- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 July 2015 18:28
- Hits: 1969
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +138.40, NASDAQ +26.26, S&P +14.31, FTSE +87.61, CAC +92.99 และ DAX +235.53 หลังตลาดส่วนใหญ่สะท้อนปัจจัยลบปัญหาหนี้สินของกรีซ และหันไปตอบรับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้แก่ (1) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน – มิย. เพิ่มขึ้น 237,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่คาดจะเพิ่มขึ้น 220,000 ราย และอยู่ระหว่างรอตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร – มิย. (วันนี้) คาดเพิ่มขึ้น 233,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.4% จาก 5.5% เมื่อพค. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต – มิย. อยู่ที่ 53.5 เพิ่มขึ้นจาก 52.8 เมื่อพค และ (3) การใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง – พค. เพิ่มขึ้น 0.8% อยู่ที่ 1.04 ล้านล้านUSD
ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่ตค.’51 สะท้อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
.....ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป มีมุมมองที่เป็นบวกต่อสถานการณ์หนี้ของกรีซ หลังกรีซได้ยื่นข้อเสนอใหม่ต่อกลุ่มเจ้าหนี้ อย่างไรก็ตามการประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรป หรือยูโรกรุ๊ป ซึ่งเสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทยนั้น ที่ประชุมไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ เกี่ยวกับหนี้สินของกรีซ และจะยังไม่มีการเจรจาใดๆ กับกรีซ จนกว่าการทำประชามติของกรีซจะเสร็จสิ้นลงในวันอาทิตย์นี้ (5/7/58)
…..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน สค. -US$2.51 อยู่ที่ US$56.96 ต่อบาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบล่าสุด เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 465.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 9 สัปดาห์ และสวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้
ยังได้รับแรงกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น
......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ส.ค. -US$2.5 อยู่ที่ US$1,169.3 ต่อออนซ์ จากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น และตัวเลขการจ้างงานของที่แข็งแกร่งข้างต้นกระตุ้นให้มีการขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +76 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -15,667 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสปรับขึ้น แม้ยังมีปัจจัยต่างประเทศกดดันแต่
คาดตลาดสะท้อนไปบ้างแล้วในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่แนะติดตามสถานการณ์กรีซต่อเนื่องคาดเข้าสู่ช่วงวิกฤติ หลัง IMF ระบุกรีซผิดนัดชำระหนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามตลาดมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้น จากความเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาอีกครั้งหลังการลงประชามติ (5/7/58) แม้กรณีเลวร้ายสุดกรีซต้องออกจากกลุ่มยูโร
คาดผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอาจเป็นไปอย่างจำกัด
....ทางด้านปัจจัยในประเทศ ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ คาด (+/-) จาก Fund Flow ภาพรวมยังมีความผันผวน แรงซื้อ / ขายสุทธิของต่างชาติสลับกันไป แต่ยังอยู่ในทิศทางเดียวกับภูมิภาคส่วนใหญ่ คาดเริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน – 2Q/58 ที่คาดอาจมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่อง – กลาง สค. จากกลุ่มธนาคารที่คาดทยอยประกาศฯ กลาง กค. นี้
....ยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP, PTTGC, IRPC และ BCP ตามการเคลื่อนไหวของค่าการกลั่น ซึ่งช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 8 – 9 USD/bll (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, SEAFCO และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 33.80 – 33.82 คาดมีผลต่อกลุ่มส่งออก และหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA, HANA, SMT ตามค่าเงินบาท (+) หากเงินบาทอ่อนตัว และ (-) หากเงินบาทแข็งค่าขึ้น (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO เป็นต้น
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.08 อยู่ที่ 2.42% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -2.14 อยู่ที่ 16.09
หุ้นแนะนำ : CENTEL
ประเด็นที่ต้องติดตาม (2 – 3 กค. ’58)
2/7/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - มิย. (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (3) ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ค - มิย.(4) ยอดสั่งซื้อของโรงงาน - พค.
3/7/58 : ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากหน่วยงานราชการ ตลาดหุ้น และตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันชาติสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788