- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 June 2014 17:12
- Hits: 2715
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : GAPแนวรับ 1,442
Technical : แนวรับ 1,450-1,447 แนวต้าน 1,463 / 1,470
หุ้นแนะนำพิเศษ : KBANK แนวรับ 201/198 แนวต้าน 207/212
หุ้นเด่นรายวัน : PCA APCO STEC AJD
วันศุกร์ตลาดหุ้นไทย ปิดบวก 5.38 จุด ตลาดแกว่งในกรอบ/สัปดาห์หน้าเล็ง Window Dressing หนุน ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,467.29 จุด เพิ่มขึ้น 5.38 จุด(+0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 43,340.19 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 364.75 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,447-1.485 การทำราคาปิดรอบบัญชีและการคาดการณ์ผลประกอบการกลุ่มธนาคารเชิงบวกเป็นแรงกระตุ้นแรงซื้อระยะสั้นเพิ่มเข้ามาในตลาด ในขณะที่ SET50 แท่งเทียนไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่าและสร้างจุดสูงกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า เป็นสัญญาณบวกและมีโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นต่อเนื่อง แนวรับ 983 ยืนได้มั่นคงเป็นสัญญาณยืนยันแนวโน้มกลับตัวV-Shapes GFM14 เก็งกำไรในกรอบ 20,020-20,380 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 20,070-20,430
กลยุทธ์ ตลาดมีการปรับตัวลงตามปัจจัยข่าวต่างๆแต่ไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่าอย่างมีนัยสำคัญเป็นการบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดซึ่งคาดว่าในรอบสัปดาห์นี้จะมีการเข้าซื้อระยะสั้นเล่นรอบการทำราคาปิดรอบบัญชี กลุ่มพลังงานเป็นเป้าหมายหลักเนื่องจากราคาขึ้นน้อยกว่าตลาด กลุ่มธนาคาร แรงซื้อเพิ่มกลับเข้ามาและมีแนวโน้มขึ้นต่อเนื่องจากการคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส2ที่ยังคงแนวโน้มเติบโต SCB BBL KTB KBANK กลุ่มอสังหาฯ CPN PF PS SPALI กลุ่มเดินเรือ TTA โดดเด่นด้านรูปแบบราคากลับตัวขึ้น กลุ่มสื่อสาร ADVANC TRUE กลุ่มโรงแรมERW กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC TASCO หุ้นรายหลักทรัพย์ TCC PTTGC TRC ROJANA ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง
หุ้นแนะนำพิเศษ
KBANK (ราคาปิด 204 ซื้อ เป้าหมาย 216) ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่งและความมีประสิทธิภาพในการควบคุมหนี้เสียและความเข้มงวดมากขึ้นในการอนุมัติสินเชื่อ ส่งผลให้ผลประกอบการยังมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง ในช่วง 1Q57 มีกำไรสุทธิ 11,939 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 18%YoY โดยคิดเป็น 27% ของประมาณการทั้งปีที่ 4.4 หมื่นล้านบาทยังเติบโต 6% จากปี 56 ทั้งนี้ในอนาคตฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการและราคาเป้าหมายหากงบครึ่งปียังคงดีกว่าคาดอีก สินเชื่อปลายเดือนพ.ค. 57 อยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้น 2.35%จากปลายปี 56
หุ้นเด่นรายวัน
PCA (ราคา IPO 2.80 ซื้อเก็งกำไร) บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการออกแบบ ติดตั้ง จำหน่ายระบบเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมและระบบดิจิตอลทีวีแบบครบวงจรจะเริ่มซื้อขายวันนี้เป็นวันแรกในตลาด MAI
APCO (ราคาปิด 17.60 ซื้อเก็งกำไร) ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2557 เติบโต 50% ทะลุ 500 ล้านบาท แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดศูนย์บริการด้านสุขภาพ BIM Healthcare Center ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนมีกำลังซื้อสูง (ที่มา : ทันหุ้น)
STEC (ปิด 23.80 ซื้อเป้าปี 57: 26.25 บาท) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างลุ้นผลแข่งประมูลรถไฟรางคู่สัญญาที่ 1 วงเงิน 1.02 หมื่นล้านบาทโดยมีผู้รับเหมาที่ผ่านคุณสมบัติทั้งหมด 6 รายคือ STEC-CK-ITD-UNIQ ส่วนอีก 2 บริษัทไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้เราชอบ STEC มากที่สุดเนื่องจากมีโครงสร้างทางการเงินเด่นสุดผ่านค่า D/E ratio ที่ต่ำที่สุดของกลุ่มอีกทั้งยังเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการทำกำไรสูงที่สุดของกลุ่ม
AJD (ปิด 3.88 ซื้อเก็งกำไร) กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่าย Set top box ได้ข่าวดีหลัง คตร. เสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาและอนุมัติให้ กสทช.เดินหน้าโครงการนี้เป็นที่เรียบร้อย โดยจะนำไปจัดทำประชาพิจารณ์ใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศเป็นเวลา 15 วันและคาดว่าจะแจกคูปองได้ในช่วงเดือนก.ย. โดยกลุ่มนี้เรามอง AJD เด่นสุดเนื่องจากมีความได้เปรียบในเรื่องช่องทางการจัดจำหน่าย
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* PAF/ PDI มีผลบังคับใช้ 19 พ.ค. 57 - 27 มิ.ย. 57
* AJP / APCO / EE มีผลบังคับใช้ 26 พ.ค. - 4 ก.ค. 57
* BMCL / RPC มีผลบังคับใช้ 2 มิ.ย. - 10 ก.ค. 57
* RASA มีผลบังคับใช้ 9 มิ.ย. – 18 ก.ค. 57
* AJD / TFI / TH / TRUE / UV มีผลบังคับใช้ 16 มิ.ย. - 25 ก.ค. 57
* IFEC / PF / SLC มีผลบังคับใช้ 23 มิ.ย. - 1 ส.ค.57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 25.62 จุด
ดัชนี ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 25.62 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 0-0.25% และมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังตัวเลขการจ้างงานและการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มทยอยฟื้นตัว ส่วนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวันศุกร์สหรัฐไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญออกมา ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 25.62 จุด หรือ +0.15% ปิดที่ 16,947.08 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 8.71 จุด หรือ +0.20% ปิดที่ 4,368.04 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 3.39 จุด หรือ +0.17%ปิดที่ 1,962.87 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 83 เซนต์
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในอิรัก หลังมีข่าวว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐประกาศว่า สหรัฐเตรียมตัวส่งที่ปรึกษาด้านการทหารมากกว่า 300 คนไปยังอิรัก โดยมีเป้าหมายที่จะฝึกฝน แนะนำ และสนับสนุนกองทัพอิรักในการต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนเฝ้าดูสถานการณ์ในอิรักอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอิรักเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ในกลุ่มโอเปค รองจากซาอุดิอาระเบียทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ ปิดที่ 107.26 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 25 เซนต์ ปิดที่ 114.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์