- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 27 July 2015 16:43
- Hits: 1297
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -163.39, NASDAQ -57.78, S&P -22.50, FTSE -75.20, CAC -29.38 และ DAX -164.66 ภายใต้ปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (1) ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น - กค. อยู่ที่ 52.2 ลดลงจาก 52.5 เมื่อมิย. และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และ (2) ยอดขายบ้านใหม่ – มิย. ลดลง 6.8%MoM อยู่ที่ 482,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะชะงักงันในการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ
....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยกดดันจากความกังวลแนวโน้มการขยายตัวเศรษฐกิจโลก ภายใต้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ข้างต้น และก่อนหน้านี้จากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีน - กค. อยู่ที่ 48.2 ลดลงจาก 49.4 เมื่อมิย. และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน
…...ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน กย. -US$0.31 อยู่ที่ US$48.14 ต่อบาร์เรล ยังคงได้รับปัจจัยกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกิน
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน สค. -US$8.6 อยู่ที่ US$1,085.5 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากเงินสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งค่า
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,757 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -40,316 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : มีโอกาสปรับลง? ภายใต้ปัจจัยกดดันทั้งในประเทศ (1) การเติบโตเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เหลือของปี รวมถึงผลกระทบจากภัยแล้ง ซึ่งคาดหลายๆ หน่วยงานมีโอกาสปรับลดเป้าหมาย GDP ลงอีกครั้ง อย่างไรก็ตามแนะติดตามการปรับ ครม. โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจที่คาดเป็น Sentiment บวกเข้ามาในตลาดได้บ้าง และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล โดยเน้นกลุ่มที่มีรายได้น้อย เพื่อเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ (C) นอกจากการลงทุนผ่านโครงการต่างๆ ของภาครัฐ (G)
.....(2) ทางด้าน Fund Flow ยังมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงมีทิศทางอ่อนค่า คาดเป็นปัจจัยเร่งให้นักลงทุนต่างชาติตัดสินใจปรับพอร์ตเร็วขึ้น นอกเหนือจากปัจจัยจากขึ้นดอกเบี้นสหรัฐฯ (3) ราคาน้ำมันที่ลดลง คาดส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่อยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงาน – กลางสค. คาดอาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาบ้าง
….ทางด้านประเด็นต่างประเทศ ยังคงให้น้ำหนักต่อประเด็นที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี) ภายในปีนี้ หลังประธานเฟดส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจน และคาดกดดันต่อตลาดฯ เพิ่มขึ้นหลังจากนี้ไป
...และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC และ BCP คาดผลการดำเนินงาน 2Q/58 จะออกมาโดดเด่น เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, SEAFCO และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 34.87 – 34.89 คาดส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO, VNG เป็นต้น (5) กลุ่มท่องเที่ยวยังคงได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หุ้นที่ได้รับผลดี เช่น CENTEL
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.01 อยู่ที่ 2.27% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.10 มาอยู่ที่ 13.74
หุ้นแนะนำ : BEAUTY
ประเด็นที่ต้องติดตาม (27 – 31 กค.’58)
27/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - มิย.
28/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ราคาบ้าน - พค. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น - กค. (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค - กค. (4) เฟด เริ่มการประชุมกำหนดนโยบายการเงินวันแรก
29/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) - มิย. (2) สต็อกน้ำมัน (3) เฟดประกาศมติการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน
30/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ตัวเลขประมาณการ GDP – 2Q/58
31/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก - กค. (2) ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน – 2Q/58 (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - กค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788