหลออจากไต้หวัน US$162 ล้าน และเกาหลีใต้ US$43 ล้าน แต่ไหลเข้ากลุ่ม TIP เป็นวันที่ 2 รวม US$27 ล้าน ได้แก่ไทย US$25 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$19 ล้าน แต่ขายอินโดนีเซีย US$17 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกหลังตัวเลข PMI ของจีนและสหรัฐบ่งชี้ถึงภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ตลาดหุ้นโลกเจอ Bottom แล้วแต่ระยะสั้นยังผันผวน ภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอยังกดดันสินทรัพย์เสี่ยง โดย Global PMI เดือน ส.ค. ลดเหลือ 50.7 (ถูกกดดันจาก PMI จีนเป็นหลัก) จาก 51 เดือน ก.ค. แม้สูงกว่า trigger point ที่ 50 แต่ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ฉุดดาวโจนส์ร่วง 469 จุด น้ำมันปรับลง US$3.79 ดอลลาร์อ่อน ตลาดจับตารายงานการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐเดือน ส.ค. คืนนี้ เราเชื่อว่าตลาดหุ้นโลกรวมถึง SET ผ่าน bottom ในปีนี้ไปแล้วแต่ระยะสั้นยังผันผวน หุ้นกลุ่มสื่อสาร แบงก์ รับเหมา ยังน่าสะสม
(+) 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคาดส่งผลต่อ GDP ปีนี้ 0.3% ประกอบด้วย 1. ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย (27% ของครัวเรือนทั้งประเทศ) โดยปล่อยสินเชื่อ (0% 2 ปี) ให้กองทุนหมู่บ้านผ่านธอส.และธกส. วงเงิน 5.9 หมื่นล้านบาท 2. จัดสรรเงินให้เปล่า 7 พันตำบลๆละ 5 ล้านบาท เพื่อจ้างงานในชนบท วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท 3. จัดงบลงทุนให้ส่วนราชการที่เสนอโครงการลงทุนขนาดเล็กไม่เกิน 1 ล้านบาท วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท เราเชื่อว่ามาตรการช่วยเหลือ SME, ภาคส่งออก, การลงทุนขนาดใหญ่จะมีตามมาในลำดับถัดไป ธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ได้แก่ค้าปลีก รับเหมา วัสดุก่อสร้าง และลิสซิ่ง แม้หุ้นหลายตัวจะถูก take profit วานนี้แต่หุ้นที่ยัง laggard ในกลุ่มนี้ได้แก่ CK, SCC, ROBINS
(+) กลุ่มธนาคาร SETBANK ปรับลงถึง 22% YTD เป็น sector ใหญ่ที่ underperform ที่สุด และมากกว่ากลุ่มพลังงานเท่าตัว (SETENERGY -11% YTD) เป็นการปรับลงมากกว่าการปรับลดประมาณกำไร ทำให้ PBV เหลือ 1.24 เท่าต่ำกว่า -1sd ที่ 1.3 เท่าและค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.64 เท่า และ discount จาก MSCI ex Japan กลุ่มการเงินถึง 16% สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ discount 6% เมื่อรวมกับพื้นฐานที่กำลังฟื้น และความแข็งแกร่งของธนาคาร (CAR 16%, Tier 1 14%, NPL 2.4%, Coverage 136%) ราคาหุ้นปัจจุบันเป็นระดับที่น่าสะสมสำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาว Top Picks คือ TISCO (ราคาเป้าหมาย 56 บาท) และ KBANK (ราคาเป้าหมาย 219 บาท)
(+) CENTEL ผลกระทบจากเหตุระเบิดจำกัด การยกเลิกการจองห้องพักมีไม่ถึง 1% ของรายได้ และปัจจุบันเริ่มกลับสู่ระดับปกติ ส่วน Occupancy Rate ของรร.ในกรุงเทพ 3QTD ยังสูงกว่า 80% เทียบปีก่อนที่ 70% ส่วนธุรกิจอาหารยังโตจากการคุมต้นทุนและทยอยปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร CENTEL มีแผนสร้างโรงแรมเพิ่มอีก 4 แห่ง (มัลดีฟ 2 แห่งและที่พัทยาและสมุย) ภายในปี 2018 และอยู่ระหว่างการประมูลสาขา KFC จากยัมเรสเทอรองตส์กว่า 100 สาขา (CENTEL มีสาขา KFC 202 สาขา) เรายังคาดกำไรสุทธิปีนี้ +48% Y-Y เป้าหมาย 45 บาท แนะนำซื้อ และยังเป็น Top Pick ของกลุ่มท่องเที่ยว
(+) KTC เป็นหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ที่เราชอบตัวหนึ่ง แม้จะไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเพราะฐานลูกค้าเป็นระดับกลาง-บน แต่ KTC ก็โดดเด่นได้ด้วยตัวเองจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นหลัง refinance หุ้นกู้ได้ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ขณะที่ NPL ยังคุมให้อยู่ในระดับต่ำ ส่วนการตั้งสำรองฯสูงมากอยู่แล้วถึง 393% จึงไม่มีความจำเป็นต้องตั้งเพิ่มอีก เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 116 บาท
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบแรงเกือบ 3% โดยยังคงมีสัญญาณเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจเข้ามากดดันหลัง PMI ภาคการผลิตชะลอตัว รวมถึงยังจับตาดูท่าทีของ FED
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบเฉลี่ยราว 3% เช่นกัน หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกออกมาอ่อนแอ ทำให้นักลงทุนกังวลต่อทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากบรรยากาศการลงทุนที่ลบ
(0) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.67-35.80 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดที่ 45.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 3.79 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ความกังวลเรื่องการชะลอตัวเศรษฐกิจโลกกดดันด้านอุปสงค์ของน้ำมันดิบ
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,139.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวร่วงแรงจากสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงความไม่แน่นอนเรื่องช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
2 ก.ย. - ออสเตรเลีย: 2Q15 GDP
- เกาหลีใต้: 2Q15 GDP
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ADP Report) (ส.ค.)
3 ก.ย. - ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปิดทำการ
- สหรัฐ: Fed Beige Book
4 ก.ย. - ตลาดหุ้นจีนปิดทำการ
- สหรัฐ:การจ้างงานนอกภาคเกษตร (ตลาดคาด +2.2 แสนราย ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่+2.15 แสนราย)
6 ก.ย. - ไทย:สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
7 ก.ย. - สหรัฐ: ตลาดการเงินปิดทำการ เนื่องในวัน Labor Day
8 ก.ย. - จีน:ดุลการค้า (ส.ค.)
- ญี่ปุ่น: 2Q15 GDP
- ยูโรโซน: 2Q15 GDP
10 ก.ย. - จีน:อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.), ยอดสินเชื่อใหม่ (ส.ค.)
11 ก.ย. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK)ประชุม
13 ก.ย. - จีน:Industrial Production, Retail sales (ส.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research