- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 01 September 2015 16:04
- Hits: 1709
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เมื่อ SET กำลังจะกลับไป 1400
SET View
แนวโน้ม ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น, ความคาดหวังต่อนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ (เข้า ครม.วันนี้), สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศมีท่าทีผ่อนคลายลง หลังมีการจับกุมผู้ต้องสงสัย หนุนให้ SET ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1400 จุดวันนี้ อย่างไรก็ดี แม้การเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน (1354 จุด) ถือเป็นสัญญาณบวก แต่ในเชิงกลยุทธ์ เรามองว่า SET มีความเสี่ยงในการพักฐานระยะสั้น เพราะขึ้นมาจากจุดต่ำสุดแล้วกว่า 90 จุดภายในเวลาอันรวดเร็วเพียง 1 สัปดาห์ ช่วงนี้ เก็งกำไรระยะสั้นตามโมเมนตัมตลาดไปก่อน และรอสะสมบริเวณใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1350-1360 จุด
ข่าว/ดัชนีเศรษฐกิจ
• วันนี้ รมว.คลัง จะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.1 แสนล้านบาท ต่อที่ประชุม ครม. ทั้งนี้ เรามองว่า มาตรการที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจเร็วสุด คือ กองทุนหมู่บ้าน (วงเงิน 5.9 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี) ซึ่งเป็นการอัดฉีดเงินโดยตรง กลุ่มธุรกิจหลักที่ได้ประโยชน์คือกลุ่มที่มีฐานลูกค้ารากหญ้าและอยู่ในต่างจังหวัดเป็นหลัก เช่น ลีสซิ่ง, ค้าปลีก, วัสดุก่อสร้าง
• ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งขึ้นต่อ (WTI +8.8%, Brent +5.7%) จาก 2 ข่าวดี คือ 1) กลุ่ม OPEC พร้อมหารือกับผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มฯ เพื่อหาทางออกร่วมกันในการแก้ปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำ 2) Energy Information Administration (EIA) ปรับลดคาดการณ์กำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลงจากประมาณการเดิมราว 1.3 แสนบาร์เรล/วัน ทำให้ตลาดผ่อนคลายความกังวลต่อภาวะอุปทานส่วนเกินในระยะสั้น
• วันนี้ หุ้น EGCO ขึ้นเครื่องหมาย XD จ่ายเงินปันผล 3 บาทต่อหุ้น
กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรหุ้นที่ได้ผลบวกจาการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน/ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
Top Daily Pick : PTTEP (มูลค่าเหมาะสม 100 บาท) เก็งกำไรตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน, ราคาหุ้น PTTEP และราคาน้ำมันดิบ Brent ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมามี Correlation สูงมากถึง 97% และ MC (มูลค่าเหมาะสม 15.70 บาท) คาดได้ประโยชน์จากนโยบายกองทุนหมู่บ้าน เพราะมีสาขาในต่างจังหวัดมากถึง 70% ของจำนวนสาขารวม, แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัว สะท้อนจาก Same store sales growth กลับมาเป็นบวก 8% YoY ใน 2Q58 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 4Q56, ซื้อขายที่ P/E ต่ำเพียง 12.9 เท่า เทียบกับ P/E ของ SET ที่ 15.1 เท่า
Technical Pick : SUPER PK NDR WHA GENCO (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)
Theme Plays : หุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (KCE, SVI, SAPPE)/ หุ้นที่ได้รับผลบวกจากนโยบายกองทุนหมู่บ้าน (GL, GCAP, TK, THANI, S11, GLOBAL, MC, DRT, DCC)
Strategy Talk
มีโอกาสได้เห็นการพยุงราคาน้ำมันจากกลุ่ม OPEC
ฝ่ายวิจัย Bank of America Merrill Lynch (BoAML) ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันลง ดังนี้
Remark: ค่าเฉลี่ยทั้งปี
Source: BoAML
เหตุผลสำคัญคือ ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีน, อุปทาน (Supply) ใหม่จากอิหร่านหลังการปลดล๊อคนโยบายนิวเคลียร์, การแข็งค่าของเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี แม้ BoAML ปรับลดคาดการณ์เฉลี่ยทั้งปีนี้ลงเหลือ 55.66 เหรียญฯ/บาร์เรล แต่คาดแนวโน้ม ในช่วง 4Q58 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3Q58 โดยคาดราคาน้ำมันดิบ Brent ณ สิ้นปีนี้ที่ 55 เหรียญฯ/บาร์เรล ด้วยความคาดหวังต่อการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC เนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้
• ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ในอดีต OPEC เคยลดกำลังการผลิตในปี 2541 (วิกฤติต้มยำกุ้งและค่าเงินเอเชีย), 2544 (วิกฤติ Dot com), 2551 (วิกฤติซับไพรม์) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อุปสงค์ (Demand) จากกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging markets) อ่อนแอ
• ดุลบัญชีเดินสะพัด (Current account) จากการศึกษาของ BoAML พบว่า ราคาน้ำมันที่ทำให้หลายประเทศในกลุ่ม OPEC ไม่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด อยู่ที่ราว 60-65 เหรียญฯ/บาร์เรล หากราคาน้ำมันอยู่ต่ำกว่าระดับดังกล่าว ยาวนาน จะทำให้ทุนสำรองของประเทศนั้นๆลดลงอย่างรวดเร็ว
• ความสามารถในการแข่งขัน ไม่มีความจำเป็นต้องทำให้ราคาน้ำมันอยู่ต่ำกว่า 50 เหรียญฯ/บาร์เรล ในเมื่อกลุ่ม OPEC มีความได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิต โดย BoAML ประเมินจุดคุ้มทุนของการผลิตของ Shale oil ในสหรัฐฯอยู่ที่ราว 50 เหรียญฯ/บาร์เรล และของบริษัททั่วโลกอยู่ในช่วงราว 60-80 เหรียญฯ/บาร์เรล เป็นส่วนใหญ่
เรามองแนวโน้มการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบโลก มีผลบวก 2 ข้อ ได้แก่
1) ช่วยดึงเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติกลับมาสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging markets) ซึ่งมี Correlation กับดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (CRB Commodity Index) สูงถึง 92.6%
2) เป็น Sentiment บวกหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานใน SET ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 16% ของ Market cap. ของ SET และลดความเสี่ยงจากการบันทึกขาดทุนจากสต๊อคน้ำมัน (Stock loss) ด้วยมูลค่าที่สูงมาก
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.38
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.76
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.75
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.54
หุ้นในพอร์ตที่จะมีการจ่ายปันผล ได้แก่
EGCO 01/09/2015 3.00 Baht per share
WORK 02/09/2015 0.19 Baht per share
SCB 04/09/2015 1.50 Baht per share
BBL 08/09/2015 2.00 Baht per share
PTT 10/09/2015 6.00 Baht per share