- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 July 2015 17:30
- Hits: 11445
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"ซื้อค่าบวก...ค่าลบดูไม่ดี รอซื้อต่ำ"
Stock Picks-Jul 2015 : Fundamental : CENTEL, CK, CPN, IVL, TUF ส่วน Dark Horse คือ MCS, SYNEX
Fundamental Pick -Today: BJCHI (ดูรายละเอียดใน Company Focus วันนี้)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, QH, SPALI, SRICHA, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, JASIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : TDEX 41%, TTCL 36%, ESSO 35%
Technical View ภาพตลาดเป็นลบ แต่เน้นซื้อบวก
Support Resistance Stop loss
SET 1460-1440 1490-1500 ค่าลบ
SET50 960-940 980-990 ค่าลบ
Technical Picks- Today : UNIQ, TAE, INTUCH, VNG, TSE, TVO, BEAUTY, SPA
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยปรับลดลง 5.48 จุด ปิดที่ 1481.26 ซึ่ง Underperform ตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ความเสี่ยงที่จะมี NPL ในระบบเพิ่มขึ้น ยังผลให้มีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ต่อเนื่อง นอกจากนั้นหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง PTTEP ถูกกระทบจากผลขาดทุนที่จะเกิดขึ้นจากการทำ Hedging น้ำมัน ส่วนกลุ่มที่ Perform ดีในตลาดหุ้นไทย คือ สื่อสาร เช่น ADVANC, INTUCH ซึ่งมีข่าวการประมูล 4G เป็นตัวกระตุ้น รวมถึงจ่ายปันผลสูงด้วย นักลงทุนสถาบันในประเทศ พอร์ตบล.นำขายสุทธิกลุ่มละ 600 กว่าล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย 105 ล้านบาท ส่วนรายย่อยซื้อสุทธิ
ตลาดขยับบวกต่อตอบรับรัฐสภากรีซผ่านร่างกฎหมายปฎิรูปฉบับใหม่ ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่การรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบที่ 3 มูลค่า 8.6 หมื่นล้านยูโรต่อไป ทำให้ปัญหาหนี้กรีซผ่อนคลายลงไป นอกจากนั้นมีการเข้าซื้อเก็งกำไรผลประกอบการ 2Q58 กันเพราะเข้าสู่ฤดูกาลประการกำไรอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตลาดมีความกังวลเรื่องเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคอยกดดันเป็นระยะๆ และตลาดหุ้นไทยมีปัญหาเศรษฐกิจภายในที่รุมเร้า ระยะสั้นมากนักลงทุนจับตาผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์และตัวเลขคุณภาพสินทรัพย์ที่กำลังจะออกมา ซึ่งเรามองว่ากลุ่มที่อิงกับกำลังซื้อในประเทศจะยังไม่ดีในช่วง 2H58 กลุ่มพลังงานถูกกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง แต่มองว่าประเด็น Price in ไปบ้างแล้ว และอาจมีจังหวะเด้งสั้น (แต่ยาวๆ ต้องดูระดับอุปทานน้ำมันในตลาดอีกที) ส่วนกลุ่มท่องเที่ยวคาดว่าจะยังแข็งแกร่งใน 2Q58 แม้ว่าเป็นช่วง Low Season ก็ตาม แต่การเติบโตของกำไร YoY จะโดดเด่นเพราะฐานต่ำ หุ้นแนะนำซื้อวันนี้เป็น BJCHI
การวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพตลาดโดยรวมเป็นลบ แต่เน้นซื้อตามค่าบวก การปรับขึ้นมีแนวต้านระยะสั้น 1490-1500 การอ่อนตัวมีแนวเด้งที่ 1460-1440 หรือ 1420 สำหรับการ Scan หุ้นที่มีโอกาสทำ New High พบว่าที่น่าสนใจเป็น TAE, TVO, INTUCH ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น MIDA, FORTH, IRPC หุ้นที่หลุด List คือ SVOA, ASIMAR และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ TTA, SCP
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ กรีซ : ระยะสั้นจบลงได้ด้วยดี เมื่อวานนี้รัฐสภากรีซมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 229 เสียง จากจำนวนสมาชิกรัฐสภา 299 คน ให้ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่ ซึ่งจะปูทางให้กรีซมีคุณสมบัติที่จะรับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบที่ 3 และจะทำให้รัฐบาลสามารถบังคับใช้กฎหมายการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีและการจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยอมเพิ่มวงเงินกู้ฉุกเฉินให้แก่ธนาคารกรีซอีก 900 ล้านยูโร เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ด้านสหภาพยุโรป (EU) เห็นพ้องในหลักการที่จะปล่อยเงินกู้ระยะสั้นวงเงิน 7 พันล้านยูโรแก่กรีซแล้ว เพื่อให้กรีซสามารถชำระหนี้เงินกู้ 3.5 พันล้านยูโรแก่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันจันทร์หน้า (20 ก.ค.)
+ ยูโรโซน : ECB ยืนยันเดินหน้าโครงการ QE ถึงเดือนก.ย.59 ตามแผน ทั้งนี้ ECB มีแผนที่จะเข้าซื้อพันธบัตรเดือนละ 6 หมื่นล้านยูโรตั้งแต่มี.ค.58-ก.ย.59 รวมวงเงินโครงการที่ 1.1 ล้านยูโร ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% สำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นยังคงไว้ที่ 0.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของตลาด
+ สหรัฐ : จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกรายสัปดาห์ลดลง 15,000 ราย ในสัปดาห์สิ้นสุด 10 ก.ค. ซึ่งดีกว่าคาด และยอดสะสม 4 สัปดาห์เพิ่มขึ้นเพียง 3.250 รายเท่านั้น
สหรัฐ : เฟดฟิลาเดลเฟียเผยดัชนีภาวะธุรกิจเขตมิดแอตแลนติคเดือนก.ค.ลดลงเป็น 5.7 จาก 15.2 ในเดือนมิ.ย. แต่ดัชนีเหนือ 0 บ่งชี้ว่ายังคงขยายตัวได้
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ดัชนี Nasdaq ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5163.18 (+1.26%) ส่วนดัชนี DJIA ปรับขึ้น 0.39% และดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.8% ปัจจัยหนุน คือ รัฐสภากรีซผ่านร่างกฎหมายปฎิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่แล้ว ปูทางไปสู่การรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่ 8.6 หมื่นล้านยูโร ด้าน ECB ประกาศเพิ่มวงเงินฉุกเฉินให้กับธนาคารกรีซ และ ECB เห็นด้วยกับการให้ปล่อยกู้เงินระยะสั้นกับกรีซ รวมทั้งผลประกอบการหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีออกมาดีกว่าคาดทั้งอินเทล คอร์ป และเนทฟลิกซ์
ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวกรอบแคบ หลังร่วงลงมาหลายวัน ปิดตลาดสัญญาน้ำมันดิบ WTI และ BRENT -0.50 และ +0.46 ดอลลาร์ที่ 50.91 และ 57.51 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดยังกังวลกับอุปทานน้ำมันดิบที่สูง และโอกาสที่อิหร่านจะส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดโลกอีกกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วันหลังบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติมหาอำนาจ P5+1
- สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบส.ค.58 ลดลง 3.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1143.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ประธานเฟดยืนยันต่อสภาคองเกรสในวันที่สองว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ซึ่งประเด็นนี้กดดันกับราคาทองคำในระยะสั้น
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
- ภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขาดแคลนแรงงานมากขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ภาคอุตสาหกรรมของไทยจะมีปัญหาแรงงานตึงตัวมาก โดยประเมินว่าอาจจะขาดแคลนแรงงาน 2.9 แสนคน จากปัจจุบันที่ 3.47 หมื่นคน เนื่องจากแรงงานภาคอุตสาหกรรมย้ายเข้าสู่ภาคบริการที่ได้อัตราค่าแรงงานที่ดีกว่า
+ TUF : ธุรกิจทูน่ามีแนวโน้มว่าจะมาร์จิ้นจะดีขึ้นใน 2Q58 โดยผู้ประกอบการจะลดการจับปลาลง 35% เริ่มตั้งแต่พ.ค.58 ทำให้ราคาทูน่าจะปรับขึ้นได้ คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติไตรมาสนี้จะเติบโตก้าวกระโดด QoQ (แต่ยังลดลงเมื่อเทียบ YoY) นอกจากนั้นบาทอ่อนก็ช่วยหนุนมาร์จิ้นใน 2Q58 ด้วย (บริษัทมีรายได้รูปดอลลาร์ประมาณ 60%, รูปยูโรราว 30%) แนวโน้ม 2H58 คาดว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะช่วงไตรมาส 3 เป็น High Season ของการส่งออก การเข้าซื้อ Bumble Bee คาดว่าจะสรุปได้ใน 3Q58 และเริ่มทำงบการเงินรวมตั้งแต่ 4Q58 เป็นต้นไป ในระยะยาวเชื่อว่าบริษัทจะได้เปรียบจากการกระจายฐานธุรกิจไปในหลายประเทศและมีแบรนด์ที่แกร่งในระดับโลก ทั้งนี้ผู้บริหารยังคงเป้าหมายยอดขาย 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2563 (เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวภายใน 5 ปีนับจากนี้ไป) แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐานระยะ 12 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 25.50 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 58 ที่ 19 เท่า
+ TVO : ระยะสั้นมีข่าวบวกจากการที่ราคากากถั่วเหลืองในตลาดโลกปรับขึ้น เพราะสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกในสหรัฐ ทำให้ถั่วเหลืองเติบโตช้าและมีปริมาณผลผลิตต่ำลงในบางพื้นที่ ยังผลให้ราคาถั่วเหลืองสหรัฐเพิ่มขึ้นแรงเกือบ 20% เมื่อเทียบกับราคาต้นเดือนมิ.ย.58 นอกจากนั้น TVO มีจุดเด่นเรื่องการจ่ายปันผลสูงด้วย คาดการณ์ Dividend Yield ปีนี้ 7% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคพบว่า ในช่วงสั้นราคาหุ้นยังมีแนวโน้มดี และมีโอกาสที่จะขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 25-26 บาทได้ (ราคาปิดเมื่อวานนี้ 23.90 บาท)
COM7 (IPO 300 ล้านหุ้น คาดขายหุ้นปลายก.ค.นี้) ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทไอที
และบริการซ่อมแซมสินค้า ผ่านช่องทางคือ ร้าน Banana IT, Banana Mobile, Samsung Shop, iStudio, iBeat, U Store, Mango Mobile (เป็นร้านค้าขนาดเล็กที่เน้นช่องทางจำหน่ายสินค้าตามต่างจังหวัด) และศูนย์บริการ iCare บริษัทคาดรายได้ปี 58 เติบโต 5% เป็น 1.48 หมื่นล้านบาท (ปี 57 มีรายได้ 1.40 หมื่นล้านบาท) โดยหลักมาจากยอดขายสมาร์ทโฟนและแล็บท็อป อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากมีการปรับ Product Mixed โดยเน้นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น ในเบื้องต้นเราคาดอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 1.8% (ต่ำกว่าบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2% และใกล้เคียงกับ 1Q58 ที่ทำได้ 1.77%) คาดการณ์กำไรสุทธิของปีนี้อยู่ที่ 266 ล้านบาท (+28%) แต่ EPS ปี 58 (Fully Diluted) จะทรงตัวที่ 0.22 บาท/หุ้น บริษัทตั้งเป้าหมายขยายเป็น 500 สาขาภายในปี 60 จากสิ้นมี.ค.58 ที่ 317 สาขา ส่วนการลงทุนต่างประเทศ กำลังศึกษาคือตลาดเมียนมาร์และเวียดนาม โดยคาดว่าจะเริ่มเข้าไปในปี 59
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]