WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBS copyบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

"ซื้อตามค่าบวก ค่าลบ Wait & See"
Stock Picks-Jul 2015 : Fundamental : CENTEL, CK, CPN, IVL, TUF ส่วน Dark Horse คือ MCS, SYNEX

Fundamental Pick -Today: DCC (ดูใน Result วันนี้)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, QH, SPALI, SRICHA, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, JASIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : RATCH 38%, ERW 28%, EGCO 25%, PS 22%, MC 15%

Technical View ภาพตลาดเป็นลบ แต่มีสิทธิเด้งจากสภาวะ Oversold ระยะสั้น
Support Resistance Stop loss
SET 1400,1380 1430,(1440-1450) -
SET50 920-910 940,(950-960) ค่าลบ
Technical Picks- Today : TMB, VNG, FORTH, CPN, CPALL, SPF, MAJOR, TAPAC

 

หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
      ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ดัชนีมีรีบาวด์จากภาวะ Oversold ปิดตลาด +9.42 จุด ที่ 1417.49 โดยมีการซื้อกลับหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์, ไฟแนนซ์, พลังงาน, ปิโตรเคมี (รวม SCC), สื่อสาร, รับเหมาก่อสร้าง ฯลฯ ส่วนหนึ่งสะท้อนข่าวการออก 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งจะเข้าพิจารณาในครม.วันที่ 4 ส.ค.นี้ นักลงทุนสถาบันพลิกเป็นซื้อสุทธิ 1.8 พันล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1.3 พันล้านบาท ส่วนพอร์ตบล.และรายย่อยขายสุทธิเล็กน้อย
      เฟดมีมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐว่าขยายตัวปานกลาง ภาคแรงงานมีการฟื้นตัวดีต่อเนื่อง แต่การลดลงของราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเป็นความท้าทาย ทั้งนี้เฟดยังไม่ได้ส่งสัญญาณการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.อย่างชัดเจน รวมทั้งการเติบโตของ GDP ประจำ 2Q58 ที่ต่ำกว่าคาด โดยอยู่ที่ 2.3% จากที่คาด 2.5% ทำให้ความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐผ่อนคลายลงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายประเด็นที่ยังกดดันตลาดหุ้น เช่น เศรษฐกิจโลกที่ซบเซา รวมถึงเศรษฐกิจจีน, การทรุดตัวลงของตลาดหุ้นจีน และการลดลงของราคาน้ำมันกดดันประเทศที่มีรายได้จากธุรกิจน้ำมันและเหมืองแร่ สำหรับในประเทศ เราเห็นว่า 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ดีที่รัฐบาลนำมาเร่งดำเนินการ คาดการใช้จ่ายภาครัฐจะเพิ่มใน 2 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 58 (คือเดือนส.ค.-ก.ย.58) ปัจจัยจับตา คือ รายงานกำไร 2Q58 ซึ่งกำลังทยอยออกมาถึงกลางเดือนส.ค.นี้ กลยุทธ์ : ยังคงแนะนำทยอยซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีด้วยการถอยรับเป็น Step
วิเคราะห์ทางเทคนิค จากการ SCAN หาหุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดีและราคามีโอกาสปรับขึ้นได้ในระยะสั้น พบว่า หุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น CPALL, QH ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ BTS, ADVANC, BH, TRC, SIAM, AJP, TPIPL, M สำหรับหุ้นที่แนะนำไปแล้วและอยู่ในพื้นที่หาจังหวะขายทำกำไร คือ TAPAC

 

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- สหรัฐ : GDP Growth ประจำ 2Q58 เติบโตน้อยกว่าคาด โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่าขยายตัว 2.3% ซึ่งดีขึ้นจากเติบโตเพียง 0.6% ใน 1Q58 แต่ก็ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.5%
- สหรัฐ : Pending Home Sales ลดลงมากกว่าคาด สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายร่วงลง 1.8%MoM สู่ระดับ 110.3 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. หลังทำสถิติพุ่งแตะระดับสูงสุดในปีนี้ในเดือนพ.ค.
สหรัฐ : เฟดระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ภาคครัวเรือนมีการขยายตัว และภาคที่อยู่อาศัยมีการปรับตัวดีขึ้น ตลาดแรงงานฟื้นตัวดี โดยการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราการว่างงานได้ลดต่ำลง (ล่าสุดอยู่ที่ 5.3%) ส่วนอัตราเงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมายในระยะยาวที่ 2% เพราะการดิ่งลงของราคาพลังงาน ซึ่งเป็นประเด็นที่จับตาว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวและการเติบโตของเศรษฐกิจหรือไม่
+/ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นแรงหลังประชุมเฟด แล้วอ่อนเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ทั้งนี้หลังประชุมเฟดวันที่ 28-29 ก.ค.58 ดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้น 0.69% ตอบรับการที่เฟดยังไม่ได้ส่งสัญญาณระยะเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจนนัก แต่ได้กล่าวถึงการฟื้นตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดพยายามที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.58 หรือใน 4Q58 ส่วนการอ่อนลงของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้เป็นผลจาก GDP Growth ประจำ 2Q58 เติบโตน้อยกว่าคาด และผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดของบางบริษัท
- ตลาดหุ้นจีนดิ่งแรงเมื่อวานนี้ (-2.2%) นำโดยบริษัทยาและกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นการดิ่งลงเพราะความกังวลเรื่องกฎเกณฑ์ในการซื้อขายหุ้น ส่วนการรวมตัวกันเทขายหุ้นของนักลงทุนบางกลุ่มยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ด้านทางการจีนยืนยันการพยุงและสนับสนุนตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง
+/ ราคาน้ำมันดิบบวกเล็กน้อย...สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเกินคาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ ปิดที่ 48.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ปรับตัวขึ้น 8 เซนต์ ปิดที่ 53.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยหนุน คือ สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วลดลง 4.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 459.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอยู่ในระดับทรงตัว
- ราคาทองคำยังซบเซา ล่าสุดสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 3.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,092.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้ราคาทองคำยังขาดปัจจัยกระตุ้น โดยแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และกดดันราคาทองคำในตลาดโลก

 

ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
+ รมว.คลังเสนอ 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าจะเข้าครม.4 ส.ค.58 มีเป้าหมายดัน GDP ปีนี้ +3.2% ซึ่งประกอบด้วย
1. กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางราง ถนน น้ำ สนามบิน รวมกรมทางหลวงและทางหลวงชนบท 6.5 หมื่นล้านบาท
2. การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมการลงทุนผ่าน BOI รวมทั้งการลงทุนในเศรษฐกิจเฉพาะทาง เช่น อุตสาหกรรมยาง
3. การกระตุ้นโดยใช้นโยบายการเงินการคลัง (3.1 การช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ 3.2 กระตุ้นให้เกิดการจ้างงานในระดับท้องถิ่น 3.3 การให้สินเชื่อและการค้ำประกัน SMEs 3.4 การกระตุ้นผ่านมาตรการภาษี 3.5 การกระตุ้นผ่านการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม และ 3.6 กระตุ้นผ่านนาโนไฟแนนซ์ เป็นต้น)
4. การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการในงบประมาณประจำปี 58 (1.57 แสนล้านบาท) โดยจะเร่งติดตามให้เกิดการใช้จ่ายเร็วขึ้น
5. การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
6. การปรับปรุงการบริหารสหกรณ์ที่มีอยู่ในรูปแบบต่างๆ

 

ความเห็นเชิงกลยุทธ์ : กลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้น คือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง & วัสดุก่อสร้าง (โดยเฉพาะยางมะตอย) หุ้นเด่นเป็น SCC, TASCO ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะได้เงินซอฟท์โลนมาปล่อยสินเชื่อ SME เป็นต้น แต่คาดว่าสินเชื่อธนาคารพาณิชย์จะไม่ได้ดีขึ้นมากนัก และกลุ่มนี้ยังจะตั้งสำรองค่าเผื่อฯสูงใน 2H58 ต่อไป
+ SCC : กำไรแข็งแกร่ง+จ่ายปันผลระหว่างกาล 7.50 บาท/หุ้น ทั้งนี้แม้ว่ารายได้ในช่วง 1H58 จะเติบโตเพียง 9.5% แต่กำไรสุทธิขยายตัวได้ถึง 48%YoY เพราะ Spread ของธุรกิจปิโตรเคมีช่วยหนุน (Spread ของ HDPE & PP ใน 2Q58 เพิ่ม 17-18%QoQ) และคาดว่าจะยังแข็งแกร่งต่อใน 2H58 ส่วนธุรกิจซีเมนต์คาดว่าจะเติบโตดีขึ้นใน 2H58 เพราะฐานปีก่อนต่ำและโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐยังมีดีมานด์ที่ดี โดยรวมคาดว่ากำไร SCC ปีนี้จะเติบโต Outperform ตลาด แนะนำซื้อ ฝ่ายวิจัยฯ DBSV ให้ราคาพื้นฐาน 580 บาท
+ INTUCH : คาดว่าปีนี้กำไรจะเติบโตได้ 5-6% โดยมาจากการเติบโตของ ADVANC ที่ประมาณ 4% และการเติบโตของกำไร THCOM ที่ประมาณ 25% ส่วนธุรกิจที่ลงทุนใหม่ยังสร้างกำไรไม่มากในระยะสั้น แต่เชื่อว่าจะในระยะยาว ปัจจัยกระตุ้นคือ การประมูล 4G ในเดือนพ.ย.นี้ ฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ จ่ายปันผลสูงสม่ำเสมอ คาด Dividend Yield ปี 58 ที่ 5.6% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
- CPF : จับตาค่าเงินรูเบิลของรัสเซีย ซึ่งอาจกระทบผลประกอบการในรัสเซีย โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาธนาคารกลางรัสเซียประกาศห้ามนักลงทุน และสถาบันการเงินซื้อเงินสกุลต่างประเทศ หลังค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าสุดในรอบ 4 เดือน

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!