- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 June 2015 17:11
- Hits: 5533
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
S-T Rebound
วันนี้คาด รีบาวด์สั้น แนวต้าน 1,515/1,518 จุด แนวรับ 1,508 จุด ตลาดหุ้นภูมิภาครีบาวด์จาก ข่าวเมื่อวาน European Commission จะผลักดันข้อเสนอปฏิรูปครั้งใหม่แก่กรีซ เพื่อพยายามนำกรีซกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา, นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มองว่า เจ้าหนี้กรีซได้แปรจากสถาบันการเงินเอกชนมาเป็นองค์กรภาครัฐฯ ทำให้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจมีจำกัดไม่เหมือนกรณี Lehman brothers, MS คาดผลกระทบกรณีกรีซออกจากยูโรโซนจะฉุด GDP ยุโรปติดลบ จากการบริโภคชะลอลงเพราะขาดความเชื่อมั่น แต่จะทำให้ FED ต้องยืดระยะเวลาในการขึ้นดอกเบี้ยนานออกไปอีก
ระยะสัปดาห์ตลาดผันผวนตามสถานการณ์กรีซ คาดก่อนถึงวันอาทิตย์ที่ 5 กค. จะมีผลโพลออกมาเป็นระยะในประเด็น รับ หรือ ไม่รับ เงื่อนไข เจ้าหนี้ ซึ่งกรณีที่เป็นบวกต่อตลาด คือ ผลโพล/มติรับเงื่อนไข หรือกรีซเปลี่ยนใจกลับสู่โต๊ะเจรจา กรณีที่เป็นลบ คือ ผลโพล/มติ ไม่รับเงื่อนไข และกรีซจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ สุดท้ายออกจากยูโรกรุ๊ป
เดือน กค. แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับสำคัญ/Stop loss 1,480 จุด ก่อนหน้านี้ที่ให้ซื้อคืนหุ้นบูลชิพ พลังงาน โรงกลั่น ปิโตรฯ แบงก์ บ้าน มาตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มิย.เป็นต้นมา ปรากฏว่า มีเพียง แบงก์ และกลุ่ม Upstream-PTTEP BANPU ที่ไม่ค่อยขึ้น-ผิดคาด ที่เหลือปรับขึ้นตามคาด กลยุทธ์ระยะเดือน กค. จากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นช้า คาดหุ้นกลุ่ม Domestic play (แบงก์ บ้าน ค้าปลีกฯลฯ) ยังคงให้ผลตอบแทนแย่กว่ากลุ่ม Global cyclical, กลุ่มปันผลสูง Safe haven play และหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว (สำหรับกลุ่ม Global cyclical แนะทยอยล็อกกำไร ปิโตรฯ โรงกลั่น (Middle stream) แล้วถือเงินสด รอหลังวันที่ 5 กค. เมื่อชัดเจนค่อยเริ่มเข้าเล่นรอบ กลุ่ม Upstream
แนะนำ BANPU)
หุ้นแนะนำ ECF (แนวรับ 4.98 บ.ต้าน 5.3/5.5 บ.) RCI (แนวรับ 5.5 บ. ต้าน 6 บ.)
BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(-) KBANK เราปรับราคาเป้าหมายลงอีก เหลือ 225 บาท (เดิม 244 บาท) จากผลกระทบปรับ Credit cost เพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนตั้งสำรองเพิ่มขึ้น และกำไรปี 2015-16 ปรับลง 16-8% ตามลำดับ ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q15 คาด กำไร 1.1 หมื่นล้านบาท -6% y-y และ -11% q-q
(-) เราออกรายงานวิเคราะห์เชิงปริมาณ ยกเลิกเป้าหมายในระยะสั้นที่คาดว่าดัชนีฯจะขึ้นไปถึง 1,560 จุด และ ขายหุ้นที่เพิ่งให้ซื้อเข้าพอร์ต Quant ไปก่อนหน้านี้ โดยขายหุ้น AOT JMART RS TUF WORK ออกไปก่อน จาก Indicator ทางการวิเคราะห์เชิงปริมาณ ส่งสัญญาณหุ้นไทย และหุ้นโลก จะปรับลงจากความเสี่ยงกรีซ
หุ้นมีข่าว
(+) RCI UMI ทุนใหญ่ขอซื้อ RCI แบบยกล็อต 32.26% เพื่อ Backdoor listing สวมธุรกิจพลังงานและอื่นๆ ด้าน UMI คาดโกยกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนราว 0.90 บาท (ที่มาทันหุ้น)
(+) ECF ควง FPI บุกธุรกิจพลังงาน ลงขันทำธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล บอส GUNKUL มีเอี่ยวงานนี้ คาดกำลังผลิตเบื้องต้น ราว 100 MW รับรู้รายได้ปีหน้า (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) นายปิแอร์ มอสโควิซี กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยกับสื่อของฝรั่งเศสว่า นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) จะผลักดันข้อเสนอด้านการปฏิรูปครั้งใหม่แก่กรีซที่กรุงบรัสเซลส์ ซึ่งเป็นความพยายามเพื่อที่จะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ นายมอสโควิซีกล่าวว่า EC ยินดีจะเปิดการเจรจากับกรีซอีกครั้ง ขณะที่สื่อต่างประเทศรายงานว่ายังมีโอกาสสำหรับการเจรจากัน (ที่มา อินโฟเควส)
(+) เมื่อ 28 มิย.ที่ผ่านมา จีนประกาศลดดอกเบี้ยอีก 0.25% โดยเงินกู้เหลือ 4.85% และเงินฝากเหลือ 2% (เป็นการลดครั้งที่ 4 ในรอบ 7 เดือน) และ ลด RRR ลงอีก 0.50% ลดเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 5 เดือน
(-) สศค.เตรียมปรับเป้าเศรษฐกิจไทยลง หลัง ส่งออกไทย มีความเสี่ยงแย่กว่าคาดจากเดิมมองปีนี้ +0.2% แต่ 5 เดือน ติดลบไปแล้ว 4.2% ขณะที่ MS มองกรณีแย่สุด คือ กรีซออกจาก EU และไม่มีการสนับสนุนด้านการเงินจาก EFSF จะส่งผลต่อ การผิดนัดชำระหนี้ แบงก์เจ้าหนี้ต้องตั้งสำรอง ฯลฯ ฉุดความเชื่อมั่นในการบริโภคของยุโรปทำให้เศรษฐกิจยุโรปพลิก ติดลบ และถดถอยรอบใหม่ (กระทบเศรษฐกิจไทย ในแง่การส่งออก)
(-) อังคาร โปรแกรมเงินกู้ฉุกเฉินกรีซ จาก EFSF สิ้นสุดลงวันนี้, กรีซต้องจ่ายเงินกู้คืนให้ IMF ราว 1.5 พันล้านยูโร, เงินเฟ้อยูโร (มิย.) คาด +0.2% จาก +0.3% y-y, ตัวเลขเศรษฐกิจไทยรายเดือน คาด Current account +US$0.9 พันล้าน จาก +US$1.1 พันล้าน และดัชนีฯการผลิต (พค.) -5.1% จาก -5.3%
(*) พุธ US ISM ภาคการผลิต (มิย.) คาด 53.1 จาก 52.8, EU PMI ภาคการผลิต (มิย.) คาด 52.5 คงที่, ญี่ปุ่น Tankan survey (มิย.)คาด 12 คงที่, จีนรายงาน ดัชนีภาคการผลิต PMI (มิย.)คาด 50.4 จาก 50.2 , ไทย เงินเฟ้อ มิย. คาด -1% จาก -1.3% y-y
(+) พฤหัส US Nonfarm payroll (Jun) คาด 2.27 แสนราย ลดลงจาก 2.8 แสนราย ส่วนอัตราว่างงาน คาด +5.4% จาก 5.5%, รายงานการประชุม ECB
(*) ศุกร์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการวันชาติ, EU PMI composite, และอาทิตย์ 5 กค. ลุ้นผลประชามติกรีซ ว่าจะยอมรับเงื่อนไขเจ้าหนี้หรือไม่
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
รายงานวันนี้
หุ้น: KBANK คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 225.00
เราเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานที่ผ่านมา ผู้บริหาร KBANK เปลี่ยนมาเน้นคุณภาพของสินทรัพย์จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปี 2558 มากกว่าที่เราคาด
โดยลดเป้าการเติบโตของสินเชื่อลง 6% เป็นไปตามที่เราประมาณ และคาดส่วนต่างดอกเบี้ยปี 2558 อยู่ที่ 3.55% ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของบริษัทที่ 3.5-3.6%
การเพิ่มขึ้นของต้นทุนสินเชื่อ อยู่ที่ไม่เกิน 1.5% ในปี 2558 จากเดิม 1% เพื่อสะท้อนความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ค่อนข้างช้า และเพื่อรักษาอัตราส่วนหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ปัจจุบันที่ 140%) ส่งผลให้เราลดผลประกอบการคาดการณ์กำไรลงเหลือ 14% ในปี 2558
เราคาดกำไรไตรมาส 2/58 ต่ำลง 6% YoY และ 11% QoQ จากการสำรองค่าเผื่อหนี้สูญที่สูงขึ้นของบริษัท
นักวิเคราะห์: สุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
กลุ่ม: ปิโตรเคมี คำแนะนำ: ลดน้ำหนักการลงทุน ราคาเป้าหมาย (บาท): -
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปิโตรเคมีปรับตัวทั้งขึ้นและลง โดยความต้องการซื้อสูงขึ้นในบางผลิตภัณฑ์ซึ่งส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบที่อ่อนตัวลงและอุปทานที่เพิ่มขึ้นกดดันราคาสำหรับบางผลิตภัณฑ์
ราคาและส่วนต่างราคา คาดจะค่อยๆอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งแรกของไตรมาส 3/58 จากการสิ้นสุดฤดูกาลการปิดซ่อมบำรุงโรงงานโอเลฟินส์และการเริ่มดำเนินการผลิตของโรงงาน PX ใหม่ในเดือนมิ.ย.
ส่วนต่างราคาโอเลฟินส์สูงขึ้น WoW การลดลงของต้นทุนวัตถุดิบ, ส่วนต่างราคา HDPE และ MEG เติบโตแข็งแกร่ง WoW จากกำลังซื้อที่สูงขึ้นทั่วภูมิภาค,
ส่วนต่างราคา PVC สูงขึ้น WoW จากแรงซื้อที่สูงขึ้นทั่วภูมิภาคเช่นกัน
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม
Technical Analysis
Security: ADVANC
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 248
Stop loss: < 234
Reason: ราคาหุ้นส่งสัญญาณฟื้นตัว
ขึ้นจากฐานบริเวณ 230 ปัจจุบันราคาปิดเหนือกรอบแนวรับ ลุ้นทดสอบแนวต้านที่ให้ไว้บริเวณ 248
Security: AOT
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 318
Stop loss: < 304
Reason: มองการปรับขึ้นจากการปิดสูงและสัญญาณบวกจากเส้นค่าเฉลี่ยคล้ายรูปแบบในอดีต
Security: BWG
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 1.95
Stop loss: < 1.70
Reason: ราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นมาในตำแหน่งที่น่าสนใจ สอดคล้องกับเครื่องมือทางเทคนิค Stochastic ขึ้นจากกรอบล่างและวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Security: AMATA
Position: ขาย
Reason: สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ถึงความเสี่ยงปัจจุบันราคาปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ อาจส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงแรง
Security: IVL
Position: ขาย
Reason:ปัจจุบันราคาหุ้นถึงจุดที่มีความเสี่ยงของการปรับขึ้นจำกัด เนื่องจากไม่สามารถทะลุผ่านยอดเดิม 29 บ. ขณะที่ RSI กำลังปรับตัวลงเมื่ออยู่สูงหรือ Overbought
Security: STEC
Position: ขาย
Reason: ราคาหุ้นเริ่มปรับตัวลจากการดีดตัวไม่ผ่านยอดเดิม 24 ขณะที่ RSI กำลังปรับตัวลงเมื่ออยู่สูงหรือ Overbought คล้ายรูปแบบในอดีต
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์