- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 June 2014 17:36
- Hits: 2584
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today's Selection : PTTEP, RATCH, GUNKUL, VGI
Follow Buy : -
Follow Sell : -
Sideway ไร้ปัจจัยบวกในระยะสั้น
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน หลังดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนีเดือน มิ.ย. แตะระดับ 109.7 จุด ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนลบ จากแรงเทขายทำกำไร แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาค่อนข้างสดใส โดยยอดขายบ้านใหม่เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. อยู่ที่ระดับ 82.2 ดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ประเมิน
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยประเด็นที่ยังคง overhang การปรับตัวขึ้นของดัชนี คือการลดบทบาทการลงทุนจากฝั่งยุโรปในไทย อย่างไรก็ตาม เรามองว่าราคาหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯได้ priced in ประเด็นนี้ไปแล้วในระดับหนึ่ง โดยยังต้องติดตามกันต่อว่ามาตรการคว่ำบาตรนั้นสามารถบังคับใช้กับการค้าระหว่างประเทศได้หรือไม่ ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศยังคงไม่มีความคืบหน้าจาก คสช.
อย่างไรก็ตาม เรามองว่า SET Index ไม่น่าปรับตัวลงแรง โดยดูจากปริมาณขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับค่าเงินบาทเช้าวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.43-32.45 บาทต่อดอลลาร์ ใกล้เคียงกับเมื่อวาน อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการทำ Window dressing ในช่วงปิดงบครึ่งปีแรก ซึ่งอาจมีแรงซื้อหนุนเข้ามาในหุ้นกลุ่ม Big Cap เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์
PTTEP และ PTT อานิสงส์ระยะสั้นหลังราคาน้ำมันดิบทยานต่อเนื่อง เหตุการณ์ในอิรักบานปลาย หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารซีเรียกับอิรัก ทั้งนี้ แม้กำลังผลิตน้ำมันดิบของอิรักคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกลับกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม ความไม่สงบดังกล่าวอาจส่งผลวงกว้างต่อการขนส่งน้ำมันดิบของประเทศหลัก เช่น ซาอุฯ อิหร่าน และคูเวต
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ได้แก่ (1) ตัวเลขประมาณการ GDP ครั้งสุดท้ายของสหรัฐฯประจำ 1Q57 (2) ดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อ fund flow และบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก
กลยุทธ์การลงทุน : ยังคงคาด SET Index มีโอกาสทยอยไต่ระดับขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ตามการทำ Window dressing โดยมีลุ้นทดสอบแนวต้านระดับแรกที่ 1480 จุด แนะนำถือครองการลงทุนต่อไปเนื่องจากยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ SET Index ในเดือนกรกฎาคม โดยโฟกัสไปยังกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจภายในประเทศ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก เช่าซื้อ และยานยนต์
วันนี้เราออกบทวิเคราะห์ GUNKUL (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 21.30 บาท) โตระยะยาว ปี 57 บุ๊คโซลาร์เต็มปี รับรู้รายได้พลังงานลมปี 59 Banking Sector: สินเชื่อเดือน พ.ค. ยังเติบโตน้อย แต่คาด 2H57 จะดีขึ้น
Stock S R Comment
PTTEP 167.00 170.00 อานิสงส์ ราคาน้ำมันดิบดูไบทะลุ 111 เหรียญฯ
RATCH 53.50 55.00 หุ้น defensive รับผลกดดันจากปัจจัย ตปท. น้อย
GUNKUL 16.50 17.40 ระยะยาว เติบโตโดดเด่นจากแรงหนุนพลังงานลม
VGI 12.80 13.50 รุกเจรจาพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ มองเม็ดเงินโฆษณาเริ่มฟื้น
แนวรับ 1,444 แนวต้าน 1,475
หุ้นมีข่าว :
BANPU เตรียมลุยธุรกิจโซลาร์ ทั้งในและต่างประเทศ : โดยผู้บริหารคาดว่าจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาภายใน 2H57 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนขนาด 10-20 MW ทั้งในรูปแบบของการเข้าซื้อกิจการและการลงทุนเอง ซึ่งจะเข้ามาช่วยลดความผันผวนของธุรกิจถ่านหินที่อยู่ในภาวะตกต่ำ ซึ่งคาดว่าราคาถ่านหินน่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม เรามองว่ายังไม่มี catalyst ที่โดดเด่นเข้ามาหนุนผลการดำเนินงาน โดยยังคงต้องรอโครงการโรงไฟฟ้าหงสา ซึ่งการก่อสร้างคืบหน้าไปราว 85% เป็นตัวผลักดันฐานกำไรในอีก 3 ปี ข้างหน้า(ถือ เป้าหมาย 28.70 บาท)
WHA เตรียมขายกอง REIT : บริษัทเผยเตรียมออกขายกองทุน REIT มูลค่ากว่า 4.5 พันล้านบาท คาดว่าจะออกขายได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ นอกจากนี้บริษัทได้ไปซื้อโครงการ Equinox The Office Place ซึ่งเป็นอาคารสำนักงาน เพื่อนำมาจัดตั้งกอง Office REIT มูลค่าสินทรัพย์ 2 พันล้านบาท รวมถึงได้ซื้อสินทรัพย์ในประเทศอินโดนิเซียมูลค่าราว 400-500 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงเป้าหมายไว้ที่ 5,500 ล้านบาท มาจากการขยายพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าในปีนี้อีก 3 แสนตารางเมตรตามเป้าหมาย เรามองว่าปัจจัยดังกล่าวจะทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในช่วงสั้น ทั้งนี้ยังมองว่าบริษัทยังคงมีศักยภาพในการเติบโต รวมถึงความเชื่อมั่นของการลงทุนภาคเอกชนฟื้นทำให้มีความต้องการใช้คลังสินค้าเพิ่มขึ้น S: 30 R: 35
VGI รุกเจรจาพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ มองเม็ดเงินโฆษณาเริ่มฟื้น : ผู้บริหารเปิดเผยว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ตเนอร์ทั้งในและต่างประเทศหลายราย ซึ่งมีทั้งลักษณะร่วมทุนหรือการเข้าซื้อกิจการ แต่กรอบเวลายังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องดีล TSF ในขณะที่การเข้าถือหุ้นใน MACO นับเป็นการได้ประโยชน์ทั้งคู่ ช่วยขยายฐานลูกค้า อีกทั้งผลตอบแทนขั้นต่ำคือเงินปันผลราว 5% ทั้งนี้มุมมองช่วง 1H57/58 (เม.ย.-ก.ย.) เม็ดเงินโฆษณาเริ่มไหลกลับเข้ามาหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ภาคการบริโภคฟื้นทำให้ผู้ประกอบการเจ้าของแบรนด์สินค้าเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น ราคา Median Consensus 10.70 บาท
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932)
E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]