- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 June 2014 17:38
- Hits: 2577
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แนวรับ 1,450-1,447
Technical : แนวรับ 1,450 /1,440 แนวต้าน 1,463 / 1,478
หุ้นแนะนำพิเศษ : SPALI แนวรับ 21-21.40 แนวต้าน 22.40/23
หุ้นเด่นรายวัน : SAPPE MC AIE
วันอังคารตลาดหุ้นไทย ปิดลบ 7.78 จุด รับผลกระทบสหรัฐลดอันดับค้ามนุษย์-EUลดความสัมพันธ์กับไทย ดัชนี SET ปิดที่1,460.92 จุด ลดลง 7.78 จุด(-0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 35,985.75 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 202.28 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,447-1.485 การปรับลงได้ตอบรับกับความกังวลต่อปฏิกิริยา ของกลุ่มอียู และสหรัฐฯ ต่อสถานการณ์การปกครองของไทย ทั้งนี้เชื่อว่าจะมีการแก้ไขโดยการเจรจาทำความเข้าใจได้ในที่สุด ซึ่งตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวและปรับขึ้นจากการทำWindow Dressing ในขณะที่ SET50 ลักษณะแท่งเทียนส่งสัญญาณเชิงลบหลังต่ำกว่าSMA10วันลงมา แนวรับสำคัญ 973 การกลับตัวขึ้นมายืนเหนือ 982 อีกครั้งคาดจะเป็นการสร้างกรอบแกว่งตัว GFM14 เก็งกำไรในกรอบ 20,140-20,560 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 20,200-20,710
กลยุทธ์ แรงขายที่เกิดขึ้นและปริมาณการซื้อขายรวมที่ไม่เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ คาดจะส่งผลระยะสั้นต่อการปรับตัวลงของตลาดเท่านั้น การปรับตัวยังคงมีแรงซื้อเก็งกำไรเล่นรอบ กลุ่มพลังงานปรับตัวลงซื้อเพิ่ม หรือเข้าซื้อเล่นรอบPTTEP กลุ่มสื่อสาร ADVANCมีโอกาสกลับตัวขึ้นระยะสั้น กลุ่มอสังหาฯ CPN PF PS SPALI กลุ่มถ่านหิน BANPUปรับลงซื้อถือ หรือซื้อเล่นรอบ TCC EARTH หุ้นรายหลักทรัพย์ OTO RS SYNTEC THRE ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง
หุ้นแนะนำพิเศษ
SPALI (ราคาปิด 21.70 ซื้อ เป้าหมาย 25.30 ) ปัจจัยพื้นฐานของ SPALI ที่แข็งแกร่งจากความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่สุดในกลุ่ม และคาดจะเห็นการเติบโตของผลประกอบการที่โดดเด่นในปี 57 ซึ่งมีกำหนดโอนคอนโดมิเนียมถึง 6 โครงการ ในช่วง 1Q57 มีรายได้ 3.1 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 55%YoY แต่ลดลง 53%QoQ จากที่ทำได้สูงสุดรายไตรมาสของปี 56 ยอดขายรอโอน (backlog) ปลายเดือนมี.ค.57 แข็งแกร่งที่ 3.86 หมื่นล้านบาทซึ่งจะโอนภายในปีนี้ราว 1.4 หมื่นล้านบาทที่เหลืออีก 2.4 หมื่นล้านบาทจะโอนในอีก 3 ปีข้างหน้า ดังนั้น ประมาณการรายได้ทั้งปีที่ 1.8 หมื่นล้านบาทของฝ่ายวิจัยซึ่งต่ำกว่าเป้าของผู้บริหารที่อยู่ที่ระดับ 2 หมื่นล้านบาทมี backlog รองรับแล้วถึง 94% ทั้งนี้ ผลประกอบการ 2Q57 ที่มีแนวโน้มต่ำสุดสำหรับปีจากการเริ่มโอนคอนโดมิเนียมที่เพิ่งสร้างเสร็จในปลายไตรมาส
หุ้นเด่นรายวัน
SAPPE (ราคา IPO 13.6 ) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม ภายใต้ชื่อการค้า “SAPPE” จะเริ่มซื้อขายในหมวดอาหารและเครื่องดื่มวันนี้เป็นวันแรก
MC (ราคาปิด 18.30 ซื้อเก็งกำไร เป้า consensus 19.80) กำไร 2Q57 มีแนวโน้มสดใสเพราะได้รับอานิสงส์จากการควบผลการดำเนินงานไทม์ เดคโคเข้าด้วยกัน และการจับจ่ายใช้สอยที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น จากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ (ที่มา : ข่าวหุ้น)
AIE (ปิด 4.46 ซื้อเก็งกำไร) ราคายังต่ำกว่า IPO ที่ 4.75 บาทขณะที่แนวโน้มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยคาดกำไรสุทธิ 2Q57 จะเพิ่มขึ้น QoQ จากแรงหนุนของปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นหลังภาครัฐมีนโยบายบังคับใช้น้ำมันไบโอดีเซลจาก B5 เป็น B7 ส่วน 3Q57 คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิตไบโอดีเซลอีก 100,000 ลิตรต่อวัน ด้วยการนำกรดปาล์มซึ่งมีราคาถูกมาทำเป็นวัตถุดิบแทนปาล์มดิบซึ่งมีราคาแพงช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับ AIE
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* PAF/ PDI มีผลบังคับใช้ 19 พ.ค. 57 - 27 มิ.ย. 57
* AJP / APCO / EE มีผลบังคับใช้ 26 พ.ค. - 4 ก.ค. 57
* BMCL / RPC มีผลบังคับใช้ 2 มิ.ย. - 10 ก.ค. 57
* RASA มีผลบังคับใช้ 9 มิ.ย. – 18 ก.ค. 57
* AJD / TFI / TH / TRUE / UV มีผลบังคับใช้ 16 มิ.ย. - 25 ก.ค. 57
* IFEC / PF / SLC มีผลบังคับใช้ 23 มิ.ย. - 1 ส.ค.57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 119.13 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 119.13 จุด ภาพรวมการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนโดยดัชนีปรับตัวสูงขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขายเนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ อาทิ ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 18.6% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2535 หรือในรอบ 22 ปี และดัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 85.2 จาก 82.2 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 83.5 อย่างไรก็ตามดัชนีปรับตัวลดลงและปิดตลาดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เลือกขายทำกำไรจากดัชนีที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 119.13 จุด หรือ -0.70% ปิดที่ 16,818.13 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 18.32 จุด หรือ -0.42% ปิดที่ 4,350.36 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 12.63 จุด หรือ -0.64%ปิดที่ 1,949.98 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 14 เซนต์
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 14 เซนต์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบหลายเดือนในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบไม่ได้ลดลงมากนักเพราะตลาดยังมีแรงหนุนจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐอาทิ ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ซึ่งปรับตัวขึ้นในอัตราเร็วที่สุดในรอบกว่า 22 ปี และตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 106.03 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ ปิดที่ 114.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
