- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 06 July 2015 17:29
- Hits: 2261
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
บทวิจัยตลาดทุนกรุงศรี
ตลาดหุ้นวันศุกร์ที่ผ่านมา: SET ผันผวนในกรอบแคบ โดยมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิ 1,465 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และกลับมาขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 955 ล้านบาท และNet short TFEX 4,258 สัญญา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: SET น่าจะปรับลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับลงทั่วหน้าประมาณ 0.5-1% แต่คาดว่า SET อาจลงไม่มากเท่ากับภูมิภาค หุ้นในกลุ่มน้ำมันมีโอกาสปรับลงต่อ จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลง
กลยุทธ์วันนี้ : Selective BUY
Speculative BUY :
• AOT และ ADVANC
Accumulative BUY : SCN EPG TPCH และ GUNKUL High Div. Stock: ADVANC (คาดปันผลปีนี้ 17 บาท/หุ้น)
KSS report วันนี้ : BBL (BUY/เป้า 170 บาท)
(-) กรีซไม่รับแผนมาตรการรัดเข็มขัด แต่ก็อยากอยู่กับกลุ่มยูโรโซน เราเชื่อว่าเป็นการเพิ่มอำนาจต่อรองบนโต๊ะเจรจารอบใหม่: ผลประชามติวานนี้ประชาชนกรีซกว่า 61% ไม่รับมาตรการรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้ เราเชื่อว่าผลโหวตแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของกรีซและยังกลับทำให้กรีซมีอำนาจในเจรจาการต่อรองกับเจ้าหนี้มากขึ้น แล้วจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อันดับแรกคือ จะเกิดการเจรจารอบใหม่พร้อมเงื่อนไขใหม่ โดยผู้นำกลุ่ม EU จะมีประชุมผู้นำในวันอังคารนี้ อันดับที่ 2 กรีซจะยังถูกควบคุมการเคลื่อนย้ายเงิน (Capital Control) ตลาดหุ้นและแบงก์ของกรีซยังถูกปิดต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามผลโหวตครั้งนี้จะมีผลกระทบด้านลบต่อตลาดหุ้นและตลาดเงิน โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐ (เช้านี้ Dow Junes Future ปรับลงกว่า 200 จุดหรือ 1%) ส่วนตลาดเอเชียเช้านี้เปิดติดลบราว 1-1.5% ค่าเงินภูมิภาคอ่อนค่าตามค่าเงินยูโร เหตุที่ตลาดหุ้น panic เพราะกลัวว่าหากกรีซออกจากกลุ่ม EU จะมีประเทศอื่นอย่างอิตาลี สเปน ออกตามด้วย เราเชื่อว่า ผลกระทบต่อระบบการเงินยุโรปและสหรัฐมีน้อยเพราะเศรษฐกิจกรีซคิดเป็นแค่ 1-2% ของกลุ่มยูโรโซน และ 0.3% ของโลก ประกอบกับหนี้ของกรีซส่วนใหญ่ถือโดย ECB และ IMF มีสถาบันการเงินต่างประเทศถือน้อยมาก ระบบการเงินกรีซและยูโรโซนยังมีเสถียรภาพจาก ECB ยังให้เงินช่วยเหลือฉุกเฉิน (ELA) ต่อเนื่อง แม้กรีซค้างจ่ายหนี้ IMF US$1.7 พันล้าน และ ในวันที่ 20 ก.ค ต้องจ่ายหนี้ ECB อีก 4.2 พันล้านยูโร อย่างไรก็ตาม panic จะเกิดเพียงระยะสั้นเท่านั้น
(-) ภาวะส่งออกไทยยังน่าห่วง ส่วนใหญ่เกิดจากเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืด โดยเฉพาะจีนที่มีเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามรัฐเร่งกระตุ้นการส่งออก และอาจทำให้ค่าเงินบาทอ่อนมากขึ้น ซึ่งเช้านี้ค่าเงิบบาทอ่อนค่าจนแต่ระดับ 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบโลกปรับลงต่อเนื่อง จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร ประกอบกับจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 31 สัปดาห์ ดังนั้นหุ้นในกลุ่มน้ำมันโดยเฉพาะกลุ่มปตท. จะได้รับผลกระทบในเชิงลบ แต่หุ้นในกลุ่มสายการบิน การท่าอากาศยาน ท่องเที่ยว จะได้ประโยชน์
(0) BBL (HOLD/เป้า 170 บาท) – ราคาน่าสนใจ แต่แนวโน้นยังไม่สดใส
• คาดกำไรสุทธิ 2Q15 ลดลง 14%yoy จากต้นทุนเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นและ NIM ลดลง
• คาด NPLs ใน 2H15 จะปรับตัวสูงขึ้นจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอกดดันให้ภาพรวมทั้งปีมีกำไรสุทธิลดลง
• เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 32,636 ล้านบาทลดลง 10%yoy