- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 07 August 2015 17:01
- Hits: 894
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ยังไม่สามารถทะลุแนว 1,440 จุดได้ หุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร / รับเหมาก่อสร้าง / PTT / AOT ปรับฐาน อีกทั้งตลาดหุ้นกลุ่ม TIPs อีก 2 แห่งปรับตัวลงเช่นกัน ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัว ขยับขึ้นเด่น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,430.58 จุด ลบ 5.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30,449 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางเป็นวันที่ 2 แม้ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 1,395 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 2,940 สัญญา แต่นำเงินพักตลาดตราสารหนี้ 1,549 ล้านบาท ทำให้เงินบาททรงตัวได้ดีวานนี้
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ
ติดตามการประชุม BoJ วันนี้
ติดตามการกำหนดวันลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ของสปช.
iShare MSCI Thailand ETF คืนวานนี้ปิด -0.37%
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
การทยอยประกาศผลการดำเนินงาน 2Q58 ในโค้งสุดท้าย
ติดตามการประชุม ECB วันที่ 13 ส.ค.
ติดตามความคืบหน้าการเจรจาระหว่างกรีซ และ เจ้าหนี้ Troika เพื่อหาข้อสรุปเงินกู้รอบ 3
ติดตามการเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อครม. วันที่ 11 ส.ค.
มุมมองต่อตลาด
เราคงน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น "กลาง" วันที่ 3 พร้อมให้น้ำหนัก SET INDEX ที่จะฟื้นตัวขึ้นไปแกว่ง 1,435-1,440 จุด แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายจะเบาบางต่อเนื่องก็ตาม แต่หากติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนใน 2Q58 ออกมาใกล้เคียงคาดเป็นส่วนใหญ่ โอกาสปรับประมาณการกำไรของตลาดหุ้นไทยในปีนี้ลงอีกระลอก เชื่อว่าจะเป็นไปอย่างจำกัด ขณะที่ ณ ระดับ SET INDEX ที่ 1,430.58 จุด ซื้อขาย PER15-16 เท่ากับ 14.87x และ 13.00x ตามลำดับ เทียบกับค่าเฉลี่ย 1Yr - 2Yr Forward PER ย้อนหลัง 1 ปี เท่ากับ 14.88x และ 12.97x ย่อมสะท้อน Downside risk ของ SET INDEX จำกัด
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ ปรับประมาณการการส่งออกปี 2558 เป็นหดตัว 3.0% สอดคล้องกับ สศค. ที่ปรับลงไปก่อนหน้านี้ และ ธปท.ที่ส่งสัญญาณจะปรับสมมติฐานดังกล่าวลงเช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว เพียงแต่ประเด็นเหล่านี้ ยังคอยกดทับบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้
สำหรับประเด็นสำคัญในสัปดาห์หน้า เราให้น้ำหนักกับการทยอยประกาศงบ 2Q58 ในช่วงโค้งสุดท้าย หากหุ้นหลัก ยังสามารถรักษาความสามารถทำกำไรได้ต่อเนื่อง เราเชื่อว่าความผันผวนของ SET INDEX จะเริ่มจำกัดขึ้น เพียงแต่การฟื้นตัวก็จะเป็นไปอย่างจำกัดเช่นกัน เพราะความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังอยู่ในระดับต่ำ
รวมถึงติดตามการกำหนดวันลงมติพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญจากนี้จนถึงสัปดาห์หน้า เพราะจะมีผลต่อกรอบเวลาการเลือกตั้งทั่วไปว่าจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย. 2559 หรือ ยืดออกไปเป็น 1H60
ด้านปัจจัยต่างประเทศ ทั้งการประชุม BoJ วันนี้ หรือ ECB ในสัปดาห์หน้า ตลาดคาดว่าธนาคารกลางทั้ง 2 จะคงนโยบายการเงินเช่นเดิม แต่ที่น่าสนใจคือ พัฒนาการระหว่างกรีซ และเจ้าหนี้ Troika จะได้ข้อสรุปเมื่อใด เพราะกรีซมีหนี้ครบกำหนดของ ECB มูลค่า 3.2 พันล้านยูโรในวันที่ 21 ส.ค.
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่สะสมหุ้นเป้าหมายบริเวณ 1,400-1,410 จุดอาจพิจารณาขายทำกำไรรอบสั้นไปบางส่วน บริเวณ 1,450 จุด +/- และถือพอร์ตหุ้นที่เหลือ เพื่อรอประเมินภาพรวมในระยะถัดไป เพื่อดูแรงฟื้นตัวของ SET INDEX ว่าจะทะลุผ่าน 1,500 จุดในรอบสั้นนี้ได้หรือไม่"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH
Speculative Buy: ITD/ TASCO
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "เก็งกำไร" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 7.65 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้น ITD จะตอบรับเชิงบวกต่อเนื่อง หลังได้ลงนามข้อตกลงพัฒนาโครงการทวายร่วมกับรัฐบาลไทย - พม่าแล้ว โดย ITD จะเป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมทวาย รวมทั้งได้สิทธิสัมปทานในการพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึก, โรงไฟฟ้า และระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ
b) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะมีการประมูลโครงการรถไฟฟ้าทางคู่ ฉะเชิงเทรา - แก่งคอย มูลค่า 10,524 ล้านบาท หลังการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงประกาศร่าง TOR ใน Website แล้ว และคาดว่าจะมีการยื่นซองประกวดในเดือน ก.ย. และทราบผลการประมูลด้านราคาในภายใน 4Q58
c) ITD มีความพร้อมสูงสุดในการรับงานรถไฟฟ้าทางคู่ เนื่องจากมีโรงงานทำไม้หมอนคอนกรีตรถไฟ, โรงงานปูนซีเมนต์, โรงเหล็กเส้น และสามารถทำระบบ Switching ของรถไฟได้เอง จึงมีข้อได้เปรียบมากด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันรายอื่น
d) นอกจากนั้น ยังมี Upside Risk ที่มีนัยสำคัญ จากโครงการเหมืองแร่โปแตซ หลังวานนี้คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ ได้อนุมัติแผนพัฒนาแร่โปรแตซปี 2558-2564 เพื่อพัฒนาให้เป็นอุตสาหกรรมใหม่ เนื่องจากไทยมีปริมาณสำรองแร่โปรแตซสูงถึง 4 แสนตัน และจะนำเสนอครม.เป็นลำดับถัดไป
2. TASCO : ราคาปิด 26.50 บาท ราคาเหมาะสม 28.00 บาท
a) ราคาหุ้น TASCO มี Sentiment เชิงบวก จากราคาน้ำมันดิบที่แกว่งตัวในระดับต่ำ และลดลงต่อเนื่องจากสิ้นสุด 2Q58 เนื่องจากจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง และเป็นบวกต่อ Spread Margin ของบริษัทให้ทรงตัวในระดับสูงได้ต่อเนื่อง
b) คาดกำไรสุทธิ 2Q58 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1.2 - 1.4 พันล้านบาท จากแรงหนุนของตลาดต่างประเทศ หลังจีนมีคำสั่งซื้อ Lot ใหญ่เข้ามาถึง 2.5 แสนตัน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวในระดับสูงเนื่องจากได้ทำสัญญาซื้อขายน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนไว้ล่วงหน้าแล้วราว 3-4 เดือน
c) ทิศทางผลประกอบการ 3Q58 จะดีต่อเนื่อง และคาดว่าปริมาณขายใน 3Q58 จะทำระดับสูงสุดใหม่เนื่องจากคำสั่งซื้อจากจีนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกใน 3Q58 ดังนั้น จึงมีโอกาสที่กำไรสุทธิ 3Q58 จะทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องได้จาก 2Q58
d) คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +249.7% yoy เป็น 4,226 ล้านบาท และ Valuation ยังไม่สูงมากนัก เนื่องจากซื้อขายระดับ PER2558 ที่ 9.6 เท่า นอกจากนั้น แผนการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯใน 2H58 จะเป็นอีกปัจจัยผลักดันยอดขายยางมะตอยในประเทศให้ขยายตัวและส่งผลบวกต่อหุ้น TASCO โดยตรง
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$268 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิเล็กน้อย US$16 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมาพักเงินในตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 1,395 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ขายสุทธิ 4,304 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 46,395 ล้านบาท
และ SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Short สุทธิ เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,940 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 11,577 สัญญา และ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 9,012 สัญญา คาดเป็นการปิดสถานะ short ทั้งหมด และกับมามีสถานะ short บางส่วนในยอดสะสมก่อนหน้า เมื่อ S50U15 ปิดต่ำกว่า Set50 Index แคบลงเป็น 14.29 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 15.26 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 48,476 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,549 ล้านบาท คาดว่าเป็นการโยกเงินจากตลาดหุ้นเข้าพักในตลาดตราสารหนี้ เมื่อราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 อีก 1.46bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นเพียง 0.34bps ปิดที่ 2.787%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็นวันที่ 2 เหลือ 548 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 691 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 กลับมาเน้นสะสม SCC / BBL / TVO
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 780 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 1,770 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการกลับมาเน้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มธนาคารอีกครั้ง สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 443 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 327 ล้านบาท กลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 202 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มขนส่ง ถูกขายสุทธิสูงสุด 265 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 134 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ขายสุทธิ 42 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 129 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมากลาง
ยอดขอสวัสดิการว่างงานเท่ากับ 2.70 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 2.73 แสนตำแหน่ง แต่สูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.67 แสนตำแหน่ง
ยุโรป
คำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมัน เพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย.: 2.0% mom จากเดือนพ.ค.ที่หดตัว 0.3% mom และดีกว่าที่ Bloomberg consensus คาด +0.3% mom ทั้งนี้เป็นผลจากราคาพลังงานที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ และการอ่อนค่าของเงินยูโร เป็นบวกต่อเศรษฐกิจเยอรมัน โดยคำสั่งซื้อเพื่อการส่งออก เพิ่มขึ้น 4.8% mom ขณะที่คำสั่งซื้อภายในประเทศกลับหดตัว 2.0% mom
Moody's ปรับแนวโน้มกลุ่มธนาคารในอังกฤษขึ้น: เป็น "คงที่" จากเดิม "ลบ" สะท้อนถึงธนาคารส่วนใหญ่ในอังกฤษจะสามารถรักษาระดับปัจจัยพื้นฐานด้านการเงินได้ใน 12-18 เดือนข้างหน้า ภาพรวมเศรษฐกิจที่เติบโตแข็งแกร่งจะช่วยการดำเนินการของธนาคาร เป็นบวกต่องบดุลของธนาคารให้ปรับตัวดีขึ้นในปีนี้
BoE คงอัตราดอกเบี้ยแต่ส่งสัญญาณเงินเฟ้อชะลอตัว: คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ แม้ว่าแนวโน้มจะยืนยันถึงความจำเป็นที่จะต้องเริ่มพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้วก็ตาม แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมของการปรับขึ้น ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ขึ้นอยู่กับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและแนวโน้ม นอกจากนี้ BoE ได้ปรับลดประมาณการเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีนี้ลง
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
การจ้างงานออสเตรเลียเพิ่มขึ้น: เดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 38,500 ตำแหน่ง และดีกว่า Bloomberg consensus คาดเพียง 10,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานกลับขยับขึ้นเป็น 6.3% จากเดือนมิ.ย.ที่ 6.1% เนื่องจากจำนวนแรงงานที่เข้าสู่ระบบมากกว่าการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น
ไทย
กระทรวงพาณิชย์ปรับเป้าส่งออกปีนี้หดตัว 3%: กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาปรับประมาณการการส่งออกสินค้าไทยในปี 2558 ใหม่เป็นขยายตัวติดลบ 3% โดยมีมูลค่า 220,698 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดจากจากเป้าเดิมที่ตั้งไว้ขยายตัว 1.2% มูลค่า ล้านเหรียญสหรัฐ 230,304 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เงินบาทอยู่ที่ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และราคาสินค้าเกษตรยังไม่ปรับตัวดีขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. ต่ำสุดในรอบ 14 เดือน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.58 ปรับตัวเป็นลงเป็นเดือนที่ 7 และทำระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน ที่ 73.4 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 62.6 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 68.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 88.8
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530