WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index : เสี่ยงลงไปปิด Gap ที่ 1420 แนวต้าน 1440
  SET Index : 1432.82 ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1430 จุด ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1440 จุดแล้วสามารถทะลุผ่านขึ้นได้ แต่เรายังคงคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของ SET Index ในระยะสั้น น่าจะมีแนวต้านที่ 1440 จุด แต่ถ้าสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1460-1465 จุด ซึ่งเป็นแนวรับของรูปแบบสามเหลี่ยมเดิมก่อนที่จะปรับตัวลดลงไปทดสอบระดับ 1400 จุด เรายังคงแนะนำให้เน้นการขายหุ้นออกเพื่อลดพอร์ต เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นให้น้ำหนักเป็นการฟื้นตัวทางเทคนิค และมียังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1400 หรืออาจถึง 1375 จุด
  Energy : ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ระดับ 18000 และมีแนวต้านที่ 18700 ในขณะที่แนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงอยู่ที่ 17500
  Bank : ถูกขายทำกำไรในระยะสั้นหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 492 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 505

WICE = 3.70 / 4.00, ADVANC = 244 / 247, PK = 6.50** / 7.00, PTT = 320 / 324, PTTGC = 60.25 / 61.00

  S50U15 : 923.70 ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 922 หลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 930 ทำให้แนวโน้มของ S50U15 ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 940 และ 950 เป็นแนวต้านสำคัญ ซึ่งเราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน S50U15 หลังจากทะลุผ่านแนวต้านที่ 925 ขึ้นมาได้ เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 940-944 และมีจุด STOP LOSS สถาะน Long ถ้าปิดต่ำกว่า 922 ลงไป
  GFQ15 : 18190 ปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 18200 ตามการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มของราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ US$1050-1060 และมีแนวต้านที่ US$1100-1105 จึงแนะนำให้เน้นการ Open Short โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 18350 เป็นจุด STOP LOSS สถานะ Short S50U15:35.16 รอขายสถานะ Short ที่บริเวณแนวรับ 35.00 แนวต้าน 35.25-35.30

TECHNlCAL FOLLOW UP : แนวรับ แนวต้าน
SET Index ทดสอบแนวต้านที่ 1440 มีโอกาสลงทดสอบ 1420 1430 / 1427 1435 / 1438
S50U15 กลับเข้าไป Open Long โดยมีจุด STOP LOSS ถ้าหลุด 922 ลงไป 922** / 920 925 / 928
GFQ15 Open Short ที่แนวต้าน 18250-18300 แต่ STOP LOSS ถ้าทะลุผ่าน 18350 18100 / 18050 18250 / 18300
USDU15 รอ STOP LOSS สถานะ Short ที่แนวรับ 35.00 แนวต้าน 35.30 35.10 / 35.07 35.20 / 35.25
SMPC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 6.00 และ 6.50 5.50 / 5.40 5.80 / 6.00
GL แนวโน้มขึ้นทดสอบ 14.00 และ 14.90 13.50 / 13.40 14.00 / 14.20

Everland (EVER TB; THB 1.35) - ซื้อ


  แนวต้าน : 1.44 และ 1.50 / แนวต้านสำคัญ 1.82
  แนวรับ : 1.35 และ 1.34
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง แต่ปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง
  MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
  แนะนำซื้อ EVER โดยมีแนวรับที่ 1.35 และ 1.34 และมีแนวต้านที่ 1.44 และ 1.50 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.30 ลงไป

Pico Thailand (PICO TB; THB 2.66) - ซื้
  แนวต้าน : 2.88 และ 3.00 / แนวต้านสำคัญ 3.34-3.40
  แนวรับ : 2.66 และ 2.60


  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันมาอย่างต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ PICO โดยมีแนวรับที่ 2.66 และ 2.60 และมีแนวต้านที่ 2.88 และ 3.00 เป็นจุดขายทำกำไร แนวต้านสำคัญ 3.34-3.40
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.54 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tamavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

SET...ยังคง sideway รอดูผลการประชุมกนง. วันพรุ่งนี้
  ดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.ค. ปรับตัวลงถึง 4.1% เป็นไปตามภูมิภาค แต่ปรับตัวลงมากที่สุดในบรรดาตลาดหุ้นอาเซียน 5 ประเทศ โดยในวันศุกร์สามารถดีดตัวขึ้นมามากกว่า 1% เป็นอันว่าดัชนี SET ในเดือน ก.ค.ปรับตัวลงมากสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2015 เป็นต้นมา โดยแรงกดดันมาจากความกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวจนไปกดราคาน้ำมัน ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลงมากที่สุด นำโดยชนส่วนอิเลกทรอนิกส์ เกษตร ชิ้นส่วนรถยนต์ พลังงาน ปิโตรเคมี ซึ่งปรับตัวลงมากกว่า 8% ส่วนกลุ่มที่สามารถยืนในแดนบวกได้มีกลุ่มเดียวคือ โรงพยาบาล (ดูรูปด้านขวา)
  ทิศทางดัชนี SET ในเดือน ส.ค. ยังขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ความชัดเจนของเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจและราคาน้ำมัน โดยประเด็นที่นักลงทุนให้ความสำคัญในเดือนนี้หลังการประชุม กนง. คือ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ Q2/15 ซึ่งจะประกาศในวันที่ 14 ส.ค. โดยเราคาดว่าจะยังหดตัว ส่วนวันพรุ่งนี้ คาดการประชุม กนง. น่าจะมีการคงดอกเบี้ย เนื่องจาก ธปท. อาจมองการลดดอกเบี้ยอาจจะให้ผลช้ากว่าการอ่อนตัวของค่าเงินบาท โดยเดือนนี้ปัจจัยหนุนที่เริ่มปรากฏให้เห็นคือ การอนุมัติงบลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และเม็ดเงินไหลเข้าจากต่างชาติ
  กลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามา คือกลุ่ม ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์และกลุ่มที่โยงกับการท่องเที่ยวหลังค่าเงินบาทอ่อนตัว นอกนั้นจะเป็นกลุ่มสื่อสารและรับเหมา เรามองว่าแรงซื้อของต่างชาติจะยังค่อยๆดำเนินต่อไปจากการทยอยสะสม หลังขายหุ้นไทยมาอย่างต่อเนื่อง แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการประเมินความถูกความแพงของตลาดเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ หรือตลาดเกิดใหม่อื่นๆ ซึ่งเรามองว่ามาได้ถูกจังหวะทั้งเหตุผลในประเทศและต่างประเทศ
  ความแข็งแกร่งของดัชนีตลาดหุ้นอาเซียน 5 ประเทศอย่าง อินโดนีเชีย ฟิลลิปปินส์ มาเลเชีย สิงคโปร์และไทย เริ่มปรากฏให้เห็นจากดัชนีค่อยๆยืน ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเหนือยังมีแรงขายออกมาค่อนข้างแรง ตรงนี้เองที่เรามองว่าเริ่มมีเม็ดเงินไหลเข้ามาพัก ทั้งจากเหตุผลว่า นักลงทุนต่างประเทศลดน้ำหนัการลงทุนในจีนและเอเชียเหนือบางประเทศ รวมทั้งการลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นที่จ่ายปันผลในเอเชีย แล้วหันมาลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ที่ยังถูกและให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
  การค่อยๆ เข้ามาเก็บหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ คาดคงยังเน้นไปยังหุ้นใหญ่ในกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ (KBANK KTB) รับเหมา (CK ITD) พลังงานบางตัว (PTTGC TOP) ค้าปลีก (CPALL ROBINS) กลุ่มที่โยงกับการท่องเที่ยวและขนส่ง (AOT CENTEL) ซึ่งเป็นหุ้นที่คาดว่ามีโอกาสฟื้นตัวในครึ่งปีหลังหากภาวะเศรษฐกิจในประเทศกลับมาฟื้นตัวได้
  กลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้เราเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 ออกมาดีในสัปดาห์นี้ ประกอบไปด้วย IVL BCP (คาดประกาศงบวันที่ 5 ส.ค.), LPN (คาดประกาศวันที่ 6 ส.ค.), PTTGC, MAJOR (คาดประกาศวันที่ 7 ส.ค.) นอกจากนั้นต้องติดตามการประชุมกนง. ในวันที่ 5 ส.ค. ว่าจะมีมติคงหรือลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากปัจจุบันที่อยู่ที่ระดับ 1.50% (นักเศรษฐศาสตร์ที่ Bloomberg สำรวจ 22 คน คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย 19 คนและ 3 คนคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%) วันนี้เราคาดว่าตลาดจะเคลื่อนไหวแบบ sideway ต่อเพื่อรอดูผลการประชุมกนง. ในวันพรุ่งนี้ เราให้แนวต้านไว้ที่ 1450-1455 และแนวรับที่ 1430-1435 จุด

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

 

Morning Market Summary...
  SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,432.82 จุด ลดลง 9.22 จุด (-0.64%) มูลค่าการซื้อขาย 17,943.99 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลดลง ตามตลาดต่างประเทศ หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วง จากการคาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้นอีกในเดือนก.ค. ขณะที่นักลงทุนยังกังวลเศรษฐกิจจีน และจับตาดูข้อมูลด้านแรงงานของสหรัฐ (6 ส.ค.) และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (7 ส.ค.) บ้านเราเช้านี้ SET ถูกกดดันจากกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ติดตามการประชุมครม.พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (วันนี้) การประชุมกนง. (5 ส.ค.นี้)

 

Afternoon Perspective...
  แนวโน้มตลาดภาคบ่าย หาก SET ไม่หลุด 1432 จุด จะมีโอกาสรีบาวน์ทดสอบแนวต้าน 1440-1445 จุด แต่ถ้าหลุด 1430 จุด จะลงมาปิดแกปบริเวณ 1420 จุด ติดตาม (1) การประชุมพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในบ่ายนี้ (2) ทิศทางของราคาน้ำมัน (หากยังอ่อนตัว แนะเก็งกำไรในกลุ่มการบิน วัสดุก่อสร้าง) (3) การประชุมกนง. 5 ส.ค.นี้ (หากคงอัตราดอกเบี้ย แนะเก็งกำไรในกลุ่มธนาคาร)

Fundamental Picks & Technic (PM) ...
  Everland (EVER TB; THB 1.35) - ซื้อ
  Pico Thailand (PICO TB; THB 2.66) - ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!