- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 13 August 2015 16:46
- Hits: 1228
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ว่าการลดค่าหยวนจะกระทบตลาด แต่คาดกรอบลบยังจำกัด!
กลยุทธ์ : แม้ว่า SET จะปรับลงแรงกว่าคาด จากประเด็นลดค่าเงินหยวน แต่ FSS คาดว่าผลกระทบน่าจะยังจำกัด ขณะที่มีสิทธิส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาวได้ ดังนั้นยังแนะนำให้ถือต่อเนื่อง เพื่อรอหาจังหวะทำกำไรช่วงตลาดบวกกลับต่อไป แต่ถ้าจะซื้อเพิ่มต้องหลีกเลี่ยงหุ้นที่ได้รับผลกระทบไว้ก่อน
หุ้นเด่นทางเทคนิค : VTE, TCMC, BDMS(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้(12 ส.ค.) SET ปิดทำการเนื่องในวันแม่แห่งชาติ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียยังเปิดทำการปกติ ซึ่งหลายตลาดก็ยังปรับตัวแรงต่อเนื่อง จากความวิตกเกี่ยวกับการปรับลดค่าเงินหยวนของจีนที่กดดันตลาดหุ้นไทยมาตั้งแต่วันอังคารที่ 11 ส.ค. แต่เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มมีจังหวะฟื้นตัวกลับมาปิดเป็นลบเพียงแค่เล็กน้อยได้ จากแรงหนุนของการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดหุ้นนิวยอร์กฟื้นตัวได้ ซึ่งช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เริ่มมีจังหวะพลิกกลับมาเปิดเป็นบวกได้ด้วย โดย FSS คาดว่าประเด็นการลดค่าเงินหยวนของจีนน่าจะส่งผลต่อ SET เพียงแค่ช่วงสั้นๆ เพราะถ้าเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้ ก็น่าจะส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจของเอเชีย รวมทั้งเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไปได้ โดย FSS ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา SET มักจะร่วงลงพอๆ กับการอ่อนตัวของค่าเงินบาท ซึ่งจนถึงปัจจุบันเงินบาทอ่อนค่ามาแล้วประมาณ 7.5% ขณะที่ SET ปรับตัวลงมา 6% แล้ว ทำให้เราประเมิน downside ของ SET ไว้ที่ 1385-1380 จุดเท่านั้น ซึ่งถือว่ากรอบปรับลงจากระดับปัจจุบันยังค่อนข้างจำกัด ดังนั้นเรายังแนะนำให้เน้นถือต่อเพื่อรอทำกำไรช่วงบวกได้เช่นเดิม
แนวรับ 1405-1400 , 1390-1380 จุด
แนวต้าน 1412-1415 , 1418-1422 จุด
Fund Flow วานนี้ตลาดหุ้นไทยปิดทำการท่ามกลางกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดภูมิภาคหนาแน่น US$572 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$268.8 ล้าน และเกาหลีใต้ US$227.3 ล้าน ไหลเข้าเพียงเวียดนามประเทศเดียว US$4.5 ล้าน ตลาดวิตกการลดค่าเงินหยวนของจีน ทำให้เม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย แนวโน้มกระแสเงินทุนยังไหลออกจากภูมิภาค หากไม่นับเรื่องค่าเงินหยวนที่อ่อนค่า นักลงทุนกังวลต่อเศรษฐกิจภายในภูมิภาคอยู่แล้ว
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) การลดค่าเงินหยวนมีผลสุทธิเป็นบวกกับหุ้นและ Commodity ในระยะยาว ส่วนผลลบเป็นเพียงระยะสั้น เงินหยวนที่อ่อนค่าลงจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการส่งออกได้ดีขึ้น ผลสุทธิจึงเป็นบวกต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค แต่ในระยะสั้นทำให้เกิดแรงขายเงินบาทและเงินสกุลเอเชียอื่นๆทำให้อ่อนค่าตามเงินหยวน เป็นลบกับตลาดหุ้นและราคา Commodity และเป็นลบต่อเกาหลีใต้ ไต้หวัน และมาเลเซีย ซึ่งพึ่งพาการส่งออกสินค้าเหล่านี้ไปจีนเป็นหลัก ถ้า SET Index ปรับลง 7% เท่ากับการอ่อนค่าของเงินบาท ดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 1,385 จุด ใกล้เคียงกับเมื่อเทียบกับ EPS ของตลาดปีนี้ที่คาด 92 บาท อิง PE 15x จะได้ 1,380 จุด เราจึงมองว่า downside ของตลาดต่ำมาก
(0) ล่าสุดกำไรสุทธิของหุ้นใน FSS Coverage 52% ที่รายงานผลประกอบการแล้ว พบว่าเพิ่มขึ้น 15% Q-Q และ 16% Y-Y ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีเพราะมี Stock gain ส่วน Real sector ที่ผลการดำเนินงานหลักดีขึ้นจริงได้แก่กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน (EA, GUNKUL), วัสดุก่อสร้าง (SCC, DRT), อิเล็กทรอนิคส์ (ยกเว้น HANA) ส่วนกลุ่มที่ผลประกอบการแย่ลงได้แก่ธุรกิจไก่ ยานยนต์ โลจิสติกส์
(+) PIMO เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ ปั๊มน้ำบ้าน ปั๊มหอยโข่ง เครื่องสูบน้ำ สระน้ำ มอเตอร์กำลังสำหรับอุตสาหกรรม รายได้หลัก 45% มาจากมอเตอร์เครื่องปรับอากาศซึ่งมีโอกาสเติบโตสูง รายได้อีก 40% มาจากปั๊มน้ำซึ่งจะโตแรงใน 2 ปีนี้หลังลูกค้ารายใหญ่สั่งเพิ่มกำลังการผลิตกว่าเท่าตัว เราคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 19% Y-Y เป็น 48 ล้านบาท ปีหน้าโตแรงขึ้น 27% Y-Y จากการเพิ่มกำลังการผลิต ออกสินค้าใหม่ ต้นทุนลดลง และรุกต่างประเทศ ประเมินเป้าหมายปี 2016 ที่ 1.60 บาท อิง PE 14 เท่า (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ PIMO)
(-) CPF พลิกกลับมาขาดทุน หากไม่รวมกำไรจากการขาย CPALL และกำไรอัตราแลกเปลี่ยน ผลประกอบการหลักผิดคาด พลิกเป็นขาดทุน 53 ล้านบาท สอดคล้องกับ GFPT ที่แม้ยังมีกำไรแต่ก็ต่ำสุดในรอบ 9 ไตรมาส จากสาเหตุเดียวกันคือปริมาณส่งออกไก่ที่ลดลงและราคาไก่ในประเทศตกต่ำจาก Oversupply ซึ่งจะกดดันผลประกอบการอีก 1-2 ไตรมาส เราอยู่ระหว่างปรับลดกำไรและเป้าหมายของ CPF แม้ CPF และ GFPT จะซื้อขายที่ PBV ต่ำสุดใน 7 ปีนับตั้งแต่ Subprime แต่ยังไม่น่าสนใจจนกว่าราคาไก่จะมีสัญญาณที่ดีขึ้น แนะนำหลีกเลี่ยงไปก่อน
(-) HANA กำไรน่าผิดหวังที่สุดในกลุ่ม ลดลง 23% Q-Q และ 42% Y-Y ต่ำสุดในรอบ 9 ไตรมาส สวนทางกลุ่มที่กำไรโต 13% Q-Q และ 9% Y-Y แม้เงินบาทจะอ่อนค่าถึง 4% ใน 2Q15 แต่รายได้ของ HANA ไม่สดใส สวนทางกลุ่มที่โต 5% Q-Q และ 10% Y-Y เราคิดว่า HANA น่าจะมีปัญหาในส่วนของคำสั่งซื้อ เราอยู่ระหว่างปรับลดประมาณการและราคาเป้าหมาย แนะนำหลีกเลี่ยงไปก่อน เราชอบ SVI (เป้าหมาย 5.20 บาท) ในแง่ของการทยอยฟื้นตัวจากไฟไหม้ แนะนำซื้อ ส่วน KCE (เป้าหมาย 57 บาท) ลดคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมซื้อ เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นมาจน upside เริ่มแคบ
(+) TRUE ถ้าตัดกำไรพิเศษอื่นออก จะมีกำไรปกติ 32 ล้านบาท -94% Q-Q รายได้โตทุกธุรกิจโดยเฉพาะ True Mobile ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นถือ จากขาย เป้าหมาย 11 บาท
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบเล็กน้อย เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากการลดค่าเงินของจีน แต่ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้นจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดลบอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการลดค่าเงินของจีนจะส่งผลกระทบต่อภาคที่ต้องพึ่งการส่งออกไปยังจีน
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกเล็กน้อย โดยนักลงทุนจับตาดูทิศค่าเงินของจีนหลังมีการปรับลดค่าเงินเป็นครั้งที่ 2
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวผันผวนหลังจีนลดค่าเงิน ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 35.15-35.30 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 43.3 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.22 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA เปิดเผยตัวเลขสต้อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงในรอบสัปดาห์ก่อน นอกจากนี้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันร่วงแรงในวันอังคารที่ผ่านมา
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,123.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.9 เหรียญ/ออนซ์ หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงจากการที่จีนประกาศลดค่าเงินหยวน ทำให้นักลงทุนหันมาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
13-ส.ค. - ไทย: PIMO เข้าเทรด (ราคา IPO 1.30 บาท),กพช.ประกาศการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมแดดและลม) (เลื่อนจาก 29 ก.ค.)
- จีน:ดุลการค้า (มิ.ย.)
14-ส.ค. - ฮ่องกง: 2Q15 GDP
- สิงคโปร์: 2Q15 GDP
- ยูโรโซน: 2Q15 GDP, เงินเฟ้อ (ก.ค.), ZEW Survey Expectations (ก.ค.)
- สหรัฐ:Industrial Production (ก.ค.), PPI (ก.ค.)
- MSCI Quarterly Index review ประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออก
17-ส.ค. - ไทย: 2Q15 GDP
- ญี่ปุ่น: 2Q15 GDP
18 ส.ค. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts & Building permits (ก.ค.)
19-ส.ค. - สหรัฐ:อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
20-ส.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (ก.ค.)
- สหรัฐ: Fed Minutes จากการประชุม 28-29 ก.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านเก่า (ก.ค.)
21 ส.ค. - ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research