- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 10 August 2015 18:13
- Hits: 1295
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX แกว่งแคบ 1,430 จุด +/- ตลอดทั้งวัน โดยหุ้นหลักกลุ่มธนาคารทรงตัวได้ดี แต่ถูกชดเชยด้วยกลุ่มพลังงานที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ซึมตัวลงต่อเนื่อง ขณะที่หุ้นหลักที่มีประเด็นเชิงบวกขยับขึ้นเด่น SET INDEX ปิดที่ระดับ 1,428.79 จุด ลบเล็กน้อย 1.79 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายเพียง 24,673 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางวันที่ 3 แม้ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีก 1,741 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 1,858 สัญญา และนำเงินพักตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 611 ล้านบาท ทำให้เงินบาททรงตัวได้ดีวานนี้
ปัจจัยสำคัญวันนี้
การทยอยประกาศผลการดำเนินงาน 2Q58 ในโค้งสุดท้าย
การขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น SCC และ SCCC มูลค่า 7.50 บาท และ 8.00 บาท ผลกระทบ 1.16 จุด
ตัวเลขการส่งออกของจีน เดือนก.ค. หดตัว 8.3% yoy อาจสร้างแรงกดันต่อเศรษฐกิจ
ติดตามการเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อครม. วันที่ 11 ส.ค.
มุมมองต่อตลาด
เราคงน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น "กลาง" วันที่ 4 แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่อ รวมถึง SET INDEX มีแนวโน้มปรับฐานลงทดสอบ 1,420 จุด เพราะขาดปัจจัยการลงทุนใหม่ทั่วโลก นักลงทุนรอบโลกต่างเลือกถือเงินสด เพื่อรอดูผลการประชุมเฟดในเดือนหน้าว่าจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนในเอเชียเช้าวันนี้อาจถูกกดันจากตัวเลขการส่งออกเดือนก.ค.ของจีนที่หดตัวมากถึง 8.3% yoy เทียบกับ Bloomberg consensus คาดลดลงเพียง 1.4% yoy สร้างความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจของจีนที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกทางอ้อมได้เช่นกัน แต่แรงกดดันดังกล่าว อาจกลายเป็นจุดที่ทำให้ตลาดกลับมาเก็งกำไรต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางการจีน และ/หรือ ธนาคารกลางจีนในเร็วๆ นี้ได้เช่นกัน ตลาดหุ้นฮั่งเส็ง และตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ อาจฟื้นตัวสวนทางกับตัวเลขพื้นฐานเศรษฐกิจได้เช่นกัน
เรายังคงให้น้ำหนักกับการทยอยประกาศงบ 2Q58 ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศ โดยรวมแล้ว กลุ่มที่รายงานกำไรสุทธิออกมาชะลอตัวชัดเจนคือ กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ที่ได้รับผลกระทบทางตรงกับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอุตฯ จากทีวีอนาล็อค เป็น ทีวีดิจิตอล
และแนะนำติดตามการกำหนดวันลงมติพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญจากนี้จนถึงสัปดาห์หน้า เพราะจะมีผลต่อกรอบเวลาการเลือกตั้งทั่วไปว่าจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย. 2559 หรือ ยืดออกไปเป็น 1H60
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนกลับมาทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย โดยเน้นหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงาน 2Q58 จะเติบโตเด่น และมีแนวโน้มเป็นบวกในช่วงที่เหลือของปีนี้"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH
Speculative Buy: ITD
Accumulative Buy: ADVANC
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. ADVANC : ราคาปิด 241.00 บาท ราคาเหมาะสม 290.00 บาท
a) MBKET แนะนำ "ซื้อ" เพื่อรับเงินปันผล โดยจะขึ้น XD เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 6.50 ในวันพรุ่งนี้ คิดเป็น Dividend Yield 2.7%
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ 2H58 เนื่องจาก 1.ค่าเสื่อมราคาระบบ 2G จะหมดลงใน 3Q58 และ 2.Regulatory Cost ลดลงเร็วต่อเนื่องตามจำนวนผู้ใช้บริการ Smartphone ระบบ 3G ที่เพิ่มขึ้น
c) คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +8.6% yoy เป็น 39,113 ล้านบาท และ +19.4% yoy เป็น 46,713 ล้านบาท
d) มี Catalyst รออยู่คือการประมูล 4G คลื่น 1800 ในวันที่ 11 พ.ย. และคลื่อน 900 MHz ในเดือน พ.ย. ซึ่งจะเป็นการปลดล็อกจากระบบสัญญาสัมปทานเดิมc และหากจัดตั้ง JV กับ TOT สำเร็จจะเป็นบวกอย่างมากต่อธุรกิจ Fixed Broadband ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการของเรา
และ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
2. ITD : ราคาปิด 7.65 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้น ITD จะตอบรับเชิงบวกต่อเนื่อง หลังได้ลงนามข้อตกลงพัฒนาโครงการทวายร่วมกับรัฐบาลไทย - พม่าแล้ว โดย ITD จะเป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมทวาย รวมทั้งได้สิทธิสัมปทานในการพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึก, โรงไฟฟ้า และระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ
b) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะมีการประมูลโครงการรถไฟฟ้าทางคู่ ฉะเชิงเทรา - แก่งคอย มูลค่า 10,524 ล้านบาท หลังการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงประกาศร่าง TOR ใน Website แล้ว และคาดว่าจะมีการยื่นซองประกวดในเดือน ก.ย. และทราบผลการประมูลด้านราคาในภายใน 4Q58
c) ITD มีความพร้อมสูงสุดในการรับงานรถไฟฟ้าทางคู่ เนื่องจากมีโรงงานทำไม้หมอนคอนกรีตรถไฟ, โรงงานปูนซีเมนต์, โรงเหล็กเส้น และสามารถทำระบบ Switching ของรถไฟได้เอง จึงมีข้อได้เปรียบมากด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันรายอื่น
d) นอกจากนั้น ยังมี Upside Risk ที่มีนัยสำคัญ จากโครงการเหมืองแร่โปแตซ หลังวานนี้คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ ได้อนุมัติแผนพัฒนาแร่โปรแตซปี 2558-2564 เพื่อพัฒนาให้เป็นอุตสาหกรรมใหม่ เนื่องจากไทยมีปริมาณสำรองแร่โปรแตซสูงถึง 4 แสนตัน และจะนำเสนอครม.เป็นลำดับถัดไป
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก US$134 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$268 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงพักเงินในตลาดตราสารหนี้
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีก 1,741 ล้านบาท รวม 5 ขายสุทธิ 6,045 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 48,136 ล้านบาท
ส่วน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Long สุทธิ อีกครั้ง 1,848 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อ S50U15 ปิดต่ำกว่า Set50 Index กว้างขึ้นเป็น 17.71 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 14.29 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 46,628 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 611 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,160 ล้านบาท คาดว่าเป็นการโยกเงินจากตลาดหุ้นเข้าพักในตลาดตราสารหนี้ ส่งผลให้ราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ แต่ก็เพียงเล็กน้อย ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 0.10bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.46bps ปิดที่ 2.786%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็นวันที่ 3 เหลือเพียง 324 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 548 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 เลือกเน้น BBL / SCC เหมือนวันก่อนหน้า
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก 293 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 780 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,063 ล้านบาท โดย NVDR ยังคงเลือกเน้นสะสม SCC / BBL ต่อเนื่อง สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 195 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 443 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 95 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 327 ล้านบาท
2. ขณะที่กลุ่ม HOME ถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 48 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมากลาง
การจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือนก.ค. เท่ากับ 2.15 แสนตำแหน่ง ใกล้เคียง Bloomberg consensus คาด 2.12 แสนตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 2.31 แสนตำแหน่ง
การจ้างงานภาคเอกชน เดือนก.ค. เท่ากับ 2.10 แสนตำแหน่ง เท่ากับที่ Bloomberg consensus คาด แต่ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.27 แสนตำแหน่ง
อัตราการว่างงาน เท่ากับ 5.3% เท่ากับ Bloomberg consensus และเดือนก่อนหน้า
ยุโรป
ผลผลิตภาคอุตฯ เยอรมันชะลอตัว: เดือนมิ.ย. หดตัว 1.4% mom จากเดือนพ.ค.ที่ +0.2% mom และสวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาด +0.3% mom โดยผลผลิตภาคการส่งออกลดลง 1.0% mom ส่วนการนำเข้าลดลง 0.5% mom จากผลกระทบของเศรษฐกิจในประเทศเกิดใหม่อย่างจีน ชะลอตัว
กรีซคาดว่าจะได้ข้อสรุปเงื่อนไขการรับเงินกู้ภายในวันที่ 11 ส.ค.: โดยตัวแทนเจ้าหนี้ของกรีซ ได้แก่ ECB / IMF / EC / ESM ได้หารือและมีผลก้าวหน้าไปมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแผนการให้เงินกู้ 8.6 หมื่นล้านยูโร อายุ 3 ปี แก่กรีซ คาดว่าจะได้ข้อสรุปและให้รัฐสภากรีซ พิจารณาอนุมัติหลักเกณฑ์การปฎิรูปเพิ่มเติมหากจำเป็น ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ เพื่อนำไปสู่การนำเสนอต่อที่ประชุมรมว.คลัง อียู ในช่วงสุดสัปดาห์
จีน
ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค.ของจีนออกมาต่ำกว่าคาด
การส่งออกเดือนก.ค. หดตัว 8.3% yoy ในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด -1.5% yoy และเดือนมิ.ย.ที่ขยายตัว 2.8% yoy โดยส่งออกไปยังอียูลดลง 2.5% yoy ใน 7M58 ส่งออกไปยังญี่ปุ่นลดลง 10.5% yoy ใน 7M58 มีเพียงการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 9.3% yoy
การนำเข้าเดือนก.ค. หดตัว 8.1% yoy ลดลงมากขึ้นจากเดือนมิ.ย.ที่ -6.6% yoy
ดุลการค้า เดือนก.ค. เกินดุล US$4.3 หมื่นล้าน
อัตราเงินเฟ้อใกล้เคียงคาด: เพิ่มขึ้น 1.6% yoy ในเดือน ก.ค. เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 1.4% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาด 1.5% yoy อย่างไรก็ตามดัชนีราคาผู้ผลิตหดตัว 5.4% yoy เป็นการหดตัวแรงสุดในรอบ 6 ปี ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 41 และหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 5.0% yoy ส่งสัญญาณอุปสงค์ที่อ่อนแอมากขึ้น ทำให้ตลาดประเมินว่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาล
เอเชียแปซิฟิก
BoJ คงนโยบายการเงินตามคาด: ยืนยันที่จะเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบ Yen80 ล้านล้าน/ปี ผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและสินทรัพย์เสี่ยง ด้วยมติ 8-1 ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวปานกลาง แต่ยังคงความมั่นใจอัตราเงินเฟ้อจะแตะ 2.0% ตามเป้าหมาย
ยอดส่งออกไต้หวันหดตัวแรงกว่าคาด: หดตัว 11.9% yoy ในเดือน ก.ค. ต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่หดตัว 13.9% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 10.5% yoy โดยยอดส่งออกหดตัว yoy ในเกือบทุกรายการ มีเพียงการส่งออกอาหารที่ขยายตัว ทั้งนี้การส่งออกในภูมิภาคเอเชียหดตัวแรง โดยส่งออกไปเกาหลีใต้, ไทยและอินโดนีเซียหดตัว 0.8%, 6.7% และ 8.2% yoy ตามลำดับ แต่การส่งออกไปสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 1.0% yoy
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530