- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 July 2015 17:23
- Hits: 1512
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แนะเลือกหุ้นทยอยซื้อลบ เพื่อถือเพื่อรอจังหวะขายช่วงบวก!!
กลยุทธ์ : SET ไหลลงต่ำกว่าจุดต่ำเดิมที่ 1460 จุดแล้ว และเป็นการปรับลงแรงในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากปรับตัวลงมาช่วงหนึ่งแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ FSS คาดว่า SET จะเริ่มมีจังหวะแกว่งทรงตัวได้อีกครั้ง ก่อนลุ้นโอกาสดีดกลับขึ้นไปด้านบวกได้ต่อไป ดังนั้นหลังจากเราแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งลุ้นรีบาวด์ และสามารถทยอยซื้อสะสมสำหรับถือลงทุนระยะกลางไปแล้ว ถัดจากนี้ก็เน้นถือเพื่อรอรอบรีบาวด์ขึ้นก่อนค่อยหาจังหวะทำกำไรได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : QH, ERW, THAI(buy back)
แนวโน้ม : เช้านี้ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นต่างประเทศจะปรับตัวลงกันพอควร เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดปรับตัวลงแรง จากการที่นักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการของบริษัทเอกชนทั้งในสหรัฐและยุโรปที่ออกมาอ่อนแอ แต่เนื่องจากเมื่อวานนี้ SET ปรับตัวลงแรงไปก่อนหน้าสวนทางตลาดหุ้นเพื่อนบ้านพอควรแล้ว ทำให้ FSS คาดว่ากรอบการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยน่าจะเริ่มจำกัดมากขึ้น โดยคาดว่าส่วนหนึ่งของแรงขายวานนี้มาจากข่าวการเลื่อนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งเรามองว่าจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มก่อสร้างไม่มากนัก เพราะยังมีงานในมือเพียงพอ ส่วนแรงกดดันกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจบ้านเราอาจมีบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้เศรษฐกิจไทยอ่อนแอลงรุนแรงมากไปกว่าเดิม ส่วนความวิตกเกี่ยวกับการพบผู้ติดเชื้อ MERS ก็น่าจะผ่อนคลายลงไป หลังผลสรุปออกมายังไม่มีผู้ติดเชื้อในไทย ทำให้เราคาดว่า SET ยังมีลุ้นโอกาสรีบาวด์กลับในเร็วๆ นี้ได้ ดังนั้นหลังจากเลือกหุ้นซื้อแล้วน่าจะยังเน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อน
แนวรับ 1445-1442 , 1438-1430 จุด
แนวต้าน 1452-1455 , 1460-1465 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเบาบาง US$29 ล& 63243;าน ส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$187ล้าน แต่ไหลออกเกาหลี US$167 ล& 63243;าน และไทย US$10 ล& 63243;าน ตามลำดับ แนวโน้มกระแสเงินทุนยังไหลเข้าภูมิภาคแต่น่าจะเบาบาง สัปดาห์นี้อยู่ในช่วง Earnings Season ของสหรัฐ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าอ่อนแอน่าจะถ่วงการลงทุนในตลาดหุ้น
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) หมดหวังกับส่งออก ยอดส่งออกรถเดือน มิ.ย. ที่ลดลงถึง 14% M-M และ 26% Y-Y ทั้งที่ไม่ใช่ low season ทำให้ความหวังที่การส่งออกของไทยในช่วง 2H15 จะฟื้น ดูเลือนลางเพราะรถยนต์และชิ้นส่วนเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้เข้าประเทศมากที่สุดเป็นอันดับ 1 (12% ของสินค้าส่งออกทั้งหมด) แนวโน้มส่งออกของไทยปีนี้น่าจะหดตัวต่อเป็นปีที่ 3 อีก 3-4% กลุ่มยานยนต์ยังไม่น่าสนใจและราคาหุ้นมีโอกาส underperform ตลาด แต่ SAT ถ้าอ่อนตัวกว่านี้จะเป็นจังหวะซื้อ เพราะยอดขายชิ้นส่วนใหม่ให้คูโบต้าจะผลักดันกำไรตั้งแต่ 3Q15 จนถึงปีหน้าให้โตสวนกลุ่มฯ ราคาปัจจุบันเป็น PE เพียง 9 เท่า ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 21 บาท
(-) ยังไม่สิ้นสุดการปรับลด GDP และ EPS นอกจากส่งออกที่หมดหวัง แผนเมกกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐก็พลาดเป้า จาก 7.3 แสนล้านบาทเหลือ 9.5 หมื่นล้านบาทในปีนี้โดยเหลือเพียง 3 โครงการคือรถไฟทางคู่ 3 เส้น มอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด และรถไฟไทย-จีน (กทม.-แก่งคอย) ล่าสุดรัฐตั้งเป้าประมูลมอเตอร์เวย์ ส.ค. นี้ ต้องดูว่าจะเลื่อนอีกหรือไม่ ล่าสุดเราปรับ EPS growth ของตลาดปีนี้เหลือ +21% จากเดิม +28% และอาจปรับลงอีก (ต่ำกว่า Consensus ที่คาด +27% ซึ่งปรับลงจาก +35%) หากอิง PE 16 เท่า ดัชนีเหมาะสมจะอยู่ที่ 1,480 จุด อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่ปรับลงมาเกือบ 3% ภายใน 6 วันทำให้มีกลุ่มที่น่าสะสมเพื่อลงทุนเช่นกลุ่มสื่อสาร ไฟแนนซ์ ท่องเที่ยว โรงพยาบาล
(-) NPL ของ BBL จะทำให้กลุ่มธนาคารถ่วงตลาดเพิ่มขึ้น กำไร 2Q15 ของธนาคารทั้ง 9 แห่ง ลดลง 2% ทั้ง Q-Q, Y-Y คิดเป็น 53% ของกำไรทั้งปี ใกล้เคียงคาดยกเว้น KTB ที่ดีกว่าคาดมากสุด ส่วน NPL ที่เพิ่มขึ้นใน 2Q15 ไม่ต่างจากที่เราคาดนัก ยกเว้น BBL ที่ NPL เพิ่มถึง 16% Q-Q หรือ 7.7 พันล้านบาท มาจากลูกค้า SME และ Corporate อย่างละครึ่ง เซอร์ไพร้ส์เราและตลาดมาก ซึ่งไม่ใช่สัญญาณที่ดีนักเพราะเริ่มเห็น NPL ลามมาที่ Corporate ดังนั้นแม้กลุ่มธนาคารจะมี PBV ถูกเพียง 1.3 เท่า และราคาหุ้นส่วนใหญ่มี upside เฉลี่ย 18% เมื่อเทียบกับเป้าหมายพื้นฐานที่เราปรับลงแล้ว แต่เชื่อว่ากลุ่มธนาคารจะยังถ่วงตลาดอยู่
(-) BBL กำไรน่าผิดหวัง -14.6% Q-Q, -11% Y-Y ต่ำกว่าเราและตลาดคาด เพราะ NIM เหลือเพียง 1.9% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ NPL พุ่งเกินคาด และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก็เพิ่มสูงขึ้นมาก เราปรับกำไรปีนี้ลง 4% กลายเป็นหดตัว 10% Y-Y แย่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ เพราะแนวโน้ม NIM ที่จะแย่ลงใน 2H15 ปรับเป้าหมายลงเหลือ 182 บาทจากเดิม 183 บาท แนะนำเพียงถือ
(+) KTB กำไรดีกว่าคาด +7.4% Q-Q, +10.9% Y-Y ดีกว่าเราและตลาดคาดทั้งจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มได้ดี ทำให้ NIM เพิ่มเป็น 3.1% สวนทางธนาคารอื่นที่ปรับลง และ NPL ลดลงโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้ารายย่อย เราคงกำไรปีนี้ที่คาดหดตัว 6.7% Y-Y คงเป้าหมาย 20 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนภาพ NPL ที่เลวร้ายเกินไป คิดว่าน่าซื้อลงทุน
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ และการเทขายทำกำไรในดัชนี NASDAQ ที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในช่วงก่อนหน้า
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเช่นกัน เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐและยุโรปจะยังคงอ่อนแอ
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนลบตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น จากความกังของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และแรงกดดันของราคา Commodity ที่ลดลงต่อเนื่อง
(0) ค่าเงินบาทล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.40-34.45 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 50.36 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.21 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนจับตาดูการรายงานผลสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของ EIA ในวันนี้ หลังนักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงราว 2 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 1,103.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.3 เหรียญ/ออนซ์ เป็นผลมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีทิศทางแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22-ก.ค. - สหรัฐ:ยอดขายบ้านเก่า (มิ.ย.)
23-ก.ค. - ไทย: DAIIเริ่มเทรด (ราคา IPO 4 บาท)
- เกาหลีใต้: 2Q15 GDP
- สหรัฐ:ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
24-ก.ค. - สหรัฐ:ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
27-ก.ค. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (มิ.ย.), ดุลการค้า (มิ.ย.)
28-ก.ค. - สหรัฐ:S&P/CaseShiller Index (พ.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
28-29 ก.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
30-ก.ค. - สหรัฐ: 2Q15 GDP (คาดการณ์ครั้งที่ 1)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ (ก.ค.)
31-ก.ค. - ไทย:ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย.
- ไต้หวัน: 2Q15 GDP
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
1-ส.ค. - จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI(ก.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research