- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 18 August 2015 15:49
- Hits: 1031
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ RIP
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แม้ว่าจะมีความพยายามฟื้นตัวสู่ด่าน 1,420 จุด แต่แรงขายหุ้นกลุ่มน้ำมัน นำโดย PTT กดดัน Upside ของตลาดหุ้นไทย อีกทั้งบรรยากาศรอบเอเชียเผชิญกับแรงขาย ทำให้ SET INDEX ย่อตัวมาแกว่งแคบ 1,410 จุด +/- โดยแรงเก็งกำไรเป็นหุ้นรายตัวที่งบการเงิน 2Q58 ออกมาเด่น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,408.74 จุด ลบ 5.18 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 32,240 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติยังคงลดน้ำหนักการลงทุนในไทยต่อเนื่อง แม้กลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 10 วันทำการ 1,571 ล้านบาท แต่คง Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 3,263 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 1,318 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
คาดนายกฯ เปิดโผ ครม. ชุดใหม่ ในการประชุม ครม.วันนี้
การเกิดเหตุวางระเบิดกลางสี่แยกราชประสงค์เวลา 19.00 น. ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
มุมมองต่อตลาด
เราลดน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น "ลบ" วันแรกในรอบ 3 วันทำการ คาด SET INDEX จะปรับฐานลงสู่แนว 1,380-1,385 จุด +/- จากเหตุการณ์ระเบิดกลางสี่แยกราชประสงค์ช่วงค่ำวานนี้ ผลกระทบที่ตามมา
กลุ่มท่องเที่ยว อย่าง ERW / CENTEL / MINT / AOT / CPN ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ในเชิงจิตวิทยาการลงทุนค่อนข้างมาก
หุ้นข้างเคียงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเช่นกันได้แก่ กลุ่มสายการบิน/ MAJOR / SPA
แรงขายจากต่างชาติอาจกลับมาในอัตราเร่งอีกครั้ง
และอาจตามมาด้วยการทำ SBL / Put Options / SSF ในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว รวมถึงหุ้นหลักของตลาดหุ้นไทย
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงด้วยเหตุการณ์ระเบิด ย่อมสร้างแรงกดดันเชิงจิตวิทยาการลงทุน และการพิจารณาปรับครม. ในวันนี้อาจต้องถูกเลื่อนออกไป เพราะเชื่อว่ารัฐบาลต้องเร่งหาสาเหตุของการวางระเบิดดังกล่าว
ขณะที่หุ้น Defensive / หุ้นปันผลสูง เชื่อว่าจะเป็นที่พักเงินในช่วงสั้นนี้ได้เป็นอย่างดี เช่น กลุ่ม ICT / กองทุน REIT / กองทุน IFF / กลุ่มโรงพยาบาล เป็นต้น
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนปรับพอร์ตเข้าหุ้น Defensive เพื่อปิดความเสี่ยงดังกล่าวในช่วงสั้น"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH
Accumulative Buy: INTUCH
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. INTUCH : ราคาปิด 81.75 บาท ราคาเหมาะสม 105.00 บาท
a) MBKET ประเมินว่าปัจจัยลบจากเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์วานนี้ช่วงเย็น จะส่งผลให้หุ้น Defensive เป็นที่พักเงินได้ดีในระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูง
b) INTUCH จะขึ้น XD เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 2.40 บาทในวันที่ 24 ส.ค. คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.9%
c) คาดว่าหุ้นกลุ่มสื่อสารจะไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญจากเหตุการณ์ดังกล่าว และมีประเด็นบวกรออยู่คือการประมูล 4G ในวันที่ 11 พ.ย.
d) คาดการณ์เงินปันผลปี 2558 หุ้นละ 4.65 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 5.7%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเร่งขึ้น US$399 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$314 ล้าน
มีเพียงตลาดหุ้นไทยที่ซื้อสุทธิ
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงลดน้ำหนักการลงทุนในไทย
แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 10 วันทำการ เพียง 1,571 ล้านบาท เทียบกับ 9 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิมากถึง 11,964 ล้านบาท และ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเล็กน้อย เป็น 52,485 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 3,263 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 16,050 สัญญา ส่งผลให้ ณ ระดับปิด S50U15 ต่ำกว่า Set50 Index กว้างถึง 12.78 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 8.89 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 59,683 สัญญา
ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 1,318 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 3,926 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 5,715 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ มากถึงวานนี้ อาจเป็นการนำเงินออกนอกประเทศ ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผ่าน ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 4 อีก 2.57bps จากวันก่อนหน้าลดลงมากถึง 3.03bps ปิดที่ 2.703%
แต่นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงมีสถานะ Long ใน Metal Futures เป็นวันที่ 6 อีก 1,128 สัญญา รวม 6 วันทำการ Long สุทธิ 6,553 สัญญา คาดว่าการมีสถานะ Long ใน Metal เพื่อเก็งกำไรต่อการฟื้นตัวของทองคำในตลาดโลก บวกกับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เป็นตัวเพิ่มผลกำไรด้าน Long
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเด่นเป็น 1,335 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 624 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทธิ เน้นกลุ่มธนาคารและ ICT
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิ 1,434 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 262 ล้านบาท โดยเป็นการเน้นสะสมหุ้น Domestic อย่างกลุ่มธนาคาร / ICT อย่างโดดเด่น สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคารกลางถูกซื้อสุทธิสูงสุด 538 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 508 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้างซื้อสุทธิ 237 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 162 ล้านบาท และกลุ่มโรงพยาบาล ซื้อสุทธิ 77 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 61 ล้านบาท และกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ขายสุทธิ 43 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลางถึงบวก
ดัชนี Empire State ภาคการผลิต เดือนส.ค. ติดลบ 14.92 จุด สวนทางกับ Bloomberg consensus คาด 4.75 และเดือนก่อนหน้าที่ 3.86 จุด เป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552 คำสั่งซื้อใหม่ยังคงอ่อนแอ เป็น -15.70 จุด จากเดือนก่อนหน้า -3.50 จุด เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2553
ดัชนีตลาดบ้าน เดือนส.ค. เท่ากับ 61 จุด เท่ากับ Bloomberg consensus คาด และดีกว่าเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 60 จุด
ยุโรป
เยอรมันมั่นใจ IMF จะร่วมให้ความช่วยเหลือกรีซ: นายกฯ เยอรมัน มั่นใจว่า IMF จะร่วมให้ความช่วยเหลือรอบที่ 3 แก่กรีซ พร้อมเปิดเผยถึงความเป็นไปได้ที่เยอรมันอาจพิจารณาผ่อนคลายเงื่อนไขการชำระหนี้ให้แก่กรีซ
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ยอดขายบ้านในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นทำระดับสูงสุด 2 ปี: เดือนก.ค. ยอดขาย 1,594 ยูนิต เทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ 375 ยูนิต เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2556 ขณะที่ราคาขายลดลง 7 ไตรมาสติดต่อกัน โดย 2Q58 เป็นการหดตัวที่ยาวนานที่สุดในรอบ 13 ปี
ยอดส่งออกสิงคโปร์หดตัวสวนทางคาด: เดือน ก.ค. หดตัว 0.8% yoy จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 4.5% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาดทรงตัวจากปีก่อน นำโดยการส่งออกปิโตรเคมีที่ลดลง 5.4% yoy ส่วนเวชภัณฑ์และอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 18.9% yoy และ 2.3% yoy ตามลำดับ
ไทย
สศค.ปรับลด GDP ปีนี้ลงเหลือ 2.7-3.2%: สศช.ได้ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ในปี 2558 ที่คาดว่า จะขยายตัวได้ 2.7-3.2% ต่อปี จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ 3-4% ต่อปี จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐขยายตัวต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก การขยายตัวจำนวนนักท่องเที่ยวในอัตราที่สูง โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีจะอยู่ที่ 30 ล้านคน ด้านการอ่อนค่าของเงินบาทซึ่งจะทำให้มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทในครึ่งปีหลังปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 33.5-34.5 บาทต่อดอลล่าร์ และราคาน้ำมันและ เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ช่วยเพิ่มอำนาจซื้อและเอื้ออำนวยต่อการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง
เศรษฐกิจไทยเติบโตเท่ากับคาด: GDP ขยายตัว 2.8% yoy ใน 2Q58 เท่ากับที่ Bloomberg Consensus คาด เป็นการชะลอลงจาก 3.0% yoy ในไตรมาสก่อน และขยายตัวได้ 0.4% qoq เร่งขึ้นเล็กน้อยจาก 0.3% qoq นำโดยภาคการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภาครัฐ ทำให้เศรษฐกิจใน 1H58 เติบโต 2.9%
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530