- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 07 July 2015 17:14
- Hits: 2751
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ซื้อเก็งกำไรจังหวะอ่อนตัว”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : SEAFCO จากซื้อ เป็นขาย
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ร่วง 1.1% ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค โดยมาจากความวิตกเรื่องกรีซอย่างไรก็ตาม การอ่อนลงของตลาดหุ้นไม่ได้รุนแรงมากเพราะนักลงทุนได้มีการปรับพอร์ตลงทุนรับความเสี่ยงเกี่ยวกับกรีซไปก่อนหน้านี้แล้วพอควร แต่การปรับขึ้นก็จะจำกัด โดยต้องประเมินความเสี่ยงก่อนว่ากรีซจะออกจากยูโรโซนแน่นอนแล้วหรือไม่ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ1.4 พันล้านบาท สถาบันในประเทศและพอร์ตบล.ขายสุทธิกลุ่มละ 500 กว่าล้านบาท ส่วนรายย่อยซื้อสุทธิ 2.6 พันล้านบาทรอผลประชุมรมว.คลังยุโรปว่าจะช่วยเหลือกรีซและเจรจากันต่อหรือไม่ในวันที่ 7 ก.ค.นี้ (แต่รมว.คลังกรีซขอลาออกแล้วให้นายกรัฐมนตรีเข้าประชุมแทน
เพราะมีเจ้าหน้าที่บางคนในยูโรกรุ๊ปไม่ต้องการเจรจากับรมว.คลังกรีซ) หลังประชาชนช่าวกรีซส่วนใหญ่ 61% ลงประชามติไม่เอามาตรการรัดเข็มขัดแบบที่เจ้าหนี้เสนอ อย่างไรก็ตาม รมว.คลังฝรั่งเศสยังมีความหวังว่าจะสามารถเจรจาร่วมกันหาทางออกได้ ซึ่งถ้าผลประชุมออกมาดีตลาดก็มีสิทธิรีบาวด์ได้ ทั้งนี้กรีซมีหนี้ที่ต้องชำระ ECB มูลค่า 3.5 พันล้านยูโรในวันที่ 20 ก.ค.นี้ ซึ่งหากไม่ชำระก็มีโอกาสสูงที่ECB จะยกเลิกการจัดสรรเงินช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับภาคธนาคารของกรีซ ซึ่งกรีซและเจ้าหนี้มีเวลาต่อรองกันอีก 13 วัน สำหรับผลกระทบของการลดลงราคาน้ำมันดิบ ถ้าอ่อนตัวลงต่อจะกระทบกำไรจากสต็อกของ BCP และ PTTGC ซึ่งใช้ราคา 7-10 วันแรกของเดือนก.ค.มาคำนวณสต็อกของสิ้น 2Q58 ส่วน TOP ใช้ราคาเฉลี่ยเดือนมิ.ย.มาคำนวณ ทำให้ระดับกำไร 2Q58 น่าจะโดดเด่นกว่า 2 บริษัทดังกล่าวการวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพตลาดโดยรวมเป็นลบ โดยมีแนวรับ 1460, 1440 ส่วนการรีบาวด์จะมีแนวต้าน 1480-1490, 1500สำหรับการ SCAN หาหุ้นที่มีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ SVOA, SOLAR, TPCH, BRR ส่วนหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็นTPOLY, UNIQ, NUSA หุ้นที่หลุด List เป็น TVO, CENTEL, MAJOR, VGI
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
• กรีซ : วันนี้ (7 ก.ค.58) จับตานายกรัฐมนตรีกรีซจะยื่นข้อเสนอใหม่เข้าสู่ที่ประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (EU) ที่กรุงบรัสเซลส์ ทั้งนี้กรีซมีหนี้ที่ต้องชำระ ECB ในวันที่ 20 ก.ค.นี้มูลค่า 3.5พันล้านยูโร ซึ่งสื่อต่างประเทศมองว่าการผิดนัดชำระหนี้อาจทำให้ECB ยกเลิกการจัดสรรวงเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน (EmergencyLiquidity Assistance) กับภาคธนาคารกรีซ
- สหรัฐ : ดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐเดือนมิ.ย.ลดลงเป็น 54.8ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 56.7
• ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนลง แต่ไม่มาก โดยดัชนี DJIA ลดลง 46.53จุด หรือ -0.26% ดัชนี NASDAQ ลดลง 17.27 จุด หรือ -0.34% และดัชนี S&P 500 ลดลง 8.02 จุด หรือ -0.39% การซื้อขายค่อนข้างซบเซา เพราะนักลงทุนยังกังวลเรื่องกรีซ หุ้นกลุ่มพลังงานลดลงตามราคาน้ำมันดิบ
-/• ราคาน้ำมันดิบร่วงแรง...วิตกเงิน US$ แข็งค่า โดยสัญญา WTIส่งมอบส.ค.ร่วง 4.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านBRENT ลดลง 3.78 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.54 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเป็นผลจากการแข็งค่าของเงิน US$ เพราะประเด็นกรีซ และประเด็นนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งการเจรจาระหว่างอิหร่านกับกลุ่ม P5+1(อังกฤษม จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหรัฐ เยอรมนี) ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ และวันนี้ (7 ก.ค.) ครบกำหนดเส้นตายในการหารือเรื่องนี้
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ : ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงแรงส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลาดน้ำมันสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ (หยุดชดเชยวันชาติสหรัฐ)และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้น หลังมีความเสี่ยงเรื่องกรีซเพิ่มมากนอกจากนั้นยังมีประเด็นนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งหากตกลงกันได้อิหร่านก็จะส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบจะยังคงมี Downside จำกัด จากการที่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐที่ลดลงต่อเนื่อง กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบทั้งในและนอกโอเปกพยายามประคองราคาน้ำมัน (BRENT) ให้อยู่ในระดับ 60 (+/-5) ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าเช้าวันนี้เด้งขึ้นแล้ว 0.8-1.0%
สำหรับผลกระทบกับหุ้นโรงกลั่นและปิโตรเคมี คือ ราคาน้ำมันดิบในช่วง 7-10 วันแรกของเดือนก.ค.จะมีผลกระทบต่อผลกำไร/ขาดทุนในสต็อกน้ำมันดิบของ PTTGC และ BCP โดยระดับกำไรจากสต็อกของทั้งสองบริษัทอาจจะต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ทำให้กำไรของTOP ใน 2Q58 จะดูดีกว่าเพราะคำนวณจากราคาน้ำมันเฉลี่ยในเดือนมิ.ย. ซึ่งจะมีกำไรจากสต็อกราว 2-3 ดอลลาร์/บาร์เรล กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นใน TOP ส่วน BCP และ PTTGC แนะนำซื้อลงทุนจังหวะราคาอ่อนตัว
+ ราคาทองคำปรับขึ้น โดยสัญญา COMEX ส่งมอบส.ค.เพิ่มขึ้น 9.7ดอลลาร์ หรือ +0.83% ปิดที่ 1173.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยเสี่ยงเรื่องกรีซทำให้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อทองคำ อย่างไรก็ดี ราคาทองไม่ได้พุ่งขึ้นแรงมากเพราะการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นแรงกดดันอยู่
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
• กลุ่มที่พักอาศัย : ราคาปรับขึ้น 3-5% โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑลช่วง 2Q58 ปรับขึ้น 3.4-5.2% YoY โดยดัชนีราคาคอนโดปรับขึ้นมากสุด (5.2% YoY) รองลงมาเป็นราคาทาวเฮ้าส์ และบ้านเดี่ยวทางนายกสมาคมอาคารชุดไทยกล่าววว่าปัจจัยที่ทำให้ราคาที่พักอาศัยปรับขึ้นมาก คือ ราคาที่ดินสูงขึ้น โดยเฉพาะทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า BTS
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ : ยอดขายของกลุ่มที่พักอาศัยในทำเลกลางเมืองยังไปได้ดี เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มกลาง-บนยังมีกำลังซื้อ เพียงแต่มีความระมัดระวังเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ในปริมณฑลและต่างจังหวัดค่อนข้างซบเซาเพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคกลุ่มกลาง-ล่างลดลงมาก จากภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และเศรษฐกิจชะลอตัวนานกว่าคาด ดังนั้นในการลงทุนกลุ่มที่พักอาศัย จึงเน้นไปยังบริษัทขนาดใหญ่ที่มีธุรกิจมั่นคง มี Valuation จูงใจ และจ่ายปันผลดี ซึ่งหุ้นเด่นประกอบด้วย AP(ราคาพื้นฐาน 8.8 บาท), QH (ราคาพื้นฐาน 3.8 บาท), SPALI (ราคาพื้นฐาน 25 บาท)
• กลุ่มสื่อสาร : กทค.เคาะราคาประมูล 4G เริ่มต้นใบละ 1.16หมื่นล้านบาท สำ หรับคลื่น 1800 MHz จำ นวน 2 ใบอนุญาตใบอนุญาตละ 12.5 MHz โดยจะมีการทำประชาพิจารณ์ในวันที่ 17ก.ค.นี้ และจัดประมูล 11 พ.ย.58 ... นับว่าการเปิดประมูล 4G มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยทางกทค.คาดว่าราคาใบอนุญาตจะไม่ต่ำ เพราะคลื่น 1800 MHz เหมาะกับการให้บริการ 4G มากกว่าคลื่นอื่นๆ เรามองว่าการเปิดประมูล 4G จะเป็นปัจจัยกระตุ้นหุ้นในกลุ่มสื่อสาร ซึ่งรวมถึงการวางระบบ ICT ให้คึกคักขึ้นด้วย โดยมูลค่าเพิ่มจาก 4G จะเห็นในระยะกลาง-ยาว ขณะที่ระยะสั้นผู้ประกอบการที่ประมูลใบอนุญาตมีภาระเรื่องการลงทุนในใบอนุญาตและโครงข่ายทำให้กำไรจะเติบโตไม่มาก ให้น้ำหนักลงทุนเป็น Neutral ในกลุ่มสื่อสาร โดยจุดเด่นคือ การจ่ายปันผลสูง หุ้น Top Pick คือ INTUCH (ราคาพื้นฐาน90 บาท)
• วันนี้ครม.จะพิจารณาแต่งตั้งผู้ว่าการธปท.คนใหม่ ซึ่งมีกระแสคาดการณ์ว่าจะเป็นดร.วิรไท สันติประภพ โดยตามกำหนดต้องเสนอก่อนคนเก่าหมดวาระภายใน 90 วัน...คาดว่าประเด็นนี้จะมีผลกระทบต่อตลาดทุนในระยะสั้นไม่มากนัก ส่วนในระยะกลาง-ยาวก็ต้องติดตามดูผลงานต่อไป
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]