- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 21 August 2015 17:09
- Hits: 2561
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (21/8/58) บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “ ยังไม่ฟื้น ”
SET ปิดปรับตัวลดลงแม้ระหว่างวันจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังมีทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เข้ามา แต่ด้วยแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ และข่าวการประทะกันทางการทหารระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ทำให้มีแรงขายออกมามากในช่วงท้ายตลาดกดดัน SET index ปิดที่ 1,372.53 จุด ลดลง 6.59 จุด Vol 4.9 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) ความไม่สงบบริเวณพรมแดนเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ หลังมีเหตุยิงกันข้ามพรมแดนและเกาหลีเหนือประกาศเข้าสู่ภาวะสงครามแล้ว
(-) Fund Flow ต่างชาติไหลออก โดยมี Net Sell 4.7 พันล้านบาท รวมยอดสะสม Net Sell 3 วัน ที่ระดับ 1.6 หมื่นล้านบาท
(+) จีนอัดฉีดเงินเข้าระบบการเงินภายในประเทศมูลค่า 1.20 แสนล้านหยวน ผ่านทางข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo)
(+) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯยังออกมาดี ล่าสุดรายงานยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 2% สู่ระดับ 5.59 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับในรอบกว่า 8 ปี ขณะที่ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่แม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 4,000 รายมาอยู่ที่ 277,000 ราย แต่ยังต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย ซึ่งเป็นระดับที่จะบอกถึงความเสี่ยงของตลาดแรงงาน
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย 0.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ 41.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เกิดจากแรงเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลงแรงในช่วงที่ผ่านมา
(+) ประกาศครม.ชุดใหม่แล้ว ทีมเศรษฐกิจนำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
(+/-) ตลท.ประกาศเลื่อนจัดงาน Thailand Focus ออกไปก่อนจากเดิมที่จะจัดวันที่ 26-28 ส.ค. นี้
(+/-) นายกฯกรีซลาออก เพื่อเลือกตั้งใหม่
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* ความคืบหน้าการคลี่คลายเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ
* ความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน
* การสร้างความเชื่อมั่นของ ครม.ชุดใหม่
กลยุทธ์การลงทุน “ตั้งรับ เล่นสั้นๆเข้าไว้ ”
แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่และราคาน้ำมันดิบที่รีบาวขึ้นมาได้เล็กน้อย แต่ด้วยแรงกดดันจากปัญหาเศรษฐกิจจีนที่แม้ว่าจะมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพิ่มเติม รวมถึงปัญหาสงครามบริเวรคาบสมุทรเกาหลีที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทำให้เรามองว่าดัชนียังคงอยู่ในแดนลบต่อ แต่อาจะเห็นการรีบาวทางเทคนิคระหว่างวันได้ ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้เราจึงแนะนำ “เก็งกำไรระยะสั้นๆ” เท่านั้นโดยเลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่ารวมถึงกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์หากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CK เก็งกำไร
* แม้งานใหม่จะยังมีไม่มากแต่ Backlog ปัจจุบันกว่า 80,000 ล้านบาทเพียงพอกับเป้ารายได้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
* ช่วงที่เหลือของปีคาดมีงานเปิดประมูลกว่า 190,000 ล้านบาท
* นอกจากในประเทศยังอาจไปลงทุนต่างประเทศพร้อมบริษัทลูกด้วย (เช่น TTW ที่อยู่ระหว่างการศึกษางานด้านประปาที่ประเทศพม่า)
INTUCH ซื้อลงทุน
* แนวโน้มบ.ลูกแกร่ง หนุนกำไรปี 58 ของ INTUCH โต 18%YoY
* ADVANC รอประเด็นบวกจากการประมูลใบอนุญาตคลื่น (4G) 900MHz และ 1800 MHz ในช่วงปลายปี 58 ส่วน THCOM เติบโตต่อเนื่องผ่านดาวเทียมดวงใหม่ (ปี 59 คาดจะยิงดาวเทียมไทยคม 8)
* ประเมินอัตราปันผลยังสูง 6% ต่อปี (โดยมีปันผลระหว่างกาล 2.40 บาท/~3%/ XD 24 ส.ค.58)
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ