- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 14 August 2015 17:48
- Hits: 1218
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีทิ้งตัวลงตั้งแต่เปิดตลาด พร้อมกับแกว่งตัวค่อนข้างผันผวนอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1382.70 จุด ลดลง 25.62 จุด ซึ่งเป็นแรงขายหนัก ๆ แทบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่นำโดยพลังงาน แบงก์ ก่อนภาคบ่ายดัชนีสามารถดีดกลับได้จากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มสื่อสาร ขนส่ง วัสดุก่อสร้าง พาณิชย์ และอาหาร ร่วมทั้งหุ้นลงหนักแล้วมีแรงซื้อกลับโดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรฯ อาทิ PTTEP, PTTGC ทั้งนี้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันอยู่ที่ 1382.70-1404.15=21.45 จุด ก่อนที่ดัชนีจะทำปิดที่ 1404.15 ลดลง 4.17 จุด (-0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 49,506 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีแกว่งตัวผันผวนรุนแรงด้วยการเปิดกระโดดลงสร้าง Gap ขาลง (1404.15-1408.32=4.17 จุด) และมีแรงขายหนักกดดัชนีลงไปทำ New Low ที่ 1382.70 จุด ซึ่งใกล้เคียกับแนวรับ Fibonacci Projection 61.8% (1383 จุด) และเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ (1380 จุด) ก่อนที่จะสามารถดีดกลับและทำปิดได้ที่จุดสูงสุดของวันที่ 1404.15 จุด ส่งผลให้กราฟแท่งเทียนมีรูปของการกลับทิศที่เป็น Hammer Price Pattern ประกอบกับสัญญาณ Oversold ใน RSI และ Bullish Divergence ทำให้พอที่จะคาดหวังของการฟื้นตัวในลักษณะ Technical Rebound โดยมีเป้าหมายแนวต้าน 1414-1419 // 1424 จุด แนวรับ 1383 // 1370 จุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน-มีโอกาสฟื้นตัว
Support 1380// 1370 จุด Resistance 1440 // 1460 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Market Trend
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (13 ส.ค.) - SET Index ปิดที่ ระดับ 1,404.15 จุด ลดลง 4.17 จุด หรือ 0.30% มูลค่าการซื้อขาย 49,506.22 ล้านบาท ดัชนีฯปรับตัวลดลงไปกว่า 20 จุด จากความกังวลในเรื่องจีนลดค่าเงิน อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางจีนออกประกาศว่าได้เสร็จสิ้นการปรับค่าเงินหยวนแล้ว บวกกับตลาดหุ้นยุโรปเป็นบวกและราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในภาคบ่าย หนุนให้ดัชนีฯลดระดับการติดลบลงเมื่อปิดตลาด
ตลาดหุ้นต่างประเทศ- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง 5.74 จุด ตัวเลขยอดค้าปลีกและสินค้าคงคลังภาคธุรกิจที่ออกมาดี อีกทั้งความกังวลในเรื่องการปรับลดค่าเงินหยวนของจีนลดลง ด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวสูงขึ้น 1% นอกจากเรื่องของจีนแล้ว ผลประกอบการของบริษัทในตลาดที่ออกมาดี หนุนให้ดัชนีฯปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ราคาน้ำมันดิบ WTI (Sep) - ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดที่ $42.23 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง $1.07 เหรียญ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดี ทำให้เงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้น (เทียบกับเงินยูโร) เป็นลบต่อราคาน้ำมัน นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันในตลาดโลก ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่คอยกดดันต่อราคาน้ำมันดิบในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
เศรษฐกิจ- รมว.คลัง เชื่อว่าการที่จีนใช้นโยบายปรับเงินหยวนให้อ่อนค่าลงมากเกิดผลกระทบต่อไทยในระดับหนึ่ง โดยผลกระทบต่อการส่งออกของไทยนั้นมีไม่มาก เนื่องจากสินค้าที่ส่งไปจำหน่วยยังประเทศจีนส่วนใหญ่เป็นปัจจัยการผลิต หากการลดค่าเงินหยวนเพื่อหวังกระตุ้นการส่งออกของจีนเป็นหลัก เมื่อการส่งออกของจีนดีขึ้นก็จะทำให้การส่งออกสินค้าวัตถุดิบของไทยไปยังจีนได้รับประโยชน์ด้วย ส่วนในด้านการท่องเที่ยวนั้น ก็เชื่อว่าจะกระทบกับไทยไม่มากเช่นกัน และเตือนข่าวปรับครม.กระทบเชื่อมั่น
พลังงาน- กพช. ไฟเขียวโครงสร้างค่าไฟใหม่ (ปี 58-60) สร้างความเป็นธรรมในการใช้ไฟฟ้าให้ประชาชน พร้อมปรับเกณฑ์คุมเข้มใช้ไฟฟรีไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนให้ผู้มีรายได้น้อยที่แท้จริง ตัดสิทธิ์ 2 กลุ่มหลักรวม 9.6 แสนราย คิดเป็นเงินประหยัดได้ 1,500 ล้านบาทต่อปี สั่งปลดแอก กฟผ. ไม่ต้องซื้อน้ำมันเตาจาก ปตท. รายเดียวอีกต่อไป อนุมัติลงทุนท่อน้ำมันไปเหนือ-อีสาน 3 เส้นทาง วงเงิน 6.4 หมื่นล้านบาท
ทิศทางตลาดหุ้นไทย การลดค่าเงินหยวน ที่จะมีผลต่อตลาดน้อยลงหลังทางการจีนออกมาแถลงว่าจะไม่ลดค่าเงินลงไปอีกและค่าเงินหยวนที่ผันผวนน้อยลงในวันนี้ จะทำให้นักลงทุนลดความกังวลลงไประดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง และนักลงทุนจะรอดูตัวเลข GDP Q2 ของไทย ที่จะรายงานในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (ผลสำรวจโดย Bloomberg คาด 2.9% YoY) จะเป็นปัจจัยที่ถ่วงตลาดและจำกัดกรอบการสูงขึ้นของดัชนีฯในวันนี้
กลยุทธ์การลงทุน เราน่าจะเห็นการ rebound ของดัชนีฯในช่วงเปิดตลาด แรงซื้อหุ้นใหญ่จะมีอย่างประปราย เหมาะกับการเข้ามาเก็งกำไรเพียงช่วงสั้นๆ เนื่องจากปัจจัยบวกของตลาดยังไม่มากพอ เราประเมินว่า นักลงทุนน่าจะให้ความสนใจกับหุ้นที่มีการรายงานผลประกอบการที่ออกมาดี หรือมีข่าวบวกเฉพาะตัวเป็นหลักในวันนี้ …. สำหรับหุ้นที่คาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจ ในการลงทุนกรอบเวลาสั้นๆ ในวันนี้ อาทิเช่น GL , PLANB , SC
Stock in Focus :
CPALL-: (ราคาปิด 50.50 บาท; ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST 55 บาท) ผลประกอบการในไตรมาส 2/58 มีกำไรสุทธิ 3.1 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 39.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยอดขายเติบโตสูงขึ้น อีกทั้งยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาเดิมต่อวันยังเพิ่มสูงขึ้น 1.1% YoY และยอดขายของ MAKRO ที่เพิ่มสูงขึ้น… ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่ากำไรและยอดขายมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากครึ่งปีแรกที่มีกำไร 6.5 พันล้านบาท หรือ 41.47% ของประมาณการณ์ทั้งปีที่เราเคยให้ไว้ที่ 9.2 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 55.5% YoY) เนื่องจากมีโครงข่ายสาขามากที่สุดในกลุ่มค้าปลีก และมีการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง
News Release :
PTTEP 'ปตท.สผ.' เลื่อนเป้าผลิต 5 ปี ครึ่งปีหลังกำไรพิเศษหนุน
+ ปตท.สผ. ปรับเลื่อนเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตแตะ 600,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นปี 2568 จากกำลังการผลิตปัจจุบัน 370,000 บาร์เรลต่อวัน หลังภาวะตลาดยังผันผวน พร้อมคาดครึ่งปีหลังมีกำไรจากประกันความเสี่ยง เหตุราคาน้ำมันต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สรรพากรเตรียมอนุญาตให้ยื่นแบบภาษีเป็นสกุลดอลลาร์ ลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน
TUF 'ทียูเอฟ' กำไรครึ่งแรกขยับ 18%
+ ไทยยูเนี่ยน รายงานกำไรงวดไตรมาส 2 ปี 2558 ทรงตัว ขณะที่งวดครึ่งปีแรกขยับ 18% ยันรายได้ทะลุ 5 พันล้านดอลลาร์ ตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมจ่ายปันผลระหว่างกาล
TRUE กลุ่มทรูฯ พลิกทำกำไรสุทธิไตรมาส 2 รับอนิสงส์บริการระบบ 3G ผู้ใช้มือถือใกล้แตะ 20 ล้าน
+ นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารบมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรูฯ มีผลกำไรสุทธิ จำนวน 1.3 พันล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2558 เมื่อเปรียบเทียบกับผลขาดทุนสุทธิจำนวน 1.7 พันล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า โดยผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนี้ เป็นผลจากกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น ภาระดอกเบี้ยที่จ่ายลดลงอย่างมากภายหลังการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินในปีที่ผ่านมา และการสิ้นสุดการบันทึกค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์โครงข่าย 2G ของทรูมูฟ
THAI บินไทย ลุยปฏิรูปองค์กร-ลดคนแก้ขาดทุน
+ นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกประจำปี 2558 บริษัทขาดสุทธิอยู่ที่ 8,218 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการขาดทุนที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2557 ที่ผ่านมา ที่ธุรกิจการบินหลักขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 10,986 ล้านบาท โดยผลการขาดทุนส่วนใหญ่มีปัจจัยมาจากการด้อยค่าของเครื่องบินปลดระวาง 12,230 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายผลตอบแทนตามโครงการร่วมใจจากองค์กรที่ขณะนี้มีผู้สมัครใจลาออกแล้วรวมทั้งปี 1,401 คน ซึ่งคิดเป็นรายจ่าย 3,722 ล้านบาท
กพช. ไฟเขียวโครงสร้างค่าไฟใหม่ ตัด 9.6 แสนรายเลิกใช้ไฟฟรี ลงทุนท่อน้ำมันเหนือ-อีสาน
+ กพช. ไฟเขียวโครงสร้างค่าไฟใหม่ (ปี 58-60) สร้างความเป็นธรรมในการใช้ไฟฟ้าให้ประชาชน พร้อมปรับเกณฑ์คุมเข้มใช้ไฟฟรีไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนให้ผู้มีรายได้น้อยที่แท้จริง ตัดสิทธิ์ 2 กลุ่มหลักรวม 9.6 แสนราย คิดเป็นเงินประหยัดได้ 1,500 ล้านบาทต่อปี สั่งปลดแอก กฟผ. ไม่ต้องซื้อน้ำมันเตาจาก ปตท. รายเดียวอีกต่อไป อนุมัติลงทุนท่อน้ำมันไปเหนือ-อีสาน 3 เส้นทาง วงเงิน 6.4 หมื่นล้านบาท
TASCO ข่าวดีมาตามนัด โชว์กำไรสวย1.3พันล้าน จ่ายปันผล 0.30 บาท ตลาดส่งออกโตกระฉูด
+ TASCO ไตรมาส 2/58 เติบโตแรงเกินคาดโชว์กำไร 1,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรแค่ 1 ล้านบาท ส่วนครึ่งแรกปีทะลุ 2,400 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผล 0.30 บาท กำหนดขึ้น XD 26 ส.ค. 58 ด้าน DEMCO งบไตรมาส 2/58 แกร่ง โชว์กำไรเติบโต 91 ล้านบาท
TPCH ตีปีกขานรับข่าวดี กพช.ไฟเขียวซื้อชีวมวล
+ TPCH รับข่าวดีกพช.เห็นชอบส่งเสริมโรงไฟฟ้าชีวมวลและก๊าซชีวภาพภาคใต้ 50 เมกะวัตต์ พร้อมไฟเขียวนโยบายขยายระบบส่งน้ำมันทางท่อไปภาคเหนือ-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
SUPER ทุ่มงบเกือบ 2 หมื่นล้าน ลงทุนโซลาร์ฟาร์ม 44 โครงการ 290 เมกะวัตต์
+ บอร์ด SUPER ไฟเขียวลงทุน 5 รายการ "PTI-ESERVE-IAE-AMN-SPN" โครงการโซลาร์ฟาร์ม รวม 44 โครงการ 290 MW มูลค่ารวม 19,543ล้านบาท มั่นใจมีเงินลงทุนจากวอร์แรนต์-PP ลุ้นประชุมผู้ถือหุ้น 30 ต.ค.นี้
ค่าเงินหยวนอ่อนตัวลงเป็นวันที่สาม ธนาคารกลางจีนโต้ข่าวหยวนจะอ่อนถึง 10%
+ เงินหยวนอ่อนตัวลงเป็นวันที่สาม แต่ธนาคารกลางจีนย้ำ ไม่มีพื้นฐานที่ค่าเงินหยวนจะอ่อนตัวลงอีก พร้อมแจงรายงานที่ชี้ว่าเงินหยวนอาจจะอ่อนตัวลงถึง 10% ไม่มีเหตุผล
คลังยอมรับงบลงทุนฝืด ยอดหนี้ประเทศพุ่งปรี๊ด มิ.ย. 5.6 ล้านล.
- สบน.ยอมรับหนี้ประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากงบขาดดุลของรัฐบาล คาดปี 60 ทะลุ 51% ของจีดีพี ขณะที่การเบิกจ่ายงบลงทุนโครงการรัฐล่าช้าไม่เข้าเป้า ยอดหนี้สาธารณะล่าสุดเดือนมิ.ย.มีมากกว่า 5.6 ล้านล้านบาท
กลุ่มอสังหาฯครึ่งปีกำไรทะยาน บจ.กลุ่มบ้านและที่ดินโชว์กำไรงวดครึ่งปีนี้ 1.13 หมื่นล้านบาทโตขึ้น 24.85%
+ โพสต์ทูเดย์ รวบรวมข้อมูลของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บจ.) ที่ประกาศผลกำไรงวดไตรมาส 2 ออกมาแล้ว 10 บริษัท ประกอบด้วยบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) บริษัท แสนสิริ (SIRI) บริษัท ศุภาลัย (SPALI) บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) บริษัท เอ็นซีเฮ้าส์ซิ่ง (NCH) บริษัท ชาญอิสระ (CI) บริษัท เอสซีแอสเสท (SC) พบว่ามีกำไรสุทธิรวม 5,869.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.10% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,055.50 ล้านบาท ส่วนงวดครึ่งปีนี้มีกำไรสุทธิ 11,351.12 ล้านบาท เพิ่มขึ่น 24.85% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,091 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์