- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 13 July 2015 17:29
- Hits: 1647
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (6-10 กรกฎาคม 58)
SET ปิดปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย โดยมีความผันผวนระหว่างการซื้อขายในสัปดาห์ จากประเด็นการเจรจาหนี้ของกรีซ และประเด็นฟองสบู่ในประเทศจีน ปิดสัปดาห์ SET Index ปิดที่ 1484.90 จุด เปลี่ยนแปลงลดลง -4.69 จุด (-0.31%) WoW
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(+) ความกังวลต่อปัญหาฟองสบู่ของจีนลดลงหลังการดำเนินมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลในการเพิ่มสภาพคล่อง และสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุน
(+) รัฐบาลเตรียมพิจารณาเพิ่มการขาดดุลในปีงบประมาณ 60 ในสัดส่วนที่มากถึง 4% ของจีดีพี เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากเป้าหมายที่ 2.9% ในปี 59
(-) ความกังวลต่อปัญห่าภัยแล้งในประเทศ กระทบต่อภาคการผลิตและการส่งออกสินค้าเกษตร กดดันให้ GDP ต่ำกว่าเป้า ประเมินผลกระทบรุนแรงอาจกดดันให้ GDP ขยายตัวเพียง 1.5% ในปี 58
(+/-) ผลการประชุมสุดยอดของผู้นำประเทศสมาชิกยูโรโซนทั้ง 19 ประเทศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่ได้ข้อสรุปต่อแนวทางแก้ไขปัญหากรีซ
(+/-) แหล่งข่าวในยุโรปเผยกับสำนักข่าว AFP ระบุว่ากระทรวงการคลังเยอรมนีได้เตรียมเอกสารที่แสดงถึงทางเลือก 2 ทาง คือ ยูโรโซนยอมรับข้อเสนอของกรีซ หรือกรีซออกจากยูโรโซนเป็นการชั่วคราว หากเจ้าหนี้ไม่อนุมัติเงินกู้ ซึ่งเอกสารนี้ยังไม่ได้เผยแพร่แต่อย่างใด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* ความคืบหน้าการเจรจาหนี้ของกรีซ ตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้ ผู้นำยูโรโซนได้ให้เวลากรีซจนถึงวันที่ 15 ก.ค.นี้ ในการผ่านร่างกฎหมายต่างๆ ได้แก่การปรับขึ้นภาษีการขาย, การลดเงินบำเหน็จบำนาญ เพื่อแลกกับการรับความช่วยเหลือด้านการเงินระยะ 5 ปี
* การประชุมธนาคารกลาง BOJ ในวันพุธ และการประชุม ECB วันพฤหัสบดี
* การแถลงการณ์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐในช่วงกลางสัปดาห์
* ตัวเลขเศรษฐกิจ จีน Export-Import และ GDP สหรัฐ Retail Sales ยอดขายบ้านใหม่ และ CPI
ความคิดเห็น
ประเมินภาพรวมดัชนีมีแนวโน้มผันผวน จากประเด็นการเจรจาหนี้ของกรีซเป็นหลัก หลังเจ้าหนี้กำหนดเส้นตายในการแก้ไขกฎหมายภายในวันที่ 15 ก.ค. นี้เพื่อรับการช่วยเหลือทางการเงิน ก่อนการประชุม ECB ในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งคาดหมายผลการประชุมจะออกมาเป็นบวกเพื่อสร้างความมั่นใจต่อภาพรวมการเศรษฐกิจในยุโรป ด้านในประเทศความกังวลต่อปัญหาฟองสบู่ในจีนเริ่มลดลง ขณะที่ปัญหาภัยแล้งยังคงมีอยู่ซึ่งเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น กระทบต่อภาพรวมการส่งออก
กลยุทธ์การลงทุน
ประเมินดัชนีตอบรับปัญหากรีซไปพอสมควรแล้ว ลด downside ของดัชนี ประเมินการอ่อนตัวลง
ต่อเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมหุ้นที่มีการจ่ายปันผลน่าพอใจ หรือหุ้นที่ได้รับผลดีจากนโยบายรัฐ เช่นพลังงานทดแทน สื่อสารต่อประเด็น 4G และรับเหมาก่อสร้าง
วิเคราะห์ SET ประจำสัปดาห์ 13- 17 ก.ค. 58
สัปดาห์ของการเก็งกำไร
SET CLOSED : 1,484.90 points.
SET HIGH :1,486.29 points.
SET LOW :1,461.57 points.
RESISTANT : 1,500, 1,530 points.
SUPPORT : 1,476, 1,460 points.
SET สร้างระดับต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 เดือนที่ 1,461.57 จุด เป็นผลโดยตรงจากปัจจัยปัญหาหนี้ของกรีซ และความผันผวนหนักของตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง อันเนื่องจากความกังวลเรื่องฟองสบู่ตลาดหุ้นจีน กดดันให้ SET เหวี่ยงตัวมากตลอดสัปดาห์ แต่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมา เมื่อนักลงทุนหันมาเก็งกำไรเพราะเชื่อว่าการเจรจากรีซจะได้รับข่าวเชิงบวก และการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นฮ่องกง ทำให้กราฟแท่งเทียนสร้างรูป Positive Hammer ปิดสูงสุดของสัปดาห์ แม้ว่า RSI จะเคลื่อนไหวเป็น Down trend แต่แนว Support ที่ 40% สามารถรองรับได้ตั้งแต่ต้นปี และการบีบตัวของเส้น RSI resistant ที่ต่ำลงจนใกล้เส้น RSI จะทำให้เส้น RSI มีโอกาสดีดตัวผ่านเส้น resistant นี้ไปได้ง่ายจนเกิด buy signal ภายในกลางเดือน ดังนั้นทิศทางจึงมีแนวโน้มปรับขึ้น แต่ยังไม่น่าจะผ่าน 1,530 จุด ได้ง่ายนัก หรือหากผ่านก็จะยังไม่สามารถทะลุ 1,560 จุดได้ แต่หาก SET หลุดต่ำกว่า 1,560 จุด สัญญาณการขึ้นทั้งหมดนี้จะยกเลิก เป็นสัญญาณลงในทันที
กลยุทธ์
1. เก็งกำไรตามสัญญาณบวกของกราฟแท่งเทียน ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ และถือหุ้นต่อเนื่อง
2. หาก SET ย่อตัวเล็กน้อย ให้ทยอยสะสมหุ้น เว้นแต่หลุด 1,460 จุด ขายหุ้นให้หมด
3. เมื่อ SET เข้าใกล้แนวต้าน 1,530 จุด เริ่มทยอยขาย และหากยังปรับขึ้นใกล้ 1,560 จุดให้ขายหมด
TTA ราคาปิด 13.20 บาท
* แนวโน้มค่าระวางฟื้นตัวขึ้น สร้างสัญญาณบวกต่อผลประกอบการ หลังค่าระวางปรับตัวเพิ่มขึ้นทำ High ของปี 58
* คาดหมายการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของ Mermaid หลังเรือให้บริการนอกชายฝั่งหลายลำกลับเข้าประจำการ
* ปริมาณเงินสดอยู่ในระดับสูงเปิดโอกาสในการขยายการลงทุนเพิ่มเติม
* ราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่า Book Value ที่ 16.90 บาทต่อหุ้นมี Discount ที่น่าสนใจ
แนวโน้มทางเทคนิค แนวต้าน : 14.00, 14,50 แนวรับ : 13.00, 12.60
กราฟ TTA เข้าสู่โครงสร้าง W-shape เต็มตัว โดย RSI ไต่ระดับเป็น positive ช่วยส่งเสริมให้ราคาหุ้นแข็งแกร่งขึ้น มีเป้าหมายในการเดินหน้า 14.50 บาท
กลยุทธ์
1. ซื้อสะสม หรือซื้อเมื่ออ่อนตัว จากนั้นถือหุ้นไปยังแนวต้าน
2. แบ่งขายทีแนวต้าน เนื่องจากจะเข้าสู่แนว Overbought
3. แนวโน้มราคาไม่น่าจะสร้าง new low ดังนั้นให้เลือกฝั่งขาขึ้นจะได้เปรียบ
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ