- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 June 2014 16:41
- Hits: 2623
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ยังมีสิทธิผันผวนได้อีก ดังนั้นยังรอซื้อลบดีกว่า...แต่ซื้อแล้วถือได้!!
กลยุทธ์ : FSS ยังคาดว่า SET มีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนและพักตัวลงก่อนได้ในระยะสั้น ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอซื้อในช่วงตลาดอ่อนตัวลงเช่นเดิม แต่คาดว่ากรอบปรับลงจะไม่ลึก และยังมีสิทธิพลิกกลับไปเป็นขาขึ้นและลุ้นวิ่งขึ้นหาเป้าหมายทางเทคนิคแถว 1500 จุดหรือใกล้เคียงได้ในช่วงถัดไป ดังนั้นส่วนที่ซื้อแล้วแนะนำให้เน้นเป็นถือต่อเนื่องไว้ได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : EE, SPVI, BH(short)
แนวโน้ม : สัปดาห์ที่แล้ว SET ยังคงแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 และมีจังหวะปรับตัวลงที่กว้างมากขึ้นในระหว่างสัปดาห์ด้วย ก่อนที่ในช่วงท้ายสัปดาห์ดัชนีจะสามารถดีดกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเป็นบวกได้บ้าง แต่กรอบการขึ้นยังค่อนข้างจำกัด ขณะที่เช้านี้แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดบวกขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้ รวมทั้งมีจุดสูงสุดใหม่ในระหว่างวันด้วย แต่เป็นการขยับขึ้นดีแค่ในช่วงต้นชั่วโมง เพื่อขานรับการที่เฟดมีแนวโน้มที่จะเดินหน้านโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป หลังจากนั้นยังมีแรงขายกดดันในระหว่างวันพอควร จนทำให้ดัชนีดาวโจนส์ย้อนลงมาปิดเป็นบวกไม่มากนัก และตลาดหุ้นยุโรปก็ปิดเป็นลบท่ามกลางการซื้อขายซบเซา ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดเป็นบวกได้เพียงแคบๆ ซึ่งน่าจะส่งผลให้ SET ต้นสัปดาห์นี้ยังมีโอกาสแกว่งพักตัวลงอีกได้ ดังนั้นในระยะสั้น FSS จึงยังแนะนำให้ระวังการแกว่งตัวผันผวนและย้อนลงของตลาดอยู่ก่อน โดยแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อเฉพาะช่วง SET อ่อนตัวลงจะเหมาะสมกว่า
แนวรับ 1464-1460 , 1457-1455 จุด แนวต้าน 1470-1473 , 1475-1480 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาค US$1,035 ล้าน เพิ่มขึ้นจาก US$767 ล้านในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนศุกร์ที่ผ่านมา Flow ไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบางมาก โดยไหลออกจากตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$76.9 ล้าน ไต้หวัน US$27.2 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$25.3 ล้าน และไทย US$11.2 ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$17.3 ล้าน และอินโดนีเซีย US$2.6 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) สหรัฐลดอันดับไทยด้านการค้ามนุษย์สู่ Tier 3 (ขั้นต่ำสุด) เมื่อ 20 มิ.ย. ในสินค้า 5 กลุ่มได้แก่ ปลา กุ้ง เครื่องนุ่งห่ม อ้อย สื่อลามก ระยะสั้นเป็น Sentiment เชิงลบมากต่อราคาหุ้น CPF และ TUF เราประเมินกรณีเลวร้ายสุด ถ้า CPF-TUF ไม่สามารถส่งออกสินค้าไปสหรัฐและยุโรปได้เลย กำไรของ TUF จะลดลง 8% กระทบราคาเป้าหมาย 6.50 บาท/หุ้น เหลือ 63.50 บาทจากปัจจุบัน 70 บาท มากกว่า CPF ที่กำไรจะลดลง 2% กระทบเป้าหมาย 0.50 บาท/หุ้น เหลือ 32.50 บาทจากปัจจุบัน 33 บาท อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวเรายังมองบวกต่อ CPF-TUF เหมือนเดิมเพราะการจัดอันดับครั้งนี้เป็นเรื่องของภาครัฐ แต่ภาคเอกชนยังสามารถทำการค้าได้เสรี การทบทวนอันดับมีทุกปี หากภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันลดปัญหาดังกล่าว เชื่อว่าไทยจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับในอนาคต
(0) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 1 จะประมูล E-Auction วันนี้ (23 มิ.ย.) ระวังแรงขาย Sell on fact ระยะสั้นในกลุ่มรับเหมาโดยเฉพาะ ITD, UNIQ ที่ปรับขึ้นมาแรงสุด
(0) CK ศาลปกครองสูงสุดจะอ่านคำสั่งวันที่ 24 มิ.ย.ว่ารับคำฟ้องหรือไม่สำหรับคำขอให้ยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากเขื่อนไซยะบุรี เรายังคงเป้าหมาย 24.50 บาท แต่ลดคำแนะนำลงเป็นถือ เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นมาจนเหลือ upside จำกัด
(+) PCA เข้าตลาดวันแรก บมจ. แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย (PCA) ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิตอลทีวี โดยเป็นทั้งตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตชั้นนำต่างๆทั่วโลก เช่น CISCO, CODAN, Panasonic และสินค้าภายใต้ชื่อบริษัทเอง คือ “PlanetComm” ผลประกอบการในอดีตเติบโตดีโดยกำไรปกติในปี 2012-13 โต 84% และ 13% ตามลำดับ ส่วนกำไรใน 1Q14 พลิกจากขาดทุนใน 1Q13 เป็น 13 ล้านบาท แม้จะคิดเป็นเพียง 13% ของประมาณการทั้งปีแต่เชื่อว่ากำไรจะเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือ เราคาดกำไรปกติปี 2014 โตสูง 47% จากรายได้ขายเครื่อง Set Top Box และคาดกำไรปีหน้าโตต่อ 13% เราประเมินมูลค่าหุ้นที่ 4.42 บาท (PE 11.5 เท่า) (FSS เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่าย IPO ของ PCA)
(0) สินเชื่อเดือน พ.ค. (ไม่รวม KTB) ขยับขึ้นเพียง 0.07% M-M ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อระยะสั้นในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ แต่สินเชื่อรายย่อยยังลดลงต่อเนื่อง รวม 5M14 สินเชื่อเพิ่มเพียง 0.59% YTD TMB (ซื้อ, เป้าหมาย 2.60 บาท) มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นสูงสุด ส่วน BAY (ขาย, เป้าหมาย 32 บาท) สินเชื่อลดลงมากสุด แนวโน้มสินเชื่อ 2Q14 น่าจะทรงตัว Q-Q แต่คาดทั้งปีโต 5-6% กำไรใน 2Q14 คาดลดลง 5-10% Q-Q มีเพียง SCB (ซื้อ, เป้าหมาย 204 บาท) ที่กำไรดีกว่ากลุ่มจากการขายเงินลงทุน
(-) กลุ่มนิคมฯ มูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนงวด 5M14 ลดลง 43% Y-Y คิดเป็น 44% ของเป้าทั้งปี สำหรับ 18 โครงการที่ได้รับอนุมัติเมื่อเร็วๆนี้เป็นโครงการส่วนต่อขยาย ไม่มีผลต่อการขายที่ดินใหม่ แต่มีผลในการสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน เรายังคาดยอดขายที่ดินของทั้ง AMATA, HEMRAJ, ROJNA ในปีนี้จะลดลง 6% ราคาหุ้นตอบรับปัจจัยบวกเรื่องแต่งตั้งบอร์ด BOI จนมี upside จำกัด เราแนะนำถือ/รอซื้ออ่อนตัว AMATA (เป้า 17.80 บาท) และ HEMRAJ (เป้า 4 บาท) และขาย ROJNA (เป้า 7.90 บาท)
ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมายังขยับตัวขึ้นได้เป็นวันที่ 6 ติดต่อกันโดยบวกอีก 25.62 จุด และทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยตลาดยังคงตอบรับในเชิงบวกเรื่องของการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำของ FED หากเงินเฟ้อยังต่ำกว่าเป้าหมาย
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้เล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวการควบรวมกิจการในภูมิภาค
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ทำ New High นอกจากนี้นักลงทุนจับตาดูตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนในเช้าวันนี้
ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกทางข้าง คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.37-32.50 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ขยับขึ้น 0.83 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 107.26 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิรักซึ่งส่งผลต่ออุปทานน้ำมันดิบที่อาจลดลง
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 2.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,316.60 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสถานการณ์ความไม่สงบในอิรักยังหนุนให้นักลงทุนเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงแรงหนุนจากการที่ FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป
Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
