- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 July 2015 20:27
- Hits: 1895
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"ซื้อ/ถือค่าบวก หรือซื้ออ่อนแต่ไม่หลุด 1480"
Stock Picks-Jul 2015 : Fundamental : CENTEL, CK, CPN, IVL, TUF ส่วน Dark Horse คือ MCS, SYNEX
Fundamental Pick -Today: MCS
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, QH, SPALI, SRICHA, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, JASIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : TTCL 35%, ESSO 24%, EGCO 10%, BH 10%
Technical View ภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1500,1510-1520 หลุด 1480
SET50 ซื้อค่าบวก 990-1000 หลุด 970
Technical Picks- Today : SCP, FORTH, INET, IRPC, TSE, MCS, IHL, ASIMAR
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : VGI (จากถือเป็น Fully Valued)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นไปใกล้ 1500 จุดแล้วอ่อนตัวลงด้วยแรงขายหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลัก กดตลาดให้ปิดต่ำสุดในวันที่ 1486.74 (-1.66 จุด) โดยหุ้นใหญ่ที่ราคาลดลงแรง ได้แก่ AOT, TASCO, BBL, KTB, CPN, BH เป็นต้น ปัจจัยที่กดดัน คือ ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด, ผลประกอบการ 2Q58 และแนวโน้มที่อ่อนแอ ทำให้มีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะปรับลดประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายของหุ้นและ SET Index Target ลงอีกรอบ นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 650 กว่าล้านบาท ต่างชาติและพอร์ตบล.ซื้อ/ขายใกล้เคียงกัน ส่วนรายย่อยขายสุทธิ
ตลาดแกว่งในกรอบแคบ โดยประธานเฟดส่งสัญญาณการเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดภายในปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดประเมินไว้ ด้านกรีซร่างกฎหมายปฎิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาแล้ว และจะได้รับเงินกู้เร่งด่วน & เงินช่วยเหลือรอบใหม่ในเร็วๆนี้ ทำให้น้ำหนักลบจากกรีซผ่อนคลายลง อย่างไรก็ดี ปัญหากรีซต้องใช้เวลาในการแก้ไขอีกมาก ส่วนในประเทศ นักลงทุนมุ่งให้ความสนใจไปที่ผลประกอบการ 2Q58 และแนวโน้มใน 2H58 ซึ่งมีโอกาสสูงที่นักวิเคราะห์จะปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลงอีกรอบ เมื่อพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังอ่อนแอ การลงทุนจึงเน้นไปในหลักทรัพย์ Defensive และปันผลสูง หุ้นแนะนำซื้อวันนี้เป็น MCS
การวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพตลาดโดยรวมเป็นลบเล็กๆ เน้นซื้อตามค่าบวกหรือซื้อเหนือ 1480 การปรับขึ้นมีแนวต้านระยะสั้น 1500, 1510-1520
สำหรับการ Scan หุ้นที่มีโอกาสทำ New High พบว่าที่น่าสนใจเป็น SCP, FORTH, IRPC, ASIMAR ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น TTA, SVOA, MIDA หุ้นที่หลุด List คือ CPN, AOT, MTLS และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ SEAFCO
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
สหรัฐ : เฟดมองเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวได้และมีแนวโน้มเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ นางเยลเลน ประธานเฟดได้กล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริหารการเงินประจำสภาผู้แทนราษฏรเมื่อวานนี้ว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลาง โดยราคาน้ำมันดิบที่ต่ำลงและการจ้างงานเพิ่มขึ้นช่วยหนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค และภาวะการเงินสนับสนุนการขยายตัว รวมทั้งการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายของประเทศต่างๆ จะทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น
สหรัฐ : ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.ตามราคาพลังงาน โดย Headline PPI +0.4%MoM (-0.7%YoY) ในเดือนมิ.ย. ด้าน Core PPI +0.3%MoM (+0.8%YoY) บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อด้านต้นทุนขยับสูงขึ้น และคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทางด้านผู้บริโภคจะปรับขึ้นตามในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
+ สหรัฐ : ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) พุ่งขึ้นในเดือนก.ค.58 เป็น 3.86 หลังจากหดตัว -1.98 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดีกว่าคาด ทั้งนี้ดัชนีเหนือ 0 หมายถึงการขยายตัว และต่ำกว่า 0 คือการหดตัว
/+ กรีซ : ร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาแล้ว ด้วยคะแนนเสียง 229 เสียง จากจำนวนสมาชิกรัฐสภา 299 คน ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่การรับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบที่ 3 มูลค่า 8.6 หมื่นล้านยูโร
+ กรีซ : คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เสนอที่จะให้เงินกู้ระยะสั้น 3 เดือน วงเงิน 7 พันล้านยูโรกับกรีซ เพื่อรองรับการใช้เงินเร่งด่วน (ซึ่งเงินดังกล่าวมาจากสมาชิก EU 28 ประเทศ) ทั้งนี้เพราะกรีซต้องได้รับเงินช่วยเหลือเร่งด่วนก่อนโครงการช่วยเหลือรอบใหม่จะมีผลบังคับใช้ โดยกรีซมีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายคืนให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) 3.5 พันล้านยูโรในวันที่ 20 ก.ค.นี้
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงเล็กน้อย (ดัชนี DJIA ลดลง 3.4 จุด) ทั้งนี้แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปีนี้ แต่การซื้อเก็งกำไรผลประกอบการ 2Q58 จะช่วยพยุงตลาดเอาไว้
- สัญญาน้ำมันดิบร่วงต่อ...กังวลอุปทานสูง โดย WTI และ BRENT -1.63 และ 1.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.41 และ 57.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยที่กดดันคือ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่สูงมากของสหรัฐที่ 9.562 ล้านบาร์เรล/วันในรอบสัปดาห์สิ้นสุด 10 ก.ค.58…คาดว่าจะกระทบ Sentiment การลงทุนหุ้นกลุ่มก๊าซ น้ำมัน และโรงกลั่นในระยะสั้น โดยความคาดหวังว่าจะมีกำไรจากสต็อกใน 2H58 ลดน้อยถอยลง
- สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบส.ค.58 ปิด -6.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1147.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังเฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ในแนวโน้มแข็งค่า ซึ่งกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงทองคำด้วย
- ตลาดหุ้นสหรัฐ : ผลการสำรวจของ Investors Intelligence (II) พบว่าความเชื่อมั่นของที่ปรึกษาทางการเงินต่อตลาดหุ้นสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยจำนวนที่ปรึกษาทางการเงินที่มีความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นสหรัฐได้ลดลงสู่ระดับ 43.7% จาก 44.8% ในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนผู้ที่ระบุว่าไม่มีความเชื่อมั่นทรงตัวที่ 15.6% นอกจากนี้ที่ปรึกษาทางการเงินที่คาดว่าตลาดหุ้นจะมีการปรับฐาน เพิ่มขึ้นเป็น 40.7% จาก 39.6%
DBS ปรับลดน้ำหนักลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐสู่ Neutral (จาก OW)
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
- รมว.คลังกังวลว่าเศรษฐกิจไทย 2H58 จะอ่อนลงกว่า 1H58 เนื่องจากการส่งออกยังซบเซา, ราคาสินค้าเกษตรต่ำ, เกิดภาวะภัยแล้ง และภาระหนี้ครัวเรือนสูง ส่วนการลงทุนก็ทำอยู่แต่ไม่สามารถจะเร่งได้มาก โดยรวมแล้วเห็นว่าเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 58 ที่ 3% เป็นเรื่องที่ท้าทายรัฐบาลอย่างมาก
TPIPL แจ้งจะใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อต่อสู้คดีถูกเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จำนวนเงินราว 4.07 พันล้านบาท ซึ่งเป็นคดีแพ่งของศาลจังหวัดสระบุรีที่เรียกค่าเสียหายให้ใช้ราคาแร่อุตสาหกรรม แต่ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องในคดีดังกล่าวและยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด โดยที่ดินที่มีปัญหาเป็นที่ดินของบุคคลอื่น ซึ่งมีทางสาธารณะผ่าน ไม่ใช่ที่ดินของบริษัท
+/ สหรัฐต่อ GSP ให้ไทย...แต่คาดว่าส่งออกจะยังติดลบในปีนี้ สหรัฐต่อสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรให้ไทยอีก 4 ปี 5 เดือน ซึ่งจะมีผลในอีก 30 วันหลังจากการลงนาม ทำให้ไทยสามารถขอคืนภาษีย้อนหลังได้ 2 ปีในกลุ่มสินค้ากว่า 3,400 รายการ เช่น อาหารปรุงแต่ง, ผลิตภัณฑ์เซรามิค และสุขภัณฑ์ต่างๆ คิดเป็นมูลค่าราว 6.2 พันล้านบาท อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะได้ต่อ GSP จากสหรัฐดังกล่าว แต่คาดว่ามูลค่าส่งออกในปีนี้จะยังคงติดลบ และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาทำให้กังวลว่าคำสั่งซื้อในรูปดอลลาร์สหรัฐจะชะลอตัวจากที่ประมาณการไว้ และการอ่อนค่าของเงินบาทอาจไม่สามารถชดเชยได้ เราสังเกตเห็นหุ้นกลุ่มอิเลคทรอนิกส์ที่ Underperfrom ในช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมาแม้ว่าเงินบาทจะอ่อนค่าก็ตาม กลยุทธ์เน้นซื้อจังหวะอ่อนตัว
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829
[email protected]