- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 July 2015 16:30
- Hits: 1121
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET ปรับตัวลงมาพอควรแล้วเตรียมลุ้นรีบาวด์ได้ น่าทยอยซื้อ!!
กลยุทธ์ : หลังจาก SET ปรับตัวย้อนลงต่อเนื่องมาพอควรแล้ว และเข้าใกล้จุดต่ำสุดเดิมบริเวณ 1460 จุด ซึ่งครั้งที่แล้วมีแรงซื้อหนุนให้ดัชนีรีบาวด์กลับขึ้นได้ ทำให้ FSS คาดว่าครั้งนี้ถ้ายังไม่ได้มีปัจจัยลบเพิ่มเติม SET ก็มีแนวโน้มที่จะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาเช่นกัน ดังนั้นช่วงนี้ตลาดอ่อนตัวจึงสามารถเลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งลุ้นรีบาวด์ได้อีกครั้ง และสามารถเริ่มทยอยซื้อสะสมสำหรับถือลงทุนระยะกลางได้ด้วย
หุ้นเด่นทางเทคนิค : FVC, THRE, MINT(buy back)
แนวโน้ม : SET เริ่มปรับตัวย้อนลงมาหาจุดต่ำสุดของรอบแถว 1460 จุดอีกครั้งตามคาด หลังจากรอบก่อนหน้าดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นตอบรับข่าวบวกจากการรอดพ้นการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซไปแล้ว ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจไทยยังคงกดดันความมั่นใจของนักลงทุนอยู่ อย่างไรก็ตามถ้าไม่ได้มีปัจจัยลบใหม่ๆ ออกมากดดันอีก FSS ก็คาดว่าการแกว่งตัวลงของตลาดยังมีจังหวะรีบาวด์กลับขึ้นเป็นระยะให้เทรดดิ้งตามรอบได้ โดยเช้านี้การปิดเป็นบวกของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ยังช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียมีจังหวะรีบาวด์ขึ้นไปแกว่งตัวด้านบวกอีกครั้ง ซึ่งน่าจะพอช่วยหนุนให้ SET เริ่มแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นและมีลุ้นโอกาสกลับไปแกว่งตัวด้านบวกให้เห็นได้ในเร็วๆ นี้ หลังจากผลประกอบการหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ไม่ได้เลวร้ายนัก รวมทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกก็เริ่มทรงตัวได้บ้าง แต่ถ้าเป็นการซื้อเพื่อเทรดดิ้งช่วงสั้น ก็ควรมองหาจังหวะขายทำกำไรช่วงบวกบ้าง เพราะเราคาดว่า SET ยังมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนอยู่ก่อนได้
แนวรับ 1465-1462 , 1458-1450 จุด
แนวต้าน 1472-1474 , 1476-1478 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข& 63243;าภูมิภาค US$140 ล& 63243;าน เป็นการไหลเข้าไต้หวันมากที่สุด US$143 ล& 63243;าน เกาหลี US$15.8 ล& 63243;าน และเวียดนาม US$0.7 ล& 63243;าน แต่ไหลออกจากฟิลิปปินส์และไทย US$18.7 ล& 63243;าน และ US$0.5 ล& 63243;าน ตามลำดับ แนวโน้มกระแสเงินทุนเริ่มกลับมาไหลเข้าภูมิภาคหลังกรีซได้เงินกู้ซึ่งกรีซชำระหนี้ให้ ECB และ IMF ได้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่ากดดัน Commodity หลังกรีซคืนหนี้ 6,250 ล้านยูโรให้ ECB, IMF และธนาคารกลางของกรีซแล้ว ทั่วโลกกลับมาให้ความสนใจที่การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า กดดันราคาน้ำมัน ทองคำ สินค้าเกษตร และโภคภัณฑ์อื่นๆ
(-) DTAC กำไรต่ำลงอย่างน่าตกใจ หากไม่รวมขาดทุนจาก Forex กำไรปกติทำได้ 1,571 ล้านบาท -40% Q-Q, -53% Y-Y ต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปีจากการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่งต่อเนื่อง และต้นทุนค่า Regulatory เพิ่มขึ้น เราปรับกำไรปีนี้ลงอีก 21% เป็นหดตัว 24% Y-Y ลดเป้าหมายเหลือ 78 บาท จาก 84 บาท ยังคงแนะนำขาย
(0) กำไรของ 6 ธนาคารที่ประกาศแล้วแย่ตามคาด -1% Q-Q, -6% Y-Y ถูกกดดันจากคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้การตั้งสำรองฯสูงขึ้น (แต่ไม่ได้สูงกว่าคาด) แต่ NIM ที่อยู่ในทิศทางขาลงจากการลดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารในช่วงปลาย พ.ค. ยังเห็นผลไม่ชัดในไตรมาสนี้แต่จะส่งผลในไตรมาสหน้า ขณะที่การตั้งสำรองมีแต่จะทรงถึงเพิ่ม ทำให้กำไรใน 3Q15 มีทิศทางแย่ลง แต่ทั้งหมดนี้อยู่ในคาดการณ์ของเราและสะท้อนในราคาหุ้นแล้ว แต่ถึงแม้ราคาหุ้นจะถูก (และคำแนะนำเป็นซื้อ) แต่ภาพเศรษฐกิจมหภาคที่ยังกดดัน ทำให้ TISCO ยังคงเป็นธนาคารเดียวที่เราเห็นปลอดภัยที่สุดในยามนี้
(+) SCB กำไรหลักแข็งแกร่งแม้ตั้งสำรองสูง โดยกำไร +0.5% Q-Q, -10% Y-Y ใกล้เคียงคาด แม้จะตั้งสำรองเพิ่มสูงขึ้นมาก +42% Q-Q, +59% Y-Y แต่กำไรหลักแข็งแกร่งมากโดยเฉพาะรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย การตั้งสำรองน่าจะสูงกว่าปกติในไตรมาสถัดไปทำให้แนวโน้มกำไรใน 2H15 ชะลอ ยังคงราคาเป้าหมาย 187 บาท
(+) TCAP กำไรดีกว่าคาด +4.6% Q-Q, +12.8% Y-Y จากกำไรจากเงินลงทุนในตราสารหนี้และต้นทุนการเงินลดลง แม้ NPL จะลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 แต่ NPL Ratio ที่สูงกว่ากลุ่มทำให้ยังต้องกันเงินสำรองสูงกว่าปกติต่อไป ความน่าสนใจของ TCAP อยู่ที่ PE ถูก 7.4 เท่า และคาด Dividend yield 5% ราคาเป้าหมาย 40 บาท
(+) THANI กำไร 2Q15 น่าประทับใจตามคาด โดย +9.7% Q-Q, +14% Y-Y จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มเป็นขาขึ้นโดย NIM +0.2% Q-Q เป็น 4.76% ขณะเดียวกันรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรงวด 1H15 ทรงตัว Y-Y และคิดเป็น 50% ของกำไรสุทธิทั้งปีที่เราคาด +3% Y-Y จึงยังคงราคาเป้าหมาย 3.90 บาท แนะนำซื้อ
(-) VGI เราคาดกำไรปกติ 1Q16 (เม.ย.-มิ.ย. 15) เพิ่ม 9% Q-Q จากมาร์จิ้นที่ดีขึ้นหลังลูกค้าที่ให้อัตรากำไรต่ำเช่น (BIGC, Tesco) หายไป แต่คาดกำไรยังลดลง 3% Y-Y ถ้ากำไรเป็นไปตามคาด จะคิดเป็นเพียง 22% ของประมาณการทั้งปี ขณะที่ตลาดโฆษณายังน่าจะฟื้นช้า ราคาหุ้นขึ้นมาเกินเป้าของเราที่ 4.40 บาท ลดคำแนะนำเป็นขาย จากเดิมถือ
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้เล็กน้อยโดย Nasdaq ยังปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องขานรับผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่งรวมถึงกรีซที่ชำระเงินแก่เจ้าหนี้แล้ว
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้หลังกรีซเริ่มชำระหนี้ แก่ ECB และ IMF แล้ววานนี้
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้เช่นกันตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตาดูราคา Commodity ที่ลดลง
(-) ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.39-34.47 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 50.15 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 0.74 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีข้อมูลว่าการส่งออกน้ำมันจากซาอุฯปรับตัวลดลงถึงแม้ว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งสร้างความกังวลด้านอุปสงค์ของน้ำมัน ขณะที่อุปทานยังล้นตลาด
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 1,106.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 25.10 เหรียญ/ออนซ์ โดยปรับตัวลงติดต่อกัน 8 วันทำการจากประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในปีนี้รวมถึงแรงขายทองคำจากตลาดจีน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21-ก.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (มิ.ย.)
22 ก.ค. - สหรัฐ:ยอดขายบ้านเก่า (มิ.ย.)
23-ก.ค. - ไทย: DAIIเริ่มเทรด (ราคา IPO 4 บาท)
- เกาหลีใต้: 2Q15 GDP
- สหรัฐ:ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
24-ก.ค. - สหรัฐ:ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
27-ก.ค. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (มิ.ย.), ดุลการค้า (มิ.ย.)
28-ก.ค. - สหรัฐ:S&P/CaseShiller Index (พ.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
28-29 ก.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
30-ก.ค. - สหรัฐ: 2Q15 GDP (คาดการณ์ครั้งที่ 1)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ (ก.ค.)
31-ก.ค. - ไทย:ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย.
- ไต้หวัน: 2Q15 GDP
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research