- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 July 2015 17:46
- Hits: 2437
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
ตลาดหุ้นต่างประเทศ :
- DJIA -261.49 (-1.47%) , NASDAQ -87.70 (-1.75%) , S&P -34.66 (-1.67% จุด) ตลาดหุ้นสหรัฐถูกกดดันจาก จากความกังวลว่า การร่วงลงแรงของตลาดหุ้นจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก นอกจากนี้ รายงานการประชุมของเฟด สะท้อนว่าเฟดได้มีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในต่างประเทศ และเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวปานกลางเท่านั้น
- FTSE +58.49 (+0.91%), CAC +34.38 (0.75%) และ DAX +70.52 (+0.66%) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการที่กรีซได้ยื่นแผนเพื่อขอรับเงินกู้ระยะ 3 ปีจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) แล้วเมื่อวานนี้ และมีท่าทีรอมชอมขึ้น โดยยืนยันว่าจะดำเนินการตามเงื่อนไขบางประการที่เจ้าหนี้ร้องขอ
- ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบ ส.ค.ดิ่งลง 68 เซนต์ หรือ 1.3 % มาปิดตลาดที่ 51.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยนอกเหนือจากความกังวลกรณีของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจจีน ปริมาณสต๊อกน้ำมันที่ประกาศโดย EIA ยังเพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย
- ราคาสัญญาทอง ส.ค.ปิดบวก 0.95 % สู่ 1,163.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนยังคงจับตาความแน่นอนที่เกิดขึ้นกรีซ และตลาดหุ้นจีน
เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ –2,323 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -24,696 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด : แกว่งลง
AIRA มองว่าภาวะตลาดที่ผันผวนอย่างมากในขณะนี้ จากปัจจัยที่เป็นที่ทราบกัน คือ กรณี EU-กรีซ ที่ยังตกลงกันไม่ได้เรื่อง แผนช่วยเหลือทางการเงิน/แผนปฏิรูป และกรณีของตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลดงลงถึง 30% ในช่วงเวลาเพียง 3 สัปดาห์ ซึ่งนำไปสู่ความกังวลที่ว่า อาจเกิดฟองสบู่ในตลาดหุ้นจีน ทั้งนี้ AIRA ประเมินว่า ปัญหาที่มีนัยฯ ต่อตลาดทุนไทย น่าจะเป็นเรื่องตลาดหุ้นจีนมากกว่า กรณีของกรีซ ทั้งในแง่ของขนาดของผลกระทบ และ ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ ที่จีนเป็นคู่ค้าหลักกับไทย โดยกรีซมีสัดส่วนในปริมาณนำเข้าส่งออกของไทยเพียง 0.04% ขณะที่จีนอยู่ที่ระดับ 13.98% (ข้อมูลจาก ธปท. ปี 57)
ทั้งนี้ในกรณีของกรีซ ตลาดทุนทั่วโลกได้ตระหนักถึงปัญหานี้ มานานแล้ว โดยกรีซเกิด Credit Event (เกิดปัญหาในการจ่ายชำระคืนหนี้) 2 ครั้ง คือในปี 2010 และ ปี 2012 ซึ่งทาง EU ได้เตรียมพร้อมและได้จัดตั้งเครื่องมือทางการเงินต่างๆ เข้ามาแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็น ESM, ELA, LTRO, QE รวมถึงวงเงินกู้จาก ECB+IMF เพื่อรับมือกับ Credit Event เหล่านี้ และเพื่อป้องกันปัญหาไม่ให้วิกฤติลุกลามสู่ประเทศสมาชิกอื่น โดยสรุป AIRA มองว่า ตลาดได้ตอบรับประเด็นกรีซเข้าไปพอสมควร และปัญหาดังกล่าวน่าจะมีผลกระทบในขอบเขตจำกัด เนื่องจาก และล่าสุดทางกลุ่มเจ้าหนี้ ก็ยังให้โอกาสกรีซ เสนอแผนฯ เข้ามาเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
ดังนั้นในระยะสั้น คงต้องจับตาประเด็นจากจีนซึ่งมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นมากกว่า ว่าทางการจีน จะออกมาตรการเพิ่มเติม ออกมาสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ได้อีกหรือไม่ หลังจากล่าสุดทางการจีน ได้อัดฉีดสภาพคล่อง เข้าสู่ตลาดหุ้นจีนโดย China Securities Finance Corp ได้รับเงินจากแบงค์ชาติจีน จำนวน 260 พันล้านหยวน เพื่อสนับสนุนวงเงินแก่ บ.โบรกเกอร์จีน จำนวน 21 แห่ง โดยเบื้องต้นทางการจีนได้ขอให้ บรรดา บ.โบรกเกอร์ เข้าซื้อ ETF ที่ผูกกับตลาดจีน จำนวน 128 พันล้านหยวน
ด้าน Downside ของตลาดหุ้นไทย เรามองว่าไม่ลึกนักจากการที่ ตลาดหุ้นได้ปรับฐาน มาระยะหนึ่ง แล้วประกอบกับ เรามองว่าตลาดทุนทั่วโลกกำลังผ่านช่วงที่ผันผวนที่สุดไปแล้วในระยะสั้น โดยเฉพาะในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดค่อนข้างปิด และจากข้อสังเกตเราพบว่า มาตรการที่จริงจังจากทางการจีน มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นจีนค่อนข้างมาก และน่าจะทำให้เสถียรภาพในตลาดทุนจีนกลับมาได้ ในระยะเวลาไม่นานเกินไป ครั้งนี้ AIRA ประเมินแนวรับระยะสั้น ที่ 1,430 – 1,450 จุด ซึ่งมองว่าน่าจะสร้างฐานได้
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.0606 อยู่ที่ 2.194% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +3.57 อยู่ที่ 19.66
หุ้นแนะนำ : SYNTEC
ประเด็นที่ต้องติดตาม (สัปดาห์นี้)
9/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
10/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง - พค.
สุดสัปดาห์ : สิ้นสุดกำหนดเวลา เสนอแผนปฏิรูปของกรีซต่อกลุ่มเจ้าหนี้
นักวิเคราะห์ : พลเทพ วง์นาค, FRM 02-684-8796