- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 13 July 2015 16:57
- Hits: 1219
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Grexit?
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ SET INDEX ไต่ระดับขึ้นทดสอบและแกว่ง 1,480 จุด +/- ผลักดันด้วยกลุ่มธนาคาร อย่าง KBANK / BBL โดยกลุ่มธนาคารปิด +2.56% อีกทั้งกรีซได้ยื่นแผนปฎิรูปทันเวลาที่ผู้นำอียูกำหนดไว้ ทำให้บรรยากาศรอบเอเชียและยุโรปเป็นบวก ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 12.33 จุด มาอยู่ที่ 1,484.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,245 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาเป็นกลางอีกครั้ง แม้คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 3,909 ล้านบาท แต่กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ 5,368 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ 2,839 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
สภาฯ กรีซ ผ่านแผนปฎิรูปเศรษฐกิจกรีซแล้ว แต่ที่ประชุมผู้นำอียูเสนอเงื่อนไขที่เข้มข้นมากขึ้น และให้เวลา 3 วันนี้ในการดำเนินการ
ประธานเฟด ยืนยันจะยังเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
การพิจารณาผลการตรวจสอบนิวเคลียร์ของอิหร่าน เลื่อนมาเป็นวันนี้
เช้านี้ติดตามตัวเลขส่งออกเดือนมิ.ย.ของจีน ตลาดคาด +1.0% yoy จากเดือนก่อนหน้า -2.5% yoy
ติดตามการประกาศงบ 2Q58 ของ TISCO ในวันนี้ ส่วนธนาคารอื่นๆ จะทยอยประกาศตามมาจนถึงวันที่ 21 ก.ค.
มุมมองต่อตลาด
เราคงน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น "กลาง" วันที่ 6 พร้อมประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,475-1,495 จุด มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบาง เพราะความไม่แน่นอนของกรีซน่าจะยังคงกดดัน upside ของตลาดหุ้นไทย แม้ว่าในแง่ของปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนของไทยไม่นัยยะสำคัญกับประเด็นดังกล่าวก็ตาม
เราประเมินว่า กรีซ และ เจ้าหนี้ใหญ่อียู จะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ หลังผู้นำอียู ยื่นข้อเสนอให้ กรีซ ออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฎิรูปเศรษฐกิจภายใน 3 วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นภาษี VAT, การลดการใช้จ่ายในกองทุนบำเหน็จบำนาญ หรือการนำสินทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจกว่า 5.0 หมื่นล้านยูโร ไว้ที่ลักเซมเบอร์ก เพื่อเป็นหลักประกันและให้ดำเนินการแปรรูป รวมถึง หากรัฐบาลกรีซ ไม่ได้ดำเนินการตามแผนที่ตกลงกันไว้ ทางอียู สามารถเข้าแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลกรีซได้ทันทีเช่นกัน ดังนั้นใน 3 วันนี้ หากนายกฯ กรีซ สามารถดำเนินการได้ตามข้อเรียกร้อง ผู้นำอียูจะให้เงินกู้ 3 ปี วงเงิน 5.3 หมื่นล้านยูโร แก่กรีวเช่นกัน ทั้งนี้โอกาสที่กรีซจะออกจากยูโรโซนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความจริงใจของนายกฯ กรีซ ในครั้งนี้เช่นกัน
ขณะที่ ความเห็นของประธานเฟดต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่จะขึ้นภายในปีนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จึงไม่น่ามีผลต่อจิตวิทยาการลงทุนมากนัก แต่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีทิศทางของการแข็งค่า กดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมัน ทางอ้อม อีกทั้งการประชุม World Power เพื่อพิจารณาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน เลื่อนการตัดสินผลการตรวจสอบออกมาเป็นวันนี้
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ เรากลับให้น้ำหนักกับผลการดำเนินงาน 2Q58 ของกลุ่มธนาคาร ที่จะเริ่มประกาศตั้งแต่วันนี้ นำโดย TISCO หากออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ เชื่อว่า downside risk ของตลาดหุ้นไทยจำกัดมากยิ่งขึ้น แนวรับ 1,460-1,465 จุด จะทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง แต่หากออกมาต่ำกว่าคาด อาจกลายเป็นจุดที่เปิดความเสี่ยงให้แก่ตลาดหุ้นไทยได้ แรงขายหุ้นหลักในกลุ่มธนาคารจะเกิดขึ้นอีกระลอกหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่ขายทำกำไรเล่นรอบสั้นไปแล้วในปลายสัปดาห์ก่อน หากหุ้นเป้าหมายปรับฐานลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย อาจเป็นจังหวะของการเข้าเก็งกำไรอีกระลอก" ทั้งนี้เน้นหุ้นที่งบ 2Q58 จะเติบโตเด่น เป็นเป้าหมายหลัก
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH
Speculative Buy: NWR
Accumulative Buy: INTUCH
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. INTUCH : ราคาปิด 80.00 บาท ราคาเหมาะสม 105.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้น INTUCH จะ Outperform ตลาดได้ในวันนี้ เนื่องจากตลาดจะยังคงผันผวนจากปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังการประชุมผู้นำ EU วานนี้ยังไม่อนุมัติเงินช่วยเหลือ และให้เวลากรีซ 3 วัน เพื่อปรับโครงสร้างและแก้ไขกฎหมายให้เป็นไปตามเงื่อนไขของเจ้าหนี้ จึงคาดว่าจะส่งผลให้นักลงทุนปิดความเสี่ยงและเข้าลงทุนในหุ้น Defensive
b) ความคืบหน้าในการประมูล 4G เป็น Catalyst ใน 2H58 หลังกทค.มีมติเคาะร่างประมูล 4G คลื่น 1800 MHz แล้ว จำนวน 2 ใบอนุญาตที่ราคาเริ่มต้น 1.16 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการทำประชาพิจารณ์ในช่วงกลางเดือน ก.ค. และกำหนดวันประมูลในวันที่ 11 พ.ย.
c) ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง โดยคาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 2.20 - 2.30 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.8% และทั้งปี 2558 ที่ 5.7%
d) ทิศทางกำไรสุทธิ 2Q58 คาดว่าเติบโต yoy จากแรงหนุนของ ADVANC และ THCOM ที่กำไรสุทธิจะขยายตัว yoy และยังมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่องใน 2H58
e) ราคาปิดวานนี้ มีส่วนลด 16.5% จาก NAV ของมูลค่าเงินลงทุนใน ADVANC และ THCOM ชี้ให้เห็นกว่าการลงทุนใน INTUCH ถูกกว่าการลงทุนในบริษัทลูกโดยตรง
และ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
2. NWR : ราคาปิด 1.83 บาท ราคาเหมาะสม 2.60 บาท
a) ราคาหุ้นปรับตัวลง -2.1% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังมีรายงานข่าวว่า NWR ไม่ได้งานโครงการก่อสร้างท่าเรือและอุโมงค์ส่งน้ำในเวียดนามมูลค่า 3,000 ล้านบาท
b) MBKET ประเมินว่าข่าวดังกล่าวไม่ได้เป็นปัจจัยลบต่อประมาณการกำไรปี 58 - 59 แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นงานที่ NWR ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว และไม่นับรวมไว้ใน Potential Project ที่อยู่ระหว่างประมูลมูลค่ารวม 1.4 หมื่นล้านบาท
c) Backlog สิ้น 1Q58 สูงถึง 17,000 ล้านบาท เพียงพอที่จะรองรับรายได้ไปอีกอย่างน้อย 2 ปี และคิดเป็น Secured Revenue ของประมาณการรายได้ปี 58 และ 59 แล้วทั้งจำนวน
d) คาดกำไรสุทธิ 2Q58 เติบโตทั้ง yoy และ qoq จากการรับรู้รายได้งานที่มีอัตรากำไรสูง และผลประกอบการ 2H58 คาดว่าจะเติบโตก้าวกระโดดจาก 1H58 เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรจากธุรกิจอสังหาริมรัพย์ทั้งแนวราบและแนวสูง ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +1,716.5% yoy เป็น 176 ล้านบาท และต่อเนื่อง +76.2% yoy ในปี 2559 เป็น 310 ล้านบาท
e) ให้เป็น Top pick ของหุ้นกลุ่มรับเหมาขนาดกลาง และมี Upside จากราคาเหมาะสมถึง 42%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก US$425 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$586 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเริ่มปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Futures
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เท่ากับ 3,909 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 9,942 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเร่งขึ้นเป็น 32,315 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับ Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ 5,368 สัญญา เทียบกับ 6 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 16,585 สัญญา น่าจะยังเป็นการปิดสถานะ Short ครั้งแรก เมื่อ S50U15 ปิดต่ำกว่า Set50 Index กว้างขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เท่ากับ 13.87 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 10.52 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 28,1588 สัญญา
ทั้งนี้ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิ 2,839 ล้านบาท ทิศทางการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติมีไม่ชัดเจน ซื้อ - ขายสุทธิสลับกันไปในแต่ละวัน ขณะที่ราคาราคาพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 3 อีก 0.82bps จากวันก่อนหน้าลดลง 4.696bps ปิดที่ 2.816%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเหลือ 481 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 551 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 เน้นขาย PTT / SCC
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิลดลงเหลือ 478 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 651 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 2,002 ล้านบาท เน้นการลดน้ำหนักการลงทุนใน PTT ต่อเนื่อง สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1. กลุ่มพลังงานถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 560 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 345 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 197 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 227 ล้านบาท กลุ่ม ICT ขายสุทธิ 88 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 229 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารกลับถูกซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 399 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มโรงพยาบาล ซื้อสุทธิ 75 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ประธานเฟดยืนยันขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้:
ยืนยันการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายบางส่วนในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพื่อเป็นการนับหนึ่งของการปรับนโยบายการเงินสู่ระดับปกติ
แม้ว่าเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อจะยังมีความไม่แน่นอนสูง หากไม่เป็นไปตามคาด โอกาสที่จะเลื่อน หรือ เร่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
ทั้งนี้ปัจจัยที่กดดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการส่งออก และเชื่อมโยงสู่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันดิบที่ลดลง คาดหวังว่าปัจจัยดังกล่าวจะคลายตัวลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ ค่าเงินดอลลาร์จะมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันดิบ
IEA ปรับประมาณการความต้องการใช้น้ำมันลง: คาดปีหน้า ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน จาก 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดความสมดุลย์ระหว่างอุปสงค์ - อุปทานที่ดีขึ้น
World Power เลื่อนการพิจารณาผลการตรวจสอบนิวเคลียร์ของอิหร่านออกไป: เป็นวันที่ 13 ก.ค. ถือเป็นการเลื่อนเส้นตายครั้งที่ 3 ใน 2 สัปดาห์ ส่งผลให้สภาคองเกรสของสหรัฐฯ มีเวลาพิจารณาภาพรวมของผลสรุปดังกล่าว 60 วัน จากเดิมที่มีเวลาเพียง 30 วัน เท่ากับว่าเป็นการเลื่อนเวลาการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านออกไป
ยุโรป
สถานการณ์กรีซ
รัฐสภากรีซ รับรองแผนปฎิรูปเศรษฐกิจที่นายกฯ กรีซ ได้เสนอต่อ อียู ในการประชุมวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา
ธนาคารพาณิชย์กรีซเผชิญกับเงินสดที่ไหลออกวันละ 100 ล้าน หรือมากกว่า แม้ว่าทางการจะมีการควบคุมการถอนเงินที่เข้มงวดก็ตาม คาดธนาคารพาณิชย์จะไม่มีเงินเพียงพอต่อการไถ่ถอนตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 ก.ค.
ผลการประชุมผู้นำอียู สรุปได้ว่า
นายกฯ กรีซ เร่งดำเนินการตามเงื่อนไขต่างๆ ที่เคยตกลงกันไว้ในแผนการช่วยเหลือชุดก่อน ด้วยการออกเป็นกฎหมายภายใน 3 วันนี้
เงื่อนไขที่ผู้นำอียูเสนอ ด้วยการลดกองทุนบำเหน็จบำนาญ, ขึ้นภาษีขาย, การเปลี่ยนแปลงกฎหมายล้มละลาย, ความเป็นอิสระของหน่วยงานทางด้านสถิติ และการลดค่าใช้จ่ายอัตโนมัติหากงบประมาณไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเป็นส่วนที่นายกฯ กรีซ เสนอไปในสัปดาห์ก่อน ต้องดำเนินการออกมาเป็นรูปธรรมภายในวันที่ 15 ก.ค.นี้
เจ้าหนี้อียู สามารถเข้าดำเนินการได้อย่างเต็มที่แทนรัฐมนตรีของคณะรัฐบาลกรีซ และ สามารถคัดค้านการออกกฎหมายใดๆ ที่เป็นการขัดต่อเงื่อนไขที่ตกลงกับเจ้าหนี้
กรีซต้องโอนสินทรัพย์มูลค่า 5.0 หมื่นล้านยูโร ของรัฐวิสาหกิจ ไปยังลักเซมเบอร์ก เพื่อดำเนินการขาย และให้รัฐบาลกรีซ ไล่คนงานออก เพื่อลดค่าใช้จ่าย
จีน
47% หุ้นในตลาดเซี่ยงไฮ้ยังคงขอ H วันศุกร์ที่ผ่านมา: หรือคิดเป็น 1,365 บริษัท ลดลงจากวันที่ 9 ก.ค.ที่ขอขึ้น H ทั้งสิ้น 1,439 บริษัทหรือ 50% ของบริษัทจดทะเบียน เท่ากับว่ามูลค่าตลาดที่ถูกหยุดการซื้อขายคิดเป็น US$2.4 ล้านล้าน หรือ 36% ของมูลค่าตลาดทั้งหมดในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้
สมาคมยานยนต์ปรับประมาณการยอดขายรถยนต์ลง: คาดปีนี้เติบโต 3% ลดลงจากการประเมินเดือนม.ค.ที่ 7% และเป็นการเพิ่มขึ้นที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554 หลังตลาดหุ้นจีนปรับฐานลงแรง ลดกำลังซื้อของประชาชนลง
เอเชียแปซิฟิก
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของมาเลเซียขยายตัวดีกว่าคาด: เพิ่มขึ้น 4.5% yoy สำหรับเดือน พ.ค. เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 4.0% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาดเพิ่มขึ้น 3.1% yoy นำดดยภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น 3.2% yoy รวมถึงอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่ขยายตัวเด่น 9.0% yoy
ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดียต่ำกว่าคาด: เพิ่มขึ้นเพียง 2.7% yoy ในเดือน พ.ค. เทียบกับที่ Bloomberg Consensus คาดขยายตัว 4.0% yoy และเป็นการชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.4% yoy เป็นผลจากสินค้าอุปโภคบริโภคที่หดตัว 1.6% yo ขณะที่ภาคการผลิตและเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 2.2% และ 2.8% yoy ตามลำดับ ด้านการผลิตสินค้าทุนเพิ่มขึ้น 1.8% yoy เช่นกัน
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong