- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 July 2015 16:29
- Hits: 1066
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Slow Life
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงอ่อนแอ เพราะขาดทั้งปัจจัยบวก / ลบ ใหม่ กำหนดทิศทางการลงทุนทั่วโลก อีกทั้งค่าเงินบาทอ่อนค่าลงแรงต่อเนื่องอีก 10-12 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ยิ่งกดดันจิตวิทยาการลงทุน เกิดแรงขายใน PTT / ADVANC/ AOT กดดันให้ SET INDEX ปิดลบ 12.60 จุด มาอยู่ที่ 1,466.71 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 25,247 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางวันที่ 7 ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเพียง 16 ล้านบาท ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เพียง 156 ล้านบาท แม้คงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 เร่งเป็น 4,842 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กรีซชำระหนี้ ECB ที่ครบกำหนดตามตารางเวลาการชำระหนี้วานนี้
SCB รายงานงบ 2Q58 ออกมาดีกว่าคาด แต่ DTAC กลับหดตัวลงแรงกว่าคาด
ติดตามการประชุมครม.วันนี้ อาจมีการพิจารณาแผนการลงทุนขนาดใหญ่เพิ่มเติม
ค่าเงินบาทอ่อนค่า 4.45% YTD ถึงวานนี้ อ่อนสุดเป็นลำดับที่ 4 ในเอเชียเกิดใหม่
มุมมองต่อตลาด
เราคงน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น "กลาง" วันที่ 12 พร้อมภาพ SET INDEX ที่อ่อนแรง สะท้อนจากมูลค่าการซื้อขายที่ลดลงเหลือเพียง 2.5 หมื่นล้านบาท/วัน +/- นับตั้งแต่สัปดาห์ก่อนหน้า แม้ว่าหุ้นหลักในกลุ่มธนาคารจะออกมาดีกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศกลับปรับตัวลดลงมากยิ่งขึ้น กลายเป็นจุดที่ทำให้บรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้ขาดความน่าสนใจ ทั้งๆ ที่ปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ณ ปัจจุบัน เป็นกลาง ปัจจัยลบทั้งความอ่อนแอทางด้านเศรษฐกิจในปีนี้ที่มีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่า 3.0% หรือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปีนี้ นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ต่างรับรู้ไปมากแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่ามากถึง 4.45% YTD ปิดล่าสุดวานนี้ เท่ากับว่าตลาดหุ้นไทยได้ถูก Discount ไปถึง 4.45% ในรูปของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้ง SET INDEX ของ YTD ติดลบ 2.1% ย่อมทำให้ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปแล้วทั้งสิ้น 6.52% ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ หุ้นหลักหลายๆ ตัว โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร เราเชื่อว่าราคา ณ ปัจจุบัน อยู่ในโซนของการสะสมหุ้นเพื่อการลงทุนระยะกลางถึงยาว ซึ่งนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ อาจหาจังหวะของการกลับมาสะสมหุ้นหลักที่ผลการดำเนินงานยังคแข็งแกร่ง และ/หรือ ผลตอบแทนปันผลราว 3% ต่อปี น่าจะเป็นเป้าหมายของการสะสมของนักลงทุนสถาบันในรอบนี้
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศกลับเป็นกลางในช่วงนี้ และหากพิจารณาถึงการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นหลักๆ ทั่วโลก อย่าง DJIA / NIKKEI / Stoxx50 ต่างแกว่งในกรอบแคบเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่ทยอยขายทำกำไรไปแล้วบางส่วนบริเวณ 1,490 จุด +/- อาจกลับมาสะสมหุ้นเป้าหมายที่ราคาปรับฐานลงแรง ภายใต้ปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่ง"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH
Accumulative Buy: ADVANC/ SCC
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. ADVANC : ราคาปิด 250.00 บาท ราคาเหมาะสม 290.00 บาท
a) MBKET คาดว่าจะเกิด Stock Rotation หุ้นหลักกลุ่มสื่อสารในวันนี้ หลัง DTAC รายงานกำไร 2Q58 ที่ 1.4 พันล้านบาท ลดลงถึง -53.4% yoy และต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดราว 24%
b) ส่งผลให้ ADVANC ดูโดดเด่นมากขึ้น เนื่องจากคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q58 จะเติบโต +12.1% yoy เป็น 9.5 พันล้านบาท โดยจะรายงานงบ 2Q58 ในวันที่ 3 ส.ค.
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มสื่อสาร เนื่องจากการประมูล 4G ทั้งคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ใน 4Q58 จะเป็นตัวปลดล็อกสัญญาสัมปทานเดิม และส่งผลบวกทั้งรายได้การให้บริการ Data ที่จะเร่งตัวขึ้นภายใต้ระบบ 4G และต้นทุนค่าธรรมเนียมลดลงจากเดิม
d) ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 6.50 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 2.6% และทั้งปี 2558 หุ้นละ 13.16 บาท คิดเป็น Dividend Yield 5.2%
2. SCC : ราคาปิด 512.00 บาท ราคาเหมาะสม 570.00 บาท
a) MBKET คาดว่ากำไรสุทธิ 2Q58 จะเติบโตสูง +31% yoy เป็น 1.12 หมื่นล้านบาท จากแรงหนุนของสเปรดธุรกิจปิโตรเคมีทั้ง HDPE และ PP ที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากต้นทุนน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการใน 2H58 เนื่องจากเชื่อว่ายอดขายปูนซีเมนต์ในประเทศจะเร่งตัวขึ้นจากงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯที่เริ่มเข้าสู่ระบบ และธุรกิจปิโตรเคมียังสดใสจากราคาน้ำมันดิบที่แกว่งตัวในระดับต่ำ
c) ผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +22.9% yoy เป็น 41,322 ล้านบาท และต่อเนื่อง +10.1% yoy ในปี 2559 เป็น 45,494 ล้านบาท
d) คาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 6.00 บาท คิดเป็น Dividend Yield ราว 1.2% และทั้งปี 2558 หุ้นละ 16.53 บาท คิดเป็น Dividend Yield 3.2%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ US$119 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$28 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัวต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง เพียง 16 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ ขายสุทธิเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เป็น 33,163 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 4,842 สัญญา รวม 3 วันทำการ short สุทธิ 7,780 สัญญา คาดเป็นการเปิดสถานะ short ต่อเนื่อง แม้ว่า S50U15 ปิดต่ำกว่า Set50 Index แคบลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เท่ากับ 14.29 จุด จากวันก่อนหน้า Discount กว้างถึง 17.71 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 48,856 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อ 156 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 621 ล้านบาท แม้ว่าราคาพันธบัตรไทยลดลงเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นอีก 0.13bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.03bps ปิดที่ 2.824%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 557 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 486 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 เน้น BBL / PTTGC
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 587 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 488 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,939 ล้านบาท ยังคงเน้นสะสมเป็นรายตัว สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มปิโตรเคมี ถูกซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 271 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 164 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 121 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 151 ล้านบาท และกลุ่ม วัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 133 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 88 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มอาหาร ถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 167 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 52 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ไม่มี
ยุโรป
พัฒนาการกรีซ
กรีกได้ชำระหนี้ที่ครบกำหนดของ ECB มูลค่า 4.2 พันล้านยูโร และเงินที่ค้างชำระ IMF และธนาคารกลางกรีซ รวม 3.3 พันล้านยูโร
เจ้าหนี้ EC / ECB / IMF อยู่ระหว่างการทำร่างแผนช่วยเหลือกรีซชุดที่ 3 เพื่อกำหนดเงื่อนไขการให้เงินช่วยเหลืออายุ 3 ปี วงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโร ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้จะต้องได้ข้อสรุปภายในวันที่ 13 ส.ค. และหลังจากนั้น เงินกู้จึงจะสามารถเริ่มเบิกจ่ายได้
จีน
หุ้น 20% ยังขอขึ้น H : จำนวน 576 บริษัทยังคงขอหยุดการซื้อขายชั่วคราว (Halt:H) ลดลงจาก 635 บริษัท ณ วันที่ 17 ก.ค. คิดเป็นมุลค่าตลาด 4.0 ล้านล้านหยวน หรือ 9.0% ของมูลค่าตลาดรวม
เอเชียแปซิฟิก
คำสั่งภาคส่งออกของไต้หวันหดตัวต่อเนื่อง: อีก -5.8% yoy ในเดือน มิ.ย. ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 6.0% yoy และเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 5.9% yoy เป็นผลจากอุปสงค์ในคำสั่งซื้อ PCs และอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้คำสั่งซื้อจอทีวีจากญี่ปุ่นที่ลดลง หลังผู้ประกอบการบางรายเลิกกการผลิต รวมถึงราคาหน้าจอที่ปรับตัวลดลงกลายเป็นปัจจัยกดดันยอดส่งออก ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงยอดการส่งออกใน 1-3 เดือนข้างหน้า
ไทย
เตรียมขอปรับเปลี่ยนมติกพช.รับซื้อโซล่าร์ในบางพื้นที่ เพราะติดขัดเรื่องสายส่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า โครงการโซลาร์หน่วยงานราชการ ขณะนี้ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยจะเปิดให้ผู้ที่สนใจมายื่นข้อเสนอภายในระยะเวลา 3 เดือน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ แบ่งเป็นโซลาร์หน่วยงานราชการ 400 เมกะวัตต์ และโซลาร์สหกรณ์ 400 เมกะวัตต์ ทั้งนี้จะพิจารณาถึงความพร้อมสายส่งเป็นหลัก ซึ่งการจ่ายไฟฟ้าเข้ามาภายในระบบจะทยอยเข้ามาตามช่วงเวลาที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ส่วนปัญหาสายส่งบางพื้นที่เต็ม โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการบางรายที่ไม่มีการผลิต ได้คืนสัญญามา ทำให้คงเหลือสายส่งบางพื้นที่ที่พอจะรองรับกำลังการผลิตใหม่ได้ ด้าน คณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน อยู่ระหว่างจัดทำหลักเกณฑ์คัดเลือกหน่วยงานราชการและสหกรณ์ที่เข้าโครงการ ซึ่งเตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เพื่อขอปรับเปลี่ยนมติ กพช. จากเดิมกำหนดให้ขายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(ซีโอดี) ภายในเดือนมิถุนายน 2559 โดยจะเลื่อนไปเป็นปี 2560-2561 ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังไม่มีความพร้อมด้านสายส่งไฟฟ้า
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530