- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 June 2014 17:32
- Hits: 2316
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'EU ตัดความช่วยเหลือ'
ผลจาก EU ตัดความช่วยเหลือและความร่วมมือต่อประเทศไทยจากการเข้าควบคุมอำนาจของ คสช.ส่งผลให้วานนี้ SET ปรับตัวลงแรงนำโดยกลุ่ม Market cap เช่น BANK ICT รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง กดดันให้ SET ปิดที่ 1,460.92จุด (-7.78 จุด) vol 3.5 หมื่นลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) สหรัฐรายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเดือนมิถุนายน ปรับตัวเกินคาด สะท้อนถึงมุมมองของผู้บริโภคที่เป็นบวกมากต่อเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน พร้อมยอดขายบ้านใหม่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
(+) ราคาน้ำมัน WTI กลับดีดตัวขึ้นในช่วงเช้า หลังการปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรวานก่อน
(+) คสช.ออกมาตรการช่วยเหลือชาวนาปีการผลิตนาปี 57/58 ในงบ 4.7 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการลดต้นทุนการผลิตลง
(-) ปัญหาในอิหร่านเดินหน้าสร้างความกดดัน หลังนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางตอนเหนือของอิรัก ขณะที่กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่สามารถยึดโรงกลั่นน้ำมันในเมืองไบจิ ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันใหญ่ที่สุดในอิรักไว้ได้แล้ว ก่อนเดินหน้าวางแผนเข้าสู่กรุงแบกแดด
(-) แนวโน้มเศรษฐกิจในยุโรปน่าเป็นห่วงมากขึ้นหลัง เยอรมันรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของ Ifo ปรับตัวลดลง ต่อเนื่องจากตัวเลข ZEW ในสัปดาห์ก่อนที่รายงานความเชื่อมั่นที่ลดลงเช่นกัน
(-) ความกังวลต่อปัญหาการตัดความร่วมมือจาก EU ยังคงมีอยู่จากการเข้าควบคุมอำนาจของ คสช. เพื่อกดดันให้ไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย
(-) Fund Flow ต่างชาติมี Net Sell ต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 มูลค่า 2 ร้อยล้านบาท รวม 11 วันมี Net Sell มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท
(+/-) First Day Trade SAPPE ราคา IPO ที่ 13.50 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* ปัญหาความตึงเครียดในอิรัก และยูเครน
* การเดินหน้าตรวจสอบและปฎิรูปของคสช.
* การทำ Window Dressing
กลยุทธ์การลงทุน “อิรักกดดัน”
ประเมินตลาดวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อปัญหาความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในอิรัก และความกังวลต่อปัญหาของ EU ที่ระบุว่าจะตัดความร่วมมือกับไทย ในระยะกลาง ดังนั้นการลงทุนในระยะนี้ เน้นปรับลดน้ำหนักหุ้นใหญ่ และสนใจเพียงหุ้นขนาดกลาง-เล็ก แบบ Domestic play
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CPALL ราคาปิด 48.25 บาท ราคาพื้นฐาน 49 บาท
* คาดกำไรปี 2557 ที่ 1.2 หมื่นลบ. (+20%YoY) จากการขยายสาขาอีก 600 สาขาเป็น 9,000 สาขา และเป็น 10,000 สาขาในปี 2561 เน้นขยายร้านในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นสัดส่วน 60% และเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่
* ตั้งแต่ Q257 ต้นทุนการเงินจะปรับตัวลงจากการ refinance หนี้
* การเข้าซื้อ MAKRO เป็นการเสริมศักยภาพและกำไรในระยะยาว
AIT ราคาปิด 31 บาท ราคาพื้นฐาน 36 บาท
* Backlog แข็งแกร่งราว 4.4 พันลบ. รอประมูลอีก 720 ลบ. โดยคาดว่าจะส่งมอบงานใน 2Q57 – 3Q57 ได้ราว 86% หรือ 3.75 พันลบ.
* คาดกำไร 2Q57 = 184 ลบ (+22% YoY , -8% QoQ ) และกำไรปี 2557 ที่ 622 ลบ (+10%YoY)
* อัตราปันผลโดดเด่นราว 8% ต่อปี
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ