- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 06 August 2015 16:47
- Hits: 1490
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Test 1440
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ฟื้นตัว นำโดยกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX ฟื้นตัวและกลับมายืนเหนือ US$46/barrel ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ขณะที่การประชุมกนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาด ทำให้กลุ่มธนาคารเริ่มฟื้นตัว แต่ด่าน 1,440 จุด ยังไม่สามารถทะลุผ่านได้ SET INDEX ปิดบวก 4.20 จุด มาอยู่ที่ 1,436.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37,192 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางอีกครั้ง แม้ว่าขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เหลือเพียง 421 ล้านบาท คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 6,163 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เพียง 490 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ด้วยมติเอกฉันท์ 7-0
ติดตามการประชุม BoE ตลาดคาดว่าจะคงนโยบายการเงิน
บลจ.ไทยพาณิชย์ประกาศขาย IPO กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ระหว่างวันที่ 6-11 ส.ค. วงเงิน 1,000 ล้านบาท เป้าหมายผลตอบแทน 6% ขณะที่ บลจ.กรุงไทย ปิดการขาย IPO กองทุน ทริกเกอร์ฟันด์วานนี้แล้ว คาดเงินใหม่เริ่มลงทุนปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า
iShare MSCI Thailand ETF คืนวานนี้ปิด +0.16% ฟื้นตัวเป็นคืนแรกในรอบ 3 คืน
มุมมองต่อตลาด
เราคงน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น "กลาง" วันที่ 22 พร้อมให้น้ำหนักที่ SET INDEX มีโอกาสที่จะไต่ระดับขึ้นทดสอบ 1,440 จุดอีกครั้ง หลังแรงกดดันต่อกลุ่มธนาคารคลายตัว เมื่อ กนง. ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นมติเอกฉันท์ 7-0 นั่นย่อมดีความได้ว่า การประชุมในช่วงที่เหลือ กนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% หากภาพรวมเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ตามที่กนง.ให้ความเห็น ดังนั้นแรงกดดันต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ของธนาคารขนาดใหญ่จะคลายตัวลง
ขณะที่ บลจ.เริ่มกลับมาพิจารณาและเปิดขาย IPO กองทุนทริกเกอร์ฟันด์รอบใหม่อีกครั้ง ณ ปัจจุบันมี 2 บลจ. วงเงิน 2,000 ล้านบาท คาดว่าเงินลงทุนใหม่จะเริ่มเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยปลายสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า ซึ่งน่าจะช่วยปิด Downside risk ของ SET INDEX ในช่วงสั้น
และหากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อย่าง NYMEX แกว่งแคบเหนือ US$45/barrel เราเชื่อว่ากลุ่มพลังงานโดยรวมจะทรงตัวเพื่อรอดูผลการดำเนินงาน 2Q58 ที่จะทยอยประกาศออกมามากขึ้นในช่วงนี้จนถึงกลางเดือนส.ค.
ปัจจัยต่างประเทศในช่วงสั้นนี้ ขาดน้ำหนัก เป็นเพียงการติดตามผลการประชุมของ BoE วันนี้ และ BoJ วันพรุ่งนี้ รวมถึงพัฒนาการระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ Troika เพื่อหาข้อสรุปเงื่อนไขการรับเงินกู้รอบที่ 3 อายุ 3 ปี วงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโร ได้ก่อนกลางเดือนส.ค. เพื่อให้นายกฯ กรีซนำเสนอต่อสภากรีซ ได้หรือไม่ เพราะหนี้ ECB จะครบกำหนดอีก 3.2 พันล้านยูโรในวันที่ 20 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ปัจจัยที่จะผลักดันให้ SET INDEX ทะลุแนว 1,450 จุดขึ้นไปทดสอบกรอบ 1,480-1,500 จุดได้ในระยะถัดไป เราให้น้ำหนักกับเงื่อนไข 1) ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนตลาดหุ้นไทยจากนี้ไปจะออกมาใกล้เคียง หรือ ดีกว่าคาด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีการปรับประมาณการกำไรสุทธิตลาดหุ้นไทยในปีนี้และปีหน้าลง และ / หรือ 2) การเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสะท้อนถึงกระแสเงินทุนต่างชาติต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เราเชื่อว่า 35.50-36.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ อาจเห็น นักลงทุนต่างชาติมีโอกาสพลิกกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังค่าเงินบาทที่อ่อนค่า 6.27% YTD และผลตอบแทนจากเงินปันผลระหว่างกาลในหุ้นหลักราว 2.0% +/-
รวมถึงมูลค่าการซื้อขายเบาบางตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ เราเชื่อว่าปัจจัยที่จะกลับมาเรียกความเชื่อมั่น คือ 1) ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวหรือแกว่งในกรอบแคบลง และ/หรือ 2) การปรับครม. ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วงปลายเดือนส.ค.ถึงเดือนก.ย. หลัง ครม.บริหารประเทศครบ 1 ปี
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่สะสมหุ้นเป้าหมายบริเวณ 1,400-1,410 จุดอาจพิจารณาขายทำกำไรรอบสั้นไปบางส่วน บริเวณ 1,450 จุด +/- และถือพอร์ตหุ้นที่เหลือ เพื่อรอประเมินภาพรวมในระยะถัดไป เพื่อดูแรงฟื้นตัวของ SET INDEX ว่าจะทะลุผ่าน 1,500 จุดในรอบสั้นนี้ได้หรือไม่"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH
Speculative Buy: ITD/ KTB
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "เก็งกำไร" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 7.70 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้น ITD จะตอบรับเชิงบวกต่อเนื่อง หลังวานนี้ได้ลงนามข้อตกลงพัฒนาโครงการทวายร่วมกับรัฐบาลไทย - พม่าแล้ว โดย ITD จะเป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมทวาย รวมทั้งได้สิทธิสัมปทานในการพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึก, โรงไฟฟ้า และระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ
b) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะมีการประมูลโครงการรถไฟฟ้าทางคู่ ฉะเชิงเทรา - แก่งคอย มูลค่า 10,524 ล้านบาท หลังการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงประกาศร่าง TOR ใน Website แล้ว และคาดว่าจะมีการยื่นซองประกวดในเดือน ก.ย. และทราบผลการประมูลด้านราคาในภายใน 4Q58
c) ITD มีความพร้อมสูงสุดในการรับงานรถไฟฟ้าทางคู่ เนื่องจากมีโรงงานทำไม้หมอนคอนกรีตรถไฟ, โรงงานปูนซีเมนต์, โรงเหล็กเส้น และสามารถทำระบบ Switching ของรถไฟได้เอง จึงมีข้อได้เปรียบมากด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันรายอื่น
d) คาดว่าจะมีความคืบหน้าของโครงการเหมืองโปรแตซใน 3Q58 จะเป็น Catalyst โดยตรงต่อราคาหุ้น และให้เป็น Top pick ของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
2. KTB : ราคาปิด 17.70 บาท ราคาเหมาะสม 21.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะมีโอกาสรีบาวน์ได้ หลังกนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ในการประชุมวานนี้ และส่งผลให้ตลาดคลายกังวลต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ของกลุ่มธนาคารที่อาจแคบลงหาก กนง.ลดดอกเบี้ยลงอีก
b) KTB ได้ประโยชน์สูงสุดจากการประมูลงานขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ ใน ช่วงปลาย 3Q58 ถึง 4Q58 เนื่องจากมีสัดส่วนการปล่อยกู้สินเชื่อภาครัฐฯสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร
c) คาดผลประกอบการ 3Q58 ทรงตัว หรือ เพิ่มขึ้น qoq เนื่องจากการตั้งสำรองไม่น่าสูงกว่า 2Q58 ที่มีการตั้งสำรองพิเศษเป็นจำนวนมากแล้ว
d) Valuation ค่อนข้างถูก ช่วยจำกัด Downside Risk ของราคาหุ้น โดยซื้อขายระดับ PER2558 ที่ 7.1 เท่า และให้ Dividend Yield สูงถึง 5.6%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียกลับมาขายสุทธิเล็กน้อย US$16 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$120 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติปิดสถานะ Short ที่ผ่าน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 แต่ลดลงเหลือเพียง 421 ล้านบาทเท่านั้น รวม 3 วันทำการ ขายสุทธิ 2,909 ล้านบาท และทำให้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 45,000 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิ เป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 6,163 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 11,577 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 9,012 สัญญา คาดเป็นการปิดสถานะ short ที่เปิดไว้ล่าสุด รวมถึงยอดสะสมก่อนหน้า เมื่อ S50U15 ปิดต่ำกว่า Set50 Index กว้างขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 15.26 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 13.46 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 45,536 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 เพียง 490 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 4,334 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ น่าจะเป็นการขายตราสารหนี้เพื่อสะท้อนผลการประชุมกนง.วันนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เพียง 0.34bps จากวันก่อนหน้าลดลง 3.50bps ปิดที่ 2.772%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เหลือ 691 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 884 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เน้น CPALL เป็นสำคัญ
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง 990 ล้านบาท จาก 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 1,132 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการลงทุนในกลุ่มค้าปลีกอย่างโดดเด่น สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 305 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 275 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 153 ล้านบาท กลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 156 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 139 ล้านบาท และกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 129 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 372 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มขนส่งถูกขายสุทธิสูงสุด 134 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 275 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 52 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมากลาง
ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.85 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 2.10 แสนตำแหน่ง และเดือนก่อนหน้าที่ 2.29 แสนตำแหน่ง
ดุลการค้าเดือนมิ.ย. ขาดดุล US$4.38 หมื่นล้าน ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg consensus คาด ขาดดุล US$4.30 หมื่นล้าน แต่แย่กว่าเดือนก่อนหน้าขาดดุล US$4.09 หมื่นล้าน ทั้งนี้ภาคการส่งออกลดลง 0.1% mom
ดัชนี PMI ภาคบริการ เดือนก.ค. เท่ากับ 55.7 จุด ใกล้เคียงกับ Bloomberg consensus คาด 55.2 จุด แต่ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 54.8 จุด ทั้งนี้คำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง
ดัชนี ISM ภาคบริการ เดือนก.ค. เท่ากับ 60.3 จุด ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 56.2 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 56.0 จุด เป็นระดับดีสุดในรอบ 10 ปี โดยคำสั่งซื้อใหม่ อยู่ที่ระดับ 63.8 จุด จากผลของภาคการส่งออก และทำให้การจ้างงานขยับดีขึ้น
ผู้ว่าการเฟด Powell ส่งสัญญาณเฟดยังไม่น่าขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า: นาย Jerome Powell, Federal Reserve Gov. ให้ความเห็นต่อตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง แต่อัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด ขณะที่ Powell ให้น้ำหนักกับทิศทางการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า ช่วงเวลาที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก
ยุโรป
ไม่มี
จีน
ดัชนี PMI ภาคบริการทำระดับสุงสุดในรอบ 11 เดือน: ดัชนี PMI ภาคบริการ เดือนก.ค. เท่ากับ 53.8 จุด เร่งขึ้นจากเดือนมิ.ย.ที่ 51.8 จุด และเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2557 โดยเป็นการขยายตัวของภาคธุรกิจใหม่ และคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
แต่ดัชนี PMI ภาคการผลิตกลับทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี: ดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือนก.ค. เท่ากับ 47.8 จุด ต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้น 48.2 จุด และต่ำกว่าเดือนมิ.ย.ที่ 50.2 จุด และ Reuters Poll ที่ 50.2 จุด
เอเชียแปซิฟิก
เศรษฐกิจอินโดนีเซียเติบโตชะลอตัวเป็นไตรมาสที่ 2: GDP ใน 2Q58 เติบโต 4.67% yoy ชะลอตัวจาก 1Q58 ที่เติบโต 4.72% yoy แต่ดีกว่าที่ Bloomberg consensus คาดการณ์เล็กน้อยที่ 4.64% yoy ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจยังคงเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 7.0% ทั้งนี้เป็นผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำ ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ด้านการลงทุน เพิ่มขึ้น 3.6% yoy ชะลอตัวจาก 1Q58 ที่ขยายตัว 4.3% yoy และการใช้จ่ายภาครัฐ เพิ่มเพียง 2.3% yoy จาก 2.7% yoy ใน 1Q58
อัตราเงินเฟ้อไต้หวันหดตัวแรงกว่าคาด: หดตัว 0.66% yoy ในเดือน ก.ค. ต่อจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 0.56% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 0.63% yoy ทั้งนี้ราคาขนส่งหดตัวแรง 5.95% yoy ในขณะที่ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 1.77% yoy ด้านดัชนีค้าส่งหดตัวแรง 9.98% yoy เช่นกันในเดือน ก.ค.
ยอดส่งออกมาเลเซียขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน: เพิ่มขึ้น 5.0% yoy ในเดือน มิ.ย. ฟื้นตัวจากเดือนก่อนที่หดตัว 6.7% yoy ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 2.2% yoy นำโดยการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์, เคมิคอลและน้ำมันปาล์มที่เพิ่มขึ้น ขณะที่น้ำมันและ LNG ยังหดตัวต่อเนื่อง การส่งออกไปยังจีน, อียูและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น ด้านการนำเข้าหดตัว1.5% yoy ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลที่ระดับ 7.98 พันล้านริงกิต
ไทย
สปช.เคาะ 7 ก.ย. ลงมติร่างรัฐธรรมนูญ: ผลการประชุมวิปสปช. ว่า เบื้องต้นได้กำหนดให้วันที่ 7 ก.ย.นี้ เป็นวันลงมติลงมติร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมกับกำหนดประเด็นคำถามเพิ่มเติมที่ใช้สำหรับการทำประชามติอย่างไรก็ตามกำหนดการดังกล่าวยังไม่ถือว่าเป็นทางการเนื่องจากต้องรอให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ออกจากโรงพยาบาลก่อนและจะเสนอผลการประชุมวิปสปช. ให้นายเทียนฉายพิจารณาอีกครั้งแต่คาดว่าการกำหนดวันลงมติรัฐธรรมนูญจะอยู่ระหว่างวันที่ 5 -7ก.ย.นี้ อย่างแน่นอน
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530