WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRA copyบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -588.40, NASDAQ -179.79, S&P -77.68, FTSE -288.78, CAC -247.53 และ DAX -476.09 โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลงถึง 3.6% จากความกังวลต่อเนื่องเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจีนรายงานดัชนีภาคการผลิตลดลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 6 ปี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกโดยรวม และการประกาศลดค่าเงินหยวนในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ราคาน้ำมันที่ลดลง ส่งผลลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
  .....ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ตลาดหลักลดลงถึง 4-6% โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจจีนเช่นกัน หลังจากตลาดหุ้นจีนลดลงแรงถึง 8.5%
  .....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. -US$2.21 อยู่ที่ US$38.24 ต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานส่วนเกิน จากการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ที่ยังคงล้นตลาด ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งจะทำให้เกิดจากชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกตามมา จะส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง
  ......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$6.0 อยู่ที่ US$1,153.6 ต่อออนซ์ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่คาดว่าเฟดอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
  (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -4,775 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -76,055 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)

 

ทิศทางตลาด :
  ทิศทางตลาด : แนวโน้มยังเป็นขาลง? คาดมีโอกาสปรับลดลงตามตลาดต่างประเทศ แต่คาดว่าวันนี้จะไม่ปรับลงแรง เนื่องจากราคาหุ้นลงมาค่อนข้างเร็วในช่วงที่ผ่านมา ภายใต้ความกังวลเดิมเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ที่จะกระทบการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ขณะที่เฟดยังไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงมาอยู่ที่ 42 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด และความต้องการใช้จากจีนที่ชะลอตัว ซึ่งจะยังคงกดดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานเช่น PTT และ PTTEP และกลุ่มโรงกลั่นโดยเฉพาะที่มีธุรกิจปิโตรเคมี เช่น PTTGC, TOP, IRPC และ ESSO ซึ่งระยะสั้นจะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58
  ....ทางด้านปัจจัยในประเทศ คาดว่ายังได้รับปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ราชประสงค์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน และส่งผลกระทบโดยตรงต่อหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น กลุ่มโรงแรม (CENTEL และ ERW เป็นต้น) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, THAI, BA และ NOK) เป็นต้น ทางด้าน Fund Flow ต่างชาติยังคงขายสุทธิ ต่อเนื่องอีกกว่า 4,775 ล้านบาท และทำให้ YTD มูลค่าขายสุทธิสูงถึง 76,055 ล้านบาท อย่างไรก็ตามแนะติดตามนโยบาย ครม.ชุดใหม่ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ที่คาดเป็น Sentiment บวกต่อตลาดได้บ้าง ซึ่งล่าสุด รมต.คลังเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเน้นช่วยกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย และยังคงนโยบายลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่อไป


  ...และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ภาพรวมยังมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 35.55 - 35.59 คาดส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก และ (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น


  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.06 อยู่ที่ 2.00% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +12.71 มาอยู่ที่ 40.74


  หุ้นแนะนำ : STEC

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม (25 - 28 สค.’58)
  25/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ราคาบ้าน – มิย. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น – ส.ค.
(3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค - สค. (4) ยอดขายบ้านใหม่ – ก.ค.
  26/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - กค. (2) สต็อกน้ำมัน
  27/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขประมาณการ GDP – 2Q/58 (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (3) ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย(pending home sales) – ก.ค.
  28/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคล – กค. (2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย – ส.ค.

นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!