- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 July 2015 17:37
- Hits: 2237
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Daily Strategy
ตลาดหุ้นวานนี้: SET ผันผวนอยู่ในกรอบแคบ ปิดปรับลง -3.18 จุด (-0.22%) ปิดที่ 1,444.66 จุด หลังจากที่ช่วงเช้าปรับขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อน นำโดยหุ้น PTT และ SCC แต่ช่วงบ่ายเกิดแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคาร ภาพตลาดโดยรวมซบเซาขาดปัจจัยใหม่หนุนนำ นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิอีก 2,739 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 และกลับมาขายในตลาดพันธบัตร 1,563 ล้านบาท และNet Short TFEX 3,632 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : น่าจะยัง Sideway อยู่ในกรอบ 1,430-1460 จุด และอาจซึมต่อเนื่องหากไม่มีปัจจัยใหม่มากระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเร็วเกินไปจะส่งผลลบต่อตลาดและบริษัทที่มีหนี้สินเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มปตท. ขณะเดียวกันแนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มแบงก์จะยังชะลอตัวต่อเนื่องจาก 2Q15 ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดแรงขายในหุ้นกลุ่มแบงก์ต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
กลยุทธ์วันนี้ : Selective BUY
Speculative BUY :
§ EA (ปรับขึ้นเข้าใกล้ราคาเป้าหมาย 23 บาท แนะนำ Sell into Strength)
Accumulative BUY : SCN EPG TPCH และ GUNKUL
กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มดี : พลังงานทดแทน ท่องเที่ยว Healthcare และสื่อสาร
High Div. Stock: ADVANC / TVO / INTUCH / BTS KSS report วันนี้: KTB (Neutral/เป้า 18 บาท), DELTA (Neutral/เป้า 81 บาท)
หุ้น/ข่าว/ประเด็นสำคัญวันนี้:-
(-) ตลาดแรงงานสหรัฐแข็งแกร่งต่อเนื่อง หนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้ : เมื่อคืนสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ลดลง 26,000 สู่ระดับ 255,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ทศวรรษ และต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 285,000 ราย และจะช่วยหนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้และจะยังส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง
(-) ตลาดหุ้นสหัฐ ยุโรป ปรับลง จากรายงานผลประกอบการ 2Q15 ที่ต่ำกว่าคาด :
(-) เงินบาทที่อ่อนค่าเร็วและมากกว่าสกุลอื่นภูมิภาค เป็นลบตลาดหุ้น: เรามองว่าค่าเงินบาทที่อ่อนค่าไม่ได้มาจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างเดียว แต่น่าจะเกิดจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวมากกว่าคาดจนเป็นเหตุให้ตลาดคาดว่าธปท. อาจมีการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งหนึ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งกนง. จะประชุมวันที่ 5 ส.ค นี้ เพราะนโยบายการคลังไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้
(-/+) ราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อคืนปิดลดลงอีก US$0.74/บาร์เรล ปิดที่ US$48.45/บาร์เรล แต่เชื่อว่าคงลงได้อีกไม่มาก และจะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มน้ำมันรอบใหม่ : ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบลงต่อวานนี้เกิดจากความกังวลปัญหา Oversupply หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเพิ่มมากกว่าคาด กลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสูงสุดในรอบ 3 ปี และอิหร่านอาจผลิตน้ำมันดิบและส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นเมื่อมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านในอีกไม่นานนี้ แต่อย่างไรก็ตามเรามองการปรับลงของราคาน้ำมันค่อนข้างจำกัด
(-) Regional Fund Flow วานนี้: Flow ไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันมียอดขายสุทธิใกล้เคียงกับวันก่อนที่ US$458 ล้าน โดย Flow ไหลออกจากตลาดหุ้นไต้หวันมากที่สุด US$184 ล้าน ตามด้วยเกาหลีใต้ US$172 ล้านหลังประกาศ GDP ไตรมาส 2/15 ขยายตัวเพียง 0.3% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 6 ปี ส่วนกลุ่ม TIP Flow ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยมากที่สุด US$79 ล้าน และขายสุทธิในตลาดหุ้นฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย US$ 12 ล้านและ US$10 ล้านตามลำดับ
(+) DELTA (Neutal/เป้า 81 บาท) – ไม่มีปัจจัยบวกใหม่
§ คาดกำไรสุทธิ 2Q15 ประมาณ 1,630 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 8%Q-Q และ 14%Y-Y จากผลของค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และมี SG&A ลดลง ขณะที่ GPM ยังทรงตัวที่ระดับ 28%
§ ยังแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 81 บาทเหลือ Upside เพียง 3.8% แต่บริษัทยังมีเงินปันผลประมาณ 3 บาทต่อหุ้นให้อัตราผลตอบแทน 3.5%
§ ไม่มีปัจจัยบวกใหม่ เราแนะนำ Switch to KCE ซึ่งมีปัจจัยบวกจากการขยายกำลังการผลิตหนุนกำไรสุทธิปีหน้าโตโดดเด่น