- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 August 2015 18:16
- Hits: 1338
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดสัปดาห์นี้ (17-21/8/58) บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (10 - 14 สิงหาคม 58)
SET ปิดปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า จากการประกาศปรับนโยบายการเงินของจีน ส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง สร้างความกังวลต่อการส่งออกของไทย แต่ปิดสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1413.92 จุด เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น +9.77 จุด (+0.70%) WoW
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(+) ญี่ปุ่นรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ปี 58 ลดลง -0.4%QoQ ดีกว่าที่คาด จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวลง -0.5%QoQ
(+) การกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
(-) ความกังวลต่อความผันผวนของค่าเงินจีน ส่งผลต่อความไม่แน่นอนของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
(-) ยูโรสแตทรายงาน GDP ในไตรมาส 2 ปี 58 ชะลอตัวลงแตะ 0.3% จากระดับ 0.4% ในไตรมาสแรก
(-) แนวโน้มราคาน้ำมันยังคงทรงตัวในระดับต่ำ จากความกังวลต่อ ปริมาณน้ำมันจำนวนมากในตลาดโลก
(-) สศช. ส่งสัญญาณการปรับ GDP ลงอีกครั้งจากเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ 3-4% เหลือขยายตัวได้ต่ำกว่า 3% เล็กน้อย เป็นครั้งที่สองของปี เนื่องจากภาคการส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัว
(+/-) รัฐสภากรีซมีมติเสียงข้างมาก 222 ต่อ 64 เสียง เห็นชอบแผนเงินกู้ฉบับที่สามซึ่งเป็นฉบับสุดท้าย
(+/-) ประเด็นการต่ออายุกองทุน LTF ยังไม่มีความคืบหน้า หลังรมช.คลังกล่าวว่ากรมสรรพากรยังไม่ได้ส่งข้อดีข้อเสียมาให้พิจารณา
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* การรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของไทยในวันนี้ คาดหมายการขยายตัวในระดับ 2.8%YoY
* การส่งสัญญาณการปรับครม. ชุดใหม่
* รัฐสภาเยอรมนีเตรียมพิจารณาความช่วยเหลือทางการเงินกรีซในวันพุธ ก่อนการครบกำหนดชำระหนี้วงเงิน 3.2 พันล้านยูโรให้กับธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 20 ส.ค.
* การรายงานผลการประชุม FED ในช่วงปลายสัปดาห์
* ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ Housing Start และเงินเฟ้อ ยุโรปตัวเลข PMI และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
* Earning Season ของสหรัฐ และไทย
ความคิดเห็น
ประเมินภาพรวมดัชนียังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากสัปดาห์ก่อนจากความกังวลต่อค่าเงินหยวนที่ผันผวนกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก เช่นเดียวกับในประเทศที่จะมีการรายตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ในวันนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีปรับเป้าเศรษฐกิจลงอีกครั้ง เช่นเดียวกับการปรับประมาณการผลประกอบการของ SET หลังการรายงานงบไตรมาส 2 ทำให้ความเสี่ยงขาลงของดัชนียังคงมีอยู่ ติดตามประเด็นการปรับครม. ว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้หรือไม่
กลยุทธ์การลงทุน
เน้นการลงทุนเป็นรายตัวที่มีปัจจัยเฉพาะตัว จากภาพรวมการลงทุนที่ไม่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจน หรือหุ้นในกลุ่ม Defensive ที่มีรายได้แน่นอน และปันผลสม่ำเสมอ
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์
JAS ราคาปิด 5.05 บาท
* ปริมาณลูกค้าใหม่ในธุรกิจ Broadband ยังแข็งแกร่ง โดยในช่วง 2Q58 ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 9.8 หมื่นราย (+21%QoQ, +56%YoY)
* ประเมินกำไรปกติปี 58 อยู่ที่ 3.2 พันลบ. (EPS 0.31 บาท/หุ้น) มูลค่าเหมาะสมที่ 6.45 บาท (อิง PER 20 เท่า)
* ราคาหุ้น JAS ในปัจจุบันที่ 5.05 บาท ถือว่าต่ำกว่าพื้นฐานมาก เนื่องจากบริษัทฯมีเงินสดจากการขายกอง JASIF เหลืออยู่ 2.50 บาท, เงินลงทุนใน JASIF 2.7 บาท และ BV ที่เหลืออีก 1.25 บาท
* การประมูลคลื่น 4G ยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งถ้าหากประมูลไม่ได้ มองเป็นบวกเพราะบริษัทฯอาจจ่ายเงินปันผลคืนให้แก่ผู้ถือหุ้น
วิเคราะห์ทางเทคนิค
JAS ราคาปิด 5.05 บาท แนวต้าน : 5.55 , 6.0 แนวรับ : 4.90 , 4.82
กราฟ JAS เริ่มมีสัญญาณบวกอีกครั้ง หลังการสร้างฐานราคาบริเวณ 5 บาท สร้าง Pattern Double Bottom พร้อม MACD ที่เริ่มตัดขึ้น เช่นเดียวกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น เปิดโอกาสการ Rebound ขึ้นไปบริเวณ 5.55 บาท
คำแนะนำ
1. ทยอยซื้อสะสมหากไม่หลุดแนวรับ 4.82 บาท
2. ถือหุ้นต่อเนื่องไปตลอดสัปดาห์
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ