- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 20 August 2015 17:52
- Hits: 989
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ซื้อแล้วยังถือรอขายบวก แต่จะซื้อใหม่น่ารอแรงขายเบาลงก่อน
กลยุทธ์ : หลังจากปัจจัยภายในผ่อนคลายลงบ้าง แต่ปัจจัยภายนอกยังกดดันต่อ ทำให้คาดว่า SET ยังมีสิทธิผันผวนและย้อนลบ ดังนั้นถ้าจะซื้อเพิ่มเรายังแนะนำให้รอแรงขายชะลอลงก่อนดีกว่า แต่สุดท้ายแล้ว FSS ยังคาดว่า SET มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้ ส่วนที่ซื้อแล้วจึงยังเน้นถือเพื่อรอขายบวกเช่นเดิม
หุ้นเด่นทางเทคนิค : QH, BCP, SAWAD(short)
แนวโน้ม : SET มีจังหวะรีบาวด์กลับมาแกว่งตัวด้านบวกได้บ้าง หลังจากสถานการณ์ระเบิดในบ้านเราเริ่มผ่อนคลายลงบ้าง เนื่องจากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงต่อเนื่องในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ประกอบกับมีข่าวการปรับ ครม. เข้ามาช่วยสร้างความหวังว่า ครม.ชุดใหม่อาจมีการเร่งเครื่องในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงถัดไปได้ อย่างไรก็ตาม ครม.ชุดใหม่ยังต้องรอการโปรดเกล้าฯ ส่วนสถานการณ์รุนแรงในบ้านเราก็ยังต้องรอความชัดเจน ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดทำการด้วยการปรับตัวลงกันพอควร หลังเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดปรับตัวลงแรง เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ไหลลงต่อเนื่อง จากการที่ EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบได้อีก แต่เราคาดว่าการปรับตัวลงมาของดัชนีในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งลึกพอควรแล้ว น่าจะทำให้กรอบการปรับตัวลงช่วงนี้น่าจะแคบลง และยังมีลุ้นแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ใกล้ที่จะมีรอบรีบาวด์ขึ้นใหม่ได้อยู่ ดังนั้นจึงยังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อนดีกว่า
แนวรับ 1377-1375 , 1372-1370 , 1365-1362 จุด
แนวต้าน 1383-1388 , 1392-1396 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคทุกประเทศและหนาแน่น US$373 ล้าน โดยไหลออกจากไต้หวันและไทยหนักที่สุด US$189 ล้าน และ US$128 ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มเงินทุนยังไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยเพราะกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกซึ่งกดดันจากจีนและสหรัฐ รวมถึงกลุ่มพลังงานน่าจะถ่วงตลาดในวันนี้หลังราคาน้ำมันดิบร่วงลงแรงใกล้ US$40 ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) การปรับครม.หนุนกลุ่มรับเหมา วัสดุก่อสร้าง ชื่อของดร.สมคิดน่าจะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ในระดับหนึ่ง หนุนการเก็งกำไรระยะสั้นในกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง แต่ต้องรอดูนโยบายของทีมเศรษฐกิจอีกที ส่วนกลุ่มท่องเที่ยวยังไม่น่าลงทุน
(-) กลุ่มน้ำมันยังถ่วงตลาด ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงแตะ US$40 ต่อบาร์เรลหลัง EIA รายงานปริมาณน้ำมับดิบคงคลังของสหรัฐเพิ่ม 2.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะ 456.2 ล้านบาร์เรล แนวโน้มดอลลาร์ที่แข็งค่าและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอยังเป็นตัวกดดันราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ 1-2 ปีข้างหน้า เป็น Structural change ของกลุ่มพลังงานในระยะกลาง-ยาว เฉพาะวันนี้กลุ่มพลังงานน่าจะยังเป็นตัวกดดันตลาด
(+) TRUE เราเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมถือ หลังราคาหุ้นปรับลง 12% MTD จนทำให้ upside กว้างขึ้น ประกอบกับเรามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นกับแนวโน้มผลการดำเนินงานในอนาคต โดยต้นทุนบริการ ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายอื่นน่าจะลดลงเพราะลงทุนในโครงข่ายหลักๆไปแล้ว ขณะที่รายได้เพิ่มต่อเนื่องจากที่เคยมีส่วนแบ่ง 16.3% ของตลาดใน 2Q14 เป็น 18.8% ใน 2Q15 เพราะคุณภาพโครงข่ายดีขึ้น นอกจากนี้ TUREIF มีโอกาสเติบโตหาก TRUE ประสบความสำเร็จในการเจรจากับ TOT ให้ขายสินทรัพย์ที่จะได้จาก ADVANC เข้า TRUEIF เรายังคงราคาเป้าหมายที่ 11 บาท (DCF)
(+) TK เรายังคงแนะนำซื้อ ปรับราคาเป้าหมายลงเล็กน้อยเป็น 10.70 บาทจาก 11.20 บาท และคิดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า GL ในด้านราคาหุ้นที่ underperform และ Valuation ที่ถูกกว่า ความน่าสนใจของ TK อยู่ที่การฟื้นตัวของกำไร แม้เราจะปรับกำไรปี 2015 ลง 5% จากสินเชื่อที่ชะลอและการตั้งสำรองหนี้สูญที่ยังเข้มงวด แต่ยังโตถึง 128% Y-Y การเริ่มขยายธุรกิจไปต่างประเทศ (กัมพูชาและสปป.ลาว) จะหนุนการเติบโตในระยะยาว โดย TK เข้าไปลงทุนในทั้ง 2 ประเทศตั้งแต่ปี 2014 รับรู้รายได้ปี 2015 และคุ้มทุนปี 2016
(+) KTC เราคาดกำไร 3Q15 จะกลับมาแข็งแกร่ง +20% Q-Q, +11% Y-Y จากการตั้งสำรองฯลดลง เพราะสามารถคุม NPL ให้อยู่ในระดับต่ำ และมีอัตราการกันสำรองต่อ NPL ที่สูงเกือบ 400% การขยายตัวทั้งปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรและสินเชื่อส่วนบุคคลของ KTC ที่สูงกว่าอุตสาหกรรมใน 1H15 จะส่งผลดีต่อเนื่องไปใน 2H15 นอกจากนี้ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยยังเป็นขาขึ้นเพราะการออกหุ้นกู้ดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน 4% ในช่วงที่ผ่านมา เรายังคงคาดกำไรปีนี้ +14% Y-Y ปีหน้า +9% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 116 บาท แนะนำซื้อ
(+) EPCO เราคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ที่คาดโต 17% Y-Y แต่ปรับกำไรสุทธิปี 2016 ลง 42% เหลือ 385 ล้านบาท +48% Y-Y จากแนวโน้มการเลื่อนจ่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นที่มีใบอนุญาตแล้ว 23MW จากปีนี้เป็นครึ่งปีหลังของปี 2016 จากความล่าช้าของการลากสายส่ง ราคาเป้าหมายปีนี้ลดเหลือ 7.35 บาทจาก 8.20 บาท ปัจจุบันมี PE เพียง 17 เท่า (ไม่รวมโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทตั้งแต่ปี 2012 ที่หันมาทำโรงไฟฟ้าที่ 23 เท่า จึงยังแนะนำซื้อ
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบราว 1% หลังรายงานการประชุม FED แสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ขณะที่ราคาน้ำมันยังร่วงแรง
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบแรงเช่นกันก่อนที่รายงานการประชุม FED จะออก โดยถูกกดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง
(-) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนลบเช่นกันจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบ ขณะที่นักลงทุนยังกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจของจีน
(0) ค่าเงินบาทยังคงแกว่งทรงตัวออกข้างในกรอบ 35.46-35.60 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 40.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงแรง 1.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่งหลัง EIA เปิดเผยสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นผิดคาด
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,127.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 11.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังรายงานการประชุม FED ส่งสัญญาณว่ามีโอกาสที่จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. นี้ รวมถึงแรงหนุนจากการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20-ส.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (ก.ค.)
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก, ยอดขายบ้านเก่า (ก.ค.)
21-ส.ค. - ฟิลลิปปินส์: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวัน Ninoy Aquino Day
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
24-ส.ค. - ไทย:ดุลการค้า (ก.ค.)
- จีน:Caixin China PMI Manufacturing (ส.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ส.ค.)
25-ส.ค. - สหรัฐ: S&P/CaseShiller Index (มิ.ย.), ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
26 ส.ค. - สหรัฐ: ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ก.ค.)
27-ส.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต (ก.ค.)
- ฟิลิปปินส์: 2Q15 GDP
- สหรัฐ: 2Q15 GDP (คาดการณ์ครั้งที่ 2)
28 ส.ค. - สหรัฐ: Personal income, Personal spending (ก.ค.)
31-ส.ค. - ไทย: ธปท.รานงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ค.
- ฟิลลิปปินส์: ตลาดหุ้นปิดทำการ
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research