- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 July 2015 17:17
- Hits: 1101
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET จะยังผันผวน แต่ซื้อแล้วน่าเน้นถือ และยังซื้อลบได้!!
กลยุทธ์ : ถึงแม้ว่า SET อาจจะยังแกว่งตัวผันผวนอยู่ แต่ FSS คาดว่าดัชนีมีสิทธิที่จะอยู่ในลักษณะแกว่งทรงตัวเพื่อรอจังหวะรีบาวด์ขึ้นในช่วงถัดไปได้ หลังจากช่วงสัปดาห์เศษที่ผ่านมา SET ปรับตัวลงมาลึกพอควรแล้ว จึงคาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาช่วยหนุน ดังนั้นยังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อช่วงลบได้ทั้งเทรดดิ้งและถือลงทุนระยะกลาง จากนั้นแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอรอบรีบาวด์ขึ้นก่อนค่อยมองหาจังหวะขายทำกำไรตามรอบกันต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : VTE, SAMART, IVL(short)
แนวโน้ม : SET ยังอยู่ในช่วงแกว่งทรงตัวได้ดีพอควร ถึงแม้ว่าจะมีจังหวะแกว่งตัวย้อนลบจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังทรุดตัวลงอีก ขณะที่เช้านี้ยังได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มซบเซาของภาคธุรกิจในสหรัฐและยุโรปจากผลประกอบการบริษัทเอกชนยังออกมาแย่กว่าคาด รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ หลังจำนวนคนว่างงานของสหรัฐลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 42 ปี อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียไม่ได้ปรับตัวลดลงรุนแรงนัก ขณะที่ SET ลงมาเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำพอควรแล้วด้วย ทำให้ FSS คาดว่า SET น่าจะยังอยู่ในช่วงแกว่งทรงตัวแถวจุดต่ำครั้งใหม่ที่ 1432 จุดได้ต่อ และยังมีลุ้นแรงซื้อที่จะกลับเข้ามาช่วยผลักดันให้ดัชนีรีบาวด์ขึ้นต่อได้ในช่วงถัดไปถ้ายังไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆ ออกมากดดันเพิ่มเติม ดังนั้นช่วงนี้หลังจากเลือกหุ้นเข้าซื้อแล้ว เรายังแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอรอบรีบาวด์ก่อนดีกว่า
แนวรับ 1442-1440 , 1436-1432 จุด
แนวต้าน 1450-1455 , 1460-1462 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$454 และไหลออกจากทุกตลาดยกเว้นเวียดนาม ได้แก่ไต้หวัน US$184.4, เกาหลี US$100 ล& 63243;าน และกลุ่ม TIP รวม US$102ล้าน ส่วนเวียดนามไหลเข้า US$3.8 ล& 63243;าน ตลาดวิตกผลประกอบการที่ออกมาน่าผิดหวังจากตลาดหุ้นสหรัฐและภูมิภาค
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) PTTEP เราเชื่อว่าผลประกอบการผ่านจุดที่ต่ำสุดในปีนี้ไปแล้วใน 2Q15 (ส่วนใหญ่มาจากรายการพิเศษที่เป็นค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากคือขาดทุนจากการ Hedging น้ำมัน ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และขาดทุน Deferred tax จากการให้บริษัทลูกกู้) แนวโน้มใน 2H15 จะฟื้นตัวขึ้นเพราะไม่น่ามีรายการพิเศษกดดัน แต่ผลประกอบการยังขึ้นกับราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งไม่สดใสนัก แต่ราคาหุ้นปรับลงมาต่ำกว่า Book value ทำให้เรากลับมาแนะนำซื้อในลักษณะลงทุน ราคาเป้าหมาย 105 บาท
(+) KTB ที่ประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ให้ความสนใจกับ NPL ที่ KTB ควบคุมได้ดีเกินคาด ซึ่งเกิดจากการปรับเปลี่ยนวิธีการติดตามหนี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ประกอบกับการปล่อยสินเชื่อในช่วงที่ผ่านมาเข้มงวดขึ้น ซึ่งทำให้ New NPL ชะลอลง ส่วนกรณี SSI UK (SSI ถือ 100%) ยังไม่ถูกจัดชั้นเป็น NPL แต่ KTB ตั้งสำรองเต็มจำนวนแล้ว เราจึงคาดว่าการตั้งสำรองใน 2H15 จะลดลง 20% จากครึ่งปีแรก ส่วนเป้าสินเชื่อ KTB ตั้งเป้าเพิ่ม 5-7% ซึ่งใกล้เคียงที่เราคาด จึงยังคงประมาณการกำไรตามเดิม (-6.7% Y-Y) และคงราคาเป้าหมาย 20 บาท KTB เป็นหนึ่งในไม่กี่ธนาคารที่เราเบาใจเรื่อง NPL จึงแนะนำซื้อ
(+) ERW ผลประกอบการอยู่ในทิศทางขาขึ้น แม้จะคาดขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ 20 ล้านบาทใน 2Q15 แต่เพราะเป็น low season และดีกว่าไตรมาส 2 ของปีก่อนๆที่ขาดทุนเป็นหลักหลายร้อยล้านบาท และมีแนวโน้มที่ 3Q15 จะพลิกเป็นกำไรเป็นครั้งแรกในช่วง low season เรายังคงคาดว่าปีนี้ ERW จะ turnaround เป็นกำไร จากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 170 ล้านบาท ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.70 บาท
(+) BTS ประเด็นการลงทุนมีเพียงเงินปันผล 0.30 บาท/หุ้นที่ XD 31 ก.ค. นี้และ 0.67 บาท/หุ้นปี 2016 (สิ้นสุด มี.ค. 2016) ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่การันตีเงินปันผล หลังจากนั้นจะจ่ายตามผลประกอบการ ซึ่งคาด Yield เหลือเพียง 1% ต่อปี เพราะรายได้หลักใน 2 ปีข้างหน้าจะมาจากค่าจ้างบริหารเดินรถไฟฟ้า (รายได้ค่าตั๋วกลายเป็นของ BTSGIF แล้ว) ซึ่งมีจำนวนไม่มาก ทำให้กำไรปกติโตเพียง 2-3% Y-Y ก่อนจะโตกระโดดอีกครั้งในปี 2018 เมื่อคอนโด The Line สร้างเสร็จพร้อมโอน และมีรายได้จากงานเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเข้มส่วนใต้ รวมถึงเริ่มรับรู้กำไรมากขึ้นจากการถือหุ้น 35.64% ใน U เราประเมินราคาเป้าหมายใหม่ได้ 10.50 บาท แนะนำถือรับปันผลเฉพาะงวดนี้และปี 2016
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอีกกว่า 100 จุดและร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันหลังผิดหวังกับผลประกอบการของหลายๆบริษัทที่ออกมาแย่กว่าคาด
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบเช่นกันหลังบริษัทขาดใหญ่หลายแห่งประกาศกำไรออกมาย่ำแย่
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในลบเช่นกันตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น ขณะที่ประเด็นที่ต้องจับตาคือตัวเลข Flash Manufacturing PMI จีนเช้านี้
(-) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่องและมีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 35.00-35.50
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 48.45 เหรียญ/บาร์เรล ร่วงลง 0.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังนักลงทุนยังกังวลต่อภาวะ Oversupply ขณะที่ Demand คาดว่าจะชะลอตัว
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 1,094.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับขึ้น 2.60 เหรียญ/ออนซ์ โดยเริ่มมีจังหวะรีบาวด์ได้บ้างหลังจากร่วงลงติดต่อกัน 10 วันก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ตามราคาทองคำเริ่มปรับตัวลงอีกครั้งหลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯปรับตัวลดลงเกินคาด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24 ก.ค. - สหรัฐ:ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
27 ก.ค. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (มิ.ย.), ดุลการค้า (มิ.ย.)
28 ก.ค. - สหรัฐ:S&P/CaseShiller Index (พ.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
28-29 ก.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
30 ก.ค. - สหรัฐ: 2Q15 GDP (คาดการณ์ครั้งที่ 1)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ (ก.ค.)
31 ก.ค. - ไทย:ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย.
- ไต้หวัน: 2Q15 GDP
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
1 ส.ค. - จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI(ก.ค.)
3 ส.ค. - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
- สหรัฐ:Personal Income, Personal Spending (มิ.ย.)
4 ส.ค. - ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA)ประชุม
- อินเดีย: ธนาคารกลาง (RBI)ประชุม
5 ส.ค. - ไทย: กนง.ประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research