- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 July 2015 16:09
- Hits: 1777
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -68.25, NASDAQ -36.35, S&P -5.06, FTSE -101.73, CAC -24.00 และ DAX -84.13 ภายใต้ปัจจัยกดดันจากผลประกอบการ – 2Q/58 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่ลดลง โดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจาก Apple และ Microsoft เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
.....ส่วนหุ้นยุโรปปรับตัวลง จากผลการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีที่น่าผิดหวัง ประกอบกับหุ้นในกลุ่มทรัพยากรและเหมืองแร่ลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากความอ่อนแอของราคาโลหะและความกังวลเรื่องอุปสงค์ของจีน, ขณะที่รัฐสภากรีซได้มีมติรับมาตรการปฏิรูปธนาคารและกระบวนการยุติธรรม ตามข้อตกลงที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรี ทำไว้กับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้ เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน
…...ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ย. -US$1.67 อยู่ที่ US$49.19 ต่อบาร์เรล จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น และรายงานสต็อกน้ำมันดิบล่าสุดของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น
......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ส.ค. -US$12.0 อยู่ที่ US$1,091.5 ต่อออนซ์ โดยลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 10 ภายใต้การคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งคาดว่าอาจเกิดขึ้นในรอบการประชุมก.ย. นี้ (16 – 17/9/58)
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ –2,303 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -35,820 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : ทิศทางยังเป็นขาลง? คาดยังมีโอกาสปรับลง จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย แต่อาจเป็นไปในกรอบจำกัด หลังดัชนีบ้านเราปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ โดยมีปัจจัยเพิ่มเติมจากผลกระทบภัยแล้ง ทำให้คาดมีความเป็นไปได้ที่หลายๆ หน่วยงานปรับลดคาดการณ์ GDP ลงอีกครั้ง จากล่าสุดที่ประมาณ 3.0% อย่างไรก็ตามแนะติดตามการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล โดยเน้นกลุ่มที่มีรายได้น้อย เพื่อเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ (C) นอกจากการลงทุนผ่านโครงการต่างๆ ของภาครัฐ (G)
....ทางด้าน Fund Flow ยังมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง ขณะที่อยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงาน – 2Q/58 ซึ่งเริ่มจากธนาคาร ที่คาดอยู่ในความคาดหมายของตลาดส่วนใหญ่ โดยเฉพาะประเด็นหนี้ NPL’s ซึ่งยังคงมีความกังวลถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วง 2H/58 จึงยังไม่เหมาะสมที่
จะเข้าเก็งกำไร
….ทางด้านประเด็นต่างประเทศ คาดภาพรวมตลาดถูกกดดันเพิ่มขึ้นจากความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี) ภายในปีนี้ หลังประธานเฟดส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจน คาดทำให้เงินสหรัฐฯ ยังมีทิศทางแข็งค่าขึ้น ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงจะส่งผลลบต่อ PTT และ PTTEP
...และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC และ BCP คาดผลการดำเนินงาน 2Q/58 จะออกมาโดดเด่น เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, SEAFCO และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 34.67 – 34.82 คาดส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO, VNG เป็นต้น (5) กลุ่มท่องเที่ยวยังคงได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หุ้นที่ได้รับผลดี เช่น CENTEL และ (6) กลุ่มเดินเรือ เช่น TTA และ PSL จาก Baltic Dry Index – BADI ที่เพิ่มต่อเนื่องจาก 788 เมื่อต้นเดือนกค. อยู่ที่ 1,118 (ล่าสุดเช้านี้)
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.32% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.10 อยู่ที่ 12.12
หุ้นแนะนำ : CK
ประเด็นที่ต้องติดตาม (23-24 กค.’58)
23/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ - มิย. (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
24/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น - กค. (2) ยอดขายบ้านใหม่ - มิย.
นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8788