- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 July 2015 18:33
- Hits: 2122
บล.โนมูระ พัฒนสิน : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แกว่งขึ้นจำกัด : เน้นสะสมหุ้น Bottom Play (CPF), อานิสงค์โครงการภาครัฐ (CK) และEarning เด่น (PLANB)
Nomura : Key Factors
(+) Int Factor: ครม.สรุปเส้นทางรถไฟไทย-จีน 15 ก.ค.นี้ / คาดเสนอ ครม. ก.ย. นี้
(+)Int Factor: ครม. ไฟเขียวร่าง MOI ไทย-เมียนมา-ญี่ปุ่น พัฒนาทวาย /คาดเซ็นต้น ก.ค. นี้
(+) US Econ: ADP รายงานจ้างงานเอกชน มิ.ย. ที่ 237K จาก 201 K ดีกว่าคาดที่ 218K
(+) Int Factor: เฝ้าระวัง MERS หาก 2 ก.ค. นี้ไม่มีผู้ป่วยเพิ่ม จะประกาศไทยปลอดเชื้อ
(+) Fund Flow: ต่างชาติซื้อ 76 ลบ., Long Future 204, ขาย Bond 329 ลบ.
(*) Ex Factor: ติดตามสถานการณ์กรีซ ที่เตรียมทำประชามติ 5 ก.ค. นี้
(*) Currency: Dollar Index ขยับแข็งค่าสู่ระดับ 96.38 จุด จากดัชนีเศรษฐกิจที่แกร่งขึ้น
(-) TH Econ: MPI พ.ค.-7.6%จาก-5.3% และแย่กว่าคาดที่ -5%/ เงินเฟ้อลบ. 6เดือนติด
(-) Commo: ราคาน้ำมันดิบ WTI รวมสองวันที่ผ่านมา -2.3% สู่ $56.95/bbl
SET Forward PER 15F: CNS 14.25x vs Cons. 15.26x (LT-Avg 14.0x)
SET Target 15F: CNS Base 1757 pts vs Cons. 1720 pts
Nomura Daily Top Picks: CPF, CK, PLANB
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ ขึ้นจำกัด ในกรอบแนวต้าน 1512/1518 จุด และแนวรับ 1499/1495 จุด แม้ท้ายที่สุด กรีซจะไม่สามารถชำระหนี้ IMF ราว 1.6 พันล้านยูโร ได้ทันตามกำหนด 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดตอบรับไปแล้วในช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนที่น้ำหนักของการลงทุนจะให้น้ำหนักต่อพัฒนาการบวกมากกว่า หลังเห็นพยายามเจรจาระหว่างกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ในการต่อรองเงื่อนไขกันต่อเนื่อง และนายกฯ กรีซ เน้นย้ำการทำประชามติในวันที่ 5 กค. นี้ จะเป็นการเพิ่มความชอบธรรมในการต่อรองเงื่อนไข ไม่ใช่การขออกจากกลุ่ม และเน้นย้ำว่า ว่ายังต้องการอยู่ในกลุ่มยูโรโซน ปัจจัยดังกล่าวน่าจะช่วยให้การเจรจามีความคืบหน้าขึ้นเรื่อย ๆ และจะทำให้ประเด็นกรีซผ่อนคลายลงในที่สุด หนุนให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัว โดยช่วงที่ตลาดหุ้นไทยหยุดทำการพบว่า ตลาดหุ้น US ขยับขึ้น +0.9% และตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวขึ้น +0.8% แรงหนุนจากการรายงานดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ
ทั้งการจ้างงานภาคเอกชนของ US และ ดัชนีภาคการผลิตของ US ที่ฟื้นตัวขึ้นมากกว่าคาด รวมถึง ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจของยูโรโซน ที่เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ระยะสั้นยังคงได้รับแรงกดดันจากทิศทาง Dollar ที่ขยับแข็งขึ้นสู่ระดับ 96.38 จุด ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงราว 2.3% กดดันสั้นต่อกลุ่ม ENERG ส่วนปัจจัยในประเทศ เริ่มมีความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในส่วนของ เส้นทางรถไฟไทย-จีน ซึ่ง กระทรวงคมนาคม เตรียมสรุปรายละเอียดเส้นทาง 15 ก.ค.นี้ และคาดจะขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีได้ในเดือน ก.ย. นี้ นอกจากนี้ ครม. เห็นชอบร่างบันทึกแสดงเจตจำนงสามฝ่าย (MOI) ระหว่าง ไทย-เมียนมา-ญี่ปุ่น เกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย โดยคาดสามารถเซ็นได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ เพิ่ม sentiment บวกต่อกลุ่มรับเหมา และภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่จะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นในช่วงถัดไป เป็น Upside Risk หนุนตลาดมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ โดย CNS ประเมินกรอบต้านเดือน ก.ค. ของ SET ที่ 1550/1575 จุด
Asset allocation : หุ้น 80% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%
Short-Term Strategy : กลุ่มเล่นรอบยังคงแนะกลยุทธ์ ย่อซื้อ-ดีดตัวขาย ขณะที่กลุ่มลงทุนแนะค่อยๆ ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานแกร่ง เนื่องจากประเมิน Downside ของตลาดค่อนข้างจำกัด โดยเน้นในกลุ่มที่ได้อานิสงค์เม็ดเงินภาครัฐเร่งตัวใน 2H15 (CK, SCC), กลุ่มที่คาด Earning Momentum เด่น (PLANB, CBG, SPA), High Dividend (ADVANC, INTUCH), Bottom Play (TVT, WORK, LPN, CPF, ROBINS) พลังงานทางเลือก (DEMCO, GUINKUL) รวมถึงหุ้น Top Picks เดือน กค 2015 AGE, SPA, PLANB, DEMCO, IRPC, TVT สำหรับวันนี้แนะนำ *Daily Top Picks CPF, CK, PLANB*
Mid-Long Term Strategy : คาด SET ฟื้นตัว สู่ต้าน 1550/1575จุด ในเดือน ก.ค. 2015 กลุ่มที่จะนำตลาดในเดือน ก.ค. 2015 คือ กลุ่มปันผลสูง ICT (ADVANC & INTUCH), CONMAT(SCC) ผสานกลุ่มโรงกลั่น(IRPC) และรอสะสมหุ้น BANK(KBANK, SCB bottom out หลังงบ 2Q15 ออก) ผสานหุ้นที่คาดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว (TVT, WORK, LPN, CPF, ROBINS) และ Theme เด่นที่น่าสนใจเช่น พลังงานทางเลือก (DEMCO, GUNKUL) และหุ้นที่ได้อานิสงค์งานภาครัฐเร่งตัวขึ้น (CK, STEC, SCC) ส่วนกลุ่มที่ Underperform ในเดือนนี้คาด AUTO, AIRLINE จากแนวโน้มกำไรอ่อนตัว และ ICAO กดดัน Sentiment ตามลำดับ โดยเดือนนี้เน้น Mid-Small Cap เป็น Portfolio Top picks JULY 15 AGE, IRPC, DEMCO, SPA, TVT, PLANB / Dark Horse ADVANC, INTUCH, CPF ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะสะสมหุ้น 3Q15 Top Picks KBANK, CK, SCC, LPN, ROBINS, TVT
Investment Theme :
* Summer Play-Beverage: CBG, ICHI
* JUL15 Top Picks : AGE, SPA, PLANB, DEMCO, IRPC, TVT
* 3Q15 Top Picks : KBANK, CK, SCC, LPN, ROBINS, TVT
* 2015 Top Picks : ADVANC, AOT, CPALL, ROBINS, BANPU, KBANK, CK, SCC, LPN, TVT
หุ้นเข้า SET50 : BA, BMCL, CBG, ITD, SAWAD, TPIPL, WHA
หุ้นออก SET50 : BAY, BIGC, BJC, KTIS, SCCC, SPALI, VGI
หุ้นเข้า SET100 : ASP, BA, BEAUTY, CBG, CKP, LHBANK, MONO, S, SAPPE, U, RS, UNIQ, WHA
หุ้นออก SET100 : BAY, BCH, BIGC, BJC, IFEC, KTIS, MEGA, NOK, PTG, SCCC, SIM, STA, THREL
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
CPF (TP27*) : Support 23.5/23.0 Resistant 24.4/25.5
Theme : Bottom Plays / ได้รับประโยชน์จาก US ต่ออายุ GSP
Earning outlook : คาดกำไรสุทธิจะดีขึ้น ในปี FY15F โดยเฉพาะใน 2Q15F เป็ นต้นไป เพราะ 1) การเลี้ยงกุ้งในประเทศน่าจะดีขึ้น ตามลำดับ ทำให้ขาดทุนในธุรกิจกุ้งในปี FY15F ลดลงจากปี FY14 2) ธุรกิจสัตว์บกในประเทศจะดีขึ้น ในด้านปริมาณแต่ราคาในประเทศคาดว่าจะอ่อนตัวตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น 3) ธุรกิจต่างประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น ในเวียดนาม-อินเดีย
Valuation : เราแนะนำ BUY CPF ด้วยราคาเป้าหมาย 27 บาท (พีอี 16.2 เท่า) คาดกำไรสุทธิจะดีขึ้น ในปี FY15F
Catalyst : คาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว / รับอานิสงค์บวกจาก US ต่ออายุ GSP ให้กับประเทศกำลังพัฒนารวมถึงไทย กระตุ้นส่งออก
CK (TP34*) : Support 26.5/25 Resistant 28.0/30.0
Theme : Infrastructure Spending
Earning outlook : รายได้ก่อสร้าง ปี 15F ราว 32,000 ล้านบาท สามารถรักษาอัตรากำไรที่ดี ที่ระดับ GPM 8-10% และ มีต้นทุนการเงินลดลง
Valuation : Sum-of-The-Parts ราคาเป้าหมายที่ 34 บาท
Catalyst : โครงการภาครัฐที่มีแนวโน้มเปิดประมูลเพิ่ม (รถไฟฟ้าสายสีส้ม, มอเตอร์เวย์ พัทยา-มาบตาพุด, รถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น มูลค่าเปิดประมูลปี 2015F อีกไม่ต่ำกว่า 1.7 แสนล้านบาท เราคาดปีนี้ CK มี Backlog ในมือราว 1 แสนล้านบาท ปี 2015F
PLANB (TP6.9*) : Support 5.5/5.2 Resistant 6.0/6.3
Theme : Digital Transformation
Earning outlook : CNS คาดกำไรสุทธิปี 2015 เติบโตสูงถึง 99% y-y ที่ ระดับ 410.3 ล้านบาท ด้วยอัตราเฉลี่ยในช่วง 3 ปีข้างหน้าที่ 51.7% (CAGR) จากการรับรู้รายได้เต็มปีของโครงการที่เปิดตัวไปในปี 2014 แล้วยังมีรายได้จากอีก 7 โครงการรวมไปถึงรายได้จาก Hello Bangkok (HBK) ที่คาดว่าจะสูงถึง 480 ล้านบาท ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรคาดว่าจะดีขึ้นสอดคล้องกับ Utilization ที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Valuation : มูลค่าเหมาะสมปี 2015 อยู่ที่ 6.90 บาท ด้วยวิธี DCF (WACC 9.2%, L-T 4.0%)
Catalyst : CNS คาดผลประกอบการงวด 2Q15 สดใสจากเม็ดเงินโฆษณาที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จากดีล HBK ทำให้ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้เราคาดกำไรสุทธิที่ระดับ 85 ล้านบาท (+62% y-y ,+82% q-q)