- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 July 2015 16:47
- Hits: 1823
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,439-1,450 จุด…: SET ฟื้นตัวปิด +0.03% ที่ 1,447.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 2.3 พันล้านบาท...SET มีแนวโน้มถูกกดดันจากกลุ่มพลังงานต่อเนื่องหลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงทะลุแนวต้านที่ 34.4 บาท เป็นความเสี่ยงต่อแรงขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติเพื่อล็อกกำไรจากค่าเงิน ประเมินกรอบวันนี้ที่ 1,439-1,450 จุด
…กลยุทธ์ “Selective” ยังใช้ได้ดี แนะนำ “ซื้อ” EA กำไร 2Q15 เติบโต 96% y-y ด้วย Upside 50%: แนะนำ “ซื้อ” EA ราคาหุ้นปรับลดลงเป็นโอกาสซื้อหุ้นที่กำไรเติบโตกว่า 90% ในปี 2015-16 ด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 216MW (ได้ PPA แล้ว) ในปี 2016 จากปัจจุบัน 180MW ในราคา Discount จากพื้นฐานที่ 30 บาท อยู่ 50% (ดู Tactical Portfolio เพิ่ม) ขณะที่กลยุทธ์หลัก
แนะนำ “Selective” กลุ่มสื่อสาร อย่าง INTUCH ADVANC TRUEIF และรับเหมาฯ CK STEC SEAFCO ต่อไป รวมไปถึง “ซื้อ” KTB หลังผลการดำเนินงาน 2Q15 ดีกว่าคาดการณ์ที่ 8.4 พันล้านบาท +11% y-y และ +7% q-q พร้อม Valuation ในเชิง PE และ PBV ต่ำกว่าธนาคารอื่นในกลุ่ม และ Dividend Yield 5-5.4% ในปี 2015-16
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ BDMS, BLA, CK, INTUCH, EA, SAMART, SEAFCO, SIRI, STEC และ TTCL เป็นหุ้นสำหรับลงทุนระยะ 1-3 เดือน
EA…”ซื้อ” พื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง กำไรเติบโต 90% ในปี 2015-16 ขณะที่ PE ลดลงต่ำกว่า 10x ภายใน 2 ปีข้างหน้า: การปรับลดลงของ EA เป็นโอกาสในการ “ซื้อ” ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 30.0 บาท จาก 1) กำไร 2Q15 เติบโตแกร่งเป็น 800 ล้านบาท หรือ +38% q-q และ +96% y-y และคงคาดการณ์กำไรทั้งปีที่ 3.05 พันล้านบาท หรือ +89.4% y-y และด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในปี 2016 (การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทติย์ที่พิษณุโล 90MW และพลังงานลาม Hadd 126MW เป็นไปตามแผน) คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.9 พันล้าน หรือ +95% y-y 2) ผลการดำเนินงานมีความมั่นคงสูง และ PE ลดลงอย่างรวดเร็วจาก 24x ปีนี้ เป็น 12x ในปี 2016 และ 9.5x ในปี 2017 พร้อม Dividend Yield ที่เพิ่มขึ้นจาก 1.2% ปีนี้เป็น 2.4-3.7% ในปี 2016-17 3) มี Upside จากการลงทุนในอนาคต ด้วย D/E ที่ค่อยๆ ลดลงต่อเนื่องจาก 2.2x ปีนี้ เป็น 1.9-1.5x ในปี 2016-17 ขณะที่ทางเทคนิคเกิดสัญญาณ “ฟื้นตัว” Tweezer Bottom เป้าหมายระยะสั้น 21 บาท
Technical
ระยะสั้นอาจมีรีบาวด์ ขณะที่ความเสี่ยงยังคงอยู่:
SET พยายามตั้งหลักขึ้นมาดี ถ้าสามารถผ่าน 1,450 และ 1,456 จุดได้จะเริ่มเป็นสัญญาณ
ที่ดีขึ้น อาจมีจังหวะรีบาวด์ไปทดสอบ 1,467-70 จุดแต่หากหลุด 1,439 จุดอาจมีความเสี่ยงแกว่งลงต่ออีกครั้ง แนะนำเพียง Selective Buy พร้อม Stoploss
หุ้นแนะนำ:
KTB เข้าซื้อ แนวต้านแรก 18.00 บาท
ADVANC เข้าซื้อที่ 248 หรือเมื่อทะลุ 253 แบ่งทำกำไรที่ 263 บาท
Sell, Take Profit, Stop Loss:
CPF Short เล็งลงไปซื้อคืนที่ 19.90 บาท
รายละเอียดติดตามเพิ่มเติมได้ในรายงาน The Technical Story
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายการปรับลดลงไปที่ 925 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 945 จุด (ราคาปัจจุบัน Discount จากราคาทางทฤษฎี -1.6% ทำให้การปรับสูงขึ้นทะลุ 945 จุด ต้องปิดสถานะ Short ทันที)
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา GFQ15 ด้วยเป้าหมายการปรับลดลงที่ 18,000 หรือถัดไปที่ 17,800 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 18,200 บาท ล่าสุดราคาทองคำ COMEX ปรับลดลง US$12/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น แต่เงินบาทที่อ่อนค่าทำให้ราคาทองคำในประเทศลดลงจำกัด
Oil Futures: แนะนำ ”Trading” ในกรอบ 1,900-2,050 สัญญา BRQ15 รอยืนยันทิศทางไปก่อน แม้น้ำมันดิบ Brent ลดลง US$1.04 แต่การอ่อนค่าของเงินบาททำให้น้ำมันในประเทศเคลื่อนไหวทรงตัว
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
วิชนันท์ ธรรมบำรุง