- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 31 July 2015 16:12
- Hits: 1543
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -5.41, NASDAQ +17.05, S&P +0.06, FTSE +37.87, CAC +28.98 และ DAX +45.30 ภายใต้ปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (1) GDP – 2Q/58 ขยายตัว 2.3% ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 0.6%เมื่อ 1Q/58 แต่ต่ำกว่าที่คาดว่าจะขยายตัว 2.5% และ (2) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ล่าสุด เพิ่มขึ้น 12,000 ราย อยู่ที่ 267,000 ราย นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยกดดันจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของเฟซบุ๊ก และพร็อกเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (พีแอนด์จี)
..อย่างไรก็ตาม DJIA ปรับลดลงอย่างจำกัด เนื่องจากโดยรวมยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนถึงกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมล่าสุด (28 – 29/7/58) ระบุแต่เพียงว่าเฟดต้องการเห็นตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นต่อไป และต้องการมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อซึ่งอยู่ในระดับต่ำจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ในระยะกลาง ก่อนที่จะดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป เช่น (1) ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์ (2) แอสทราเซเนกา และ (3) ดอยช์ แบงก์ เป็นต้น
...ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน กย. -US$0.27 อยู่ที่ US$48.52 ต่อบาร์เรล โดยได้รับปัจจัยลบจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น แต่การปรับลดลงเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากยังได้รับปัจจัยหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบล่าสุด ลดลง 4.2 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 459.7 ล้านบาร์เรล ดีกว่าที่คาดว่าจะทรงตัว
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน สค. -US$4.6 อยู่ที่ US$1,088.7 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,353 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -44,996
ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : ผันผวน? คาดตลาดฯ ยังมีโอกาสปรับขึ้น แต่เป็นไปอย่างจำกัด โดยคาดยังถูกกดดันจากปัจจัยในประเทศ (1) การเติบโตเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เหลือของปี รวมถึงผลกระทบจากภัยแล้ง ซึ่งคาดหลายๆ หน่วยงานมีโอกาสปรับลดเป้าหมาย GDP ลงอีกครั้ง ล่าสุดสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดGDP ปี’58 จากเดิม 3.7% เป็น 3.0% และคาดส่งออกหดตัว 4.0% จากเดิมที่คาด ขยายตัว 0.2% จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะจีน อย่างไรก็ตามแนะติดตามการปรับ ครม. โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจที่คาดเป็น Sentiment บวกเข้ามาในตลาดได้บ้าง รวมถึงการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล โดยเน้นกลุ่มที่มีรายได้น้อย เพื่อเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ (C) นอกจากการลงทุนผ่านโครงการต่างๆ ของภาครัฐ (G)
....(2) ทางด้าน Fund Flow ยังมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงมีทิศทางอ่อนค่า คาดเป็นปัจจัยเร่งให้นักลงทุนต่างชาติตัดสินใจปรับพอร์ตเร็วขึ้น (3) ราคาน้ำมันที่ลดลง คาดส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่อยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงาน – กลางสค. คาดอาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาบ้าง
….ทางด้านประเด็นต่างประเทศ ยังคงให้น้ำหนักต่อประเด็นที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี) ภายในปีนี้ หลังประธานเฟดส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจน และคาดกดดันต่อตลาดฯ เพิ่มขึ้นหลังจากนี้ไป รวมถึงความกังวลต่อทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจของจีน
...และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC และ BCP คาดผลการดำเนินงาน 2Q/58 จะออกมาโดดเด่น เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, CK, SEAFCO และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 35.15 – 35.17 คาดส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO, VNG เป็นต้น (5) กลุ่มท่องเที่ยวยังคงได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หุ้นที่ได้รับผลดี เช่น CENTEL
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.01 อยู่ที่ 2.27% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.37 มาอยู่ที่ 12.13
หุ้นแนะนำ : CENTEL
ประเด็นที่ต้องติดตาม (31 กค.’58)
31/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก - กค. (2) ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน – 2Q/58 (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - กค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788