- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 July 2015 17:23
- Hits: 2202
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -119.12 จุด หรือ -0.67%, NASDAQ -25.36 จุด หรือ -
0.49% และ S&P500 -12.00 จุด หรือ -0.57% โดยตลาดหุ้นสหรัฐ ถูกกดดันจาก ผลประกอบการที่แย่กว่าคาดของ บ. จดทะเบียน นำโดยแคทเทอร์พิลลาร์ , อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และแมคโดนัลด์ อีกทั้งนักลงทุนยังกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ จากตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ที่เหลือเพียง 255,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ย. 1973
.... FTSE -12.33 จุด หรือ -0.18%, CAC+4.17 จุด หรือ +0.08% และ DAX -8.56 จุด หรือ -0.07% โดยตลาดหุ้นยุโรปถูกฉุดรั้งจากการร่วงลงของหุ้นพลังงาน และผลประกอบการที่ย่ำแย่ ของยูนิลีเวอร์ ผู้นำด้านสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งเปิดเผยว่า กำไร 1H15 -18% YoY
..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ย. -74 เซนต์ ปิดที่ 48.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สิ้นเดือน มี.ค. จากการความกังวลทางด้านอุปทานที่ยังปกคลุมตลาด
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ส.ค. +2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ระดับ 1,094.10 ดอลลาร์/ออนซ์ จากดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ –2.7 พันล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -38.6
พันล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36.6 พันล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : แกว่งแคบ? คาดนักลงทุนยังรีรอเข้าลงทุนทั้ง จากปัจจัยในประเทศ ที่มีกระแสข่าวการปรับ ครม. นอกจากนี้นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการกลุ่ม Real Sector ที่จะออกมาหลังจากนี้ รวมถึงต้องลุ้นถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเพื่อรับมือกับภัยแล้ง ขณะที่ราคาน้ำมันที่ดิ่งลงเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเร็วเกินไป อาจเป็นปัจจัยเร่งให้นักลงทุนต่างชาติตัดสินใจปรับพอร์ตเร็วขึ้น นอกเหนือจากปัจจัยจากขึ้นดอกเบี้นสหรัฐที่กดดันอยู่แล้ว
.....ทางด้าน Fund Flow ยังมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง จากความกังวลถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วง 2H/58
….ทางด้านประเด็นต่างประเทศ ยังคงต้องติดตามความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี) ภายในปีนี้ หลังประธานเฟดส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจน ขณะที่การประเด็นเรื่องกรีซเริ่มมีน้ำหนักต่อตลาดลดลง ล่าอนุมัติมาตรการปฏิรูป ตามข้อตกลงที่มีกับกลุ่มเจ้าหนี้
...และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC และ BCP คาดผลการดำเนินงาน 2Q/58 จะออกมาโดดเด่น เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, SEAFCO และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 34.67 – 34.88 คาดส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO, VNG เป็นต้น (5) กลุ่มท่องเที่ยวยังคงได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หุ้นที่ได้รับผลดี เช่น CENTEL
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.05 มาอยู่ที่ 2.28% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.52 มาอยู่ที่ 12.64
หุ้นแนะนำ : AAV
ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้
24/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น - กค. (2) ยอดขายบ้านใหม่ - มิย.
นักวิเคราะห์ : พลเทพ วงษ์นาค 02-684-8796
